ทุกๆ สุดสัปดาห์ก่อนวันเคารพผู้สูงอายุในเดือนกันยายนของทุกปี นักท่องเที่ยวนับพันนับหมื่นคนต่างไหลหลั่งเข้าสู่เมืองคิชิวะดะทางตอนใต้ของจังหวัดโอซาก้า เพื่อร่วมชมเทศกาลดันจิริอันน่าตื่นเต้น ในงานนี้ผู้มีจิตศรัทธาจะลาก "ดันจิริ" หรือรถลากอัญเชิญเทพเจ้าไปตามถนนอันแคบและคดเคี้ยวบริเวณริมทะเลด้วยความเร็วชวนขนลุก ในเดือนตุลาคม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ก่อนวันสุขภาพและการกีฬาแห่งชาติ ยังมีจเทศกาลดันจิริย่อยอีกครั้งในด้านติดภูเขาของคิชิวาดะด้วย นอกจากนี้เมืองเล็กๆ ที่อยู่รายรอบยังจัดเทศกาลดันจิริของตนในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่ไม่มีเวลาไปร่วมเทศกาลที่กล่าวมานี้ก็สามารถลิ้มรสประสบการณ์ผ่านทางหอดันจิริแห่งคิชิวะดะได้ เพียงเดินจากปราสาทคิชิวะดะไป 5 นาทีเท่านั้นค่ะ
หอดันจิริแห่งคิชิวะดะตั้งขึ้นเพื่อเชิดชูพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อขอพรให้เก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ผลดีมาเนิ่นนานกว่า 300 ปี โดยที่ชั้นหนึ่งของหอจะจัดแสดงภาพโปสเตอร์และภาพเขียนสี ผลงานของนักนิยมงานเทศกาลนี้ มีงานจิตรกรรมที่วิจิตรบรรจง และผืนพรมขนาดใหญ่ถักทอเป็นรูปดันจิริที่เคลื่อนไหวอย่างน่าจดจำ (ผนึกอยู่บนกำแพงนะคะไม่ได้ปูลาดบนพื้น) พอขึ้นไปชั้นสอง แอ็คชั่นเต็มๆ จากหนังสั้นที่ถ่ายทอดทั้งเสียงและพลังงานของเทศกาลดันจิริก็รออยู่ในอีเวนต์พลาซ่า นักท่องเที่ยวจะได้เห็นดันจิริติดโคมโชชินที่มีไว้สำหรับขบวนแห่ยามค่ำคืนด้วย นอกจากนี้ในอีเวนต์พลาซ่ายังจำลองเมืองในขัณฑสีมาของปราสาทคิชิวะดะเมื่อครั้นแรกเริ่มเทศกาลไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูจากลูกคิดและตาเต็งในร้านค้าเอาก็ได้ค่ะ
ในชั้นสามซึ่งเป็นที่ตั้งของดันจิริมินิแกลเลอรี่ มีนิทรรศการแบบจำลองดันจิริย่อส่วนที่แกะเกลาอย่างสละสลวยและใช้วัสดุตรงตามดันจิริของจริงทั้งไม้ ผ้าคลุม และเชือก หากอยากรู้ว่าส่วนประกอบย่อยๆ ของดันจิริมีอะไรบ้างก็มีแบบจำลองให้ดู และยังมีแบบจำลองที่ทำขึ้นจากกระดาษลังยับยู่ยี่และใบปลิวโฆษณาที่ชวนให้ทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ของแฟนพันธุ์แท้ดันจิริในวันนี้
สำหรับคุณหนูๆ ก็มีมุมเรียนรู้ที่น่าสนุกสนานรออยู่ที่ชั้นสี่ค่ะ โดยน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่สามารถป่ายปีนแบบจำลองหลังคาและตัวถังของดันจิริ ถ่ายภาพในเครื่องแต่งกายชุด "ฮัปปิ" แบบดั้งเดิม และทดลองเล่นระฆังและกลองไทโกะแบบที่ใช้ในเทศกาล ถัดจากมุมเรียนรู้ก็ถึงคิวของโรงภาพยนตร์ 3 มิติ ที่ฉายหนังจากมุมมองด้านบนสุดของหน้าตัดดันจิริ ระหว่างที่หนังฉายพื้นโรงภาพยนตร์ก็จะสั่นตามระดับความเร็วที่ดันจิริเคลื่อนที่เพื่อความสมจริงอีกด้วย
บนกำแพงของมุมเรียนรู้และบันไดลงไปยังชั้นสาม จะมีชุดฮัปปิและโคมโชชินติดแสดงไว้อยู่ (ถ้ายังไม่หนำใจกับอรรถรสที่ได้จากหนังที่ฉายในอีเวนต์ฮอลล์ สามารถดูซ้ำจากบันไดนี้ได้ด้วยค่ะ) และก็มาถึงนิทรรศการสุดท้ายคือห้องแสดงดันจิริในวันวานและวันนี้ จัดแสดงชื้นส่วนเครื่องตกแต่งและงานไม้แกะสลักที่ใช้ประดับดันจิริ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้รังสรรค์ดันจิริ และภาพของศิลปินผู้อยู่เบื้องหลัง มีวิดีโอทายปัญหาให้เล่น (มีแต่ภาษาญี่ปุ่น) และยังมีโอกาสให้เต๊ะท่าถ่ายภาพต่อหน้าดันจิริสีสันสดใสด้วย
ใครที่สนใจเทศกาลดันจิริแห่งคิชิวะดะ การมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทั้งสนุกและได้ความรู้แน่นอนค่ะ แถมยังไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนมากมายในเทศกาลด้วย