Even Single Rooms are spacious at the Sheraton Miyako Hotel (เครดิตรูปภาพ: Bonson Lam)

เชอราตันมิยาโกะ อุเอฮอมมาชิ โอซาก้า

มนต์สเน่ห์ของโลกเก่าและคุณค่าที่สัมผัสได้

Even Single Rooms are spacious at the Sheraton Miyako Hotel (เครดิตรูปภาพ: Bonson Lam)
Onlada Chollavorn   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

มีคนพูดว่าการอยู่ในญี่ปุ่นนั้นจะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อผมเข้าพักที่เชอราตัน โอซาก้า ผมก็รู้สึกแปลกใจแต่ก็พึงพอใจมาก ห้องพักอันหรูหราและกว้างขวางในโรงแรมสี่ดาว ทุกห้องมีราคา 10,000 เยน ถ้าเป็นห้องพักในซิดนีย์หรือนิวยอร์คราคาอาจจะแพงกว่านี้ถึงสองเท่า

โรงแรมแห่งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มโรงแรมมิยาโกะและเชอราตันรวมถึงการต้อนรับแบบชาวญี่ปุ่นทื่มีคุณสมบัติแบบนานาชาติที่คุณคาดหวังจากเชอราตัน น่าทึ่งมากที่เราสนใจรายละเอียดที่พวกเขามีตั้งแต่รองเท้าสนีกเกอร์ที่คุณสามารถยืมจากในโรงยิมไปจนถึงไฟในห้องพักทั้งหมดที่สามารถปรับได้ที่ตัวควบคุมข้างๆ เตียง

มีร้านอาหารมากมายที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารเช้าหรืออาหารเย็นได้ ตั้งแต่บุฟเฟ่ต์อาหารตะวันตกไปจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณผ่อนคลายและจิตใจสงบ

บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าแบบตะวันตกมีตัวเลือกมากมายแต่ราคาค่อนข้างจะแพงกว่า 2,000 เยน ยกเว้นแต่ว่าคุณจะรวมค่าอาหารเข้ากับแพคเกจที่พักแล้ว ผมคิดว่าชุดอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นนั้นให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า ที่นี่ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่และร้านสะดวกซื้อมากมายใกล้ที่พักหากว่าคุณต้องการด้วย

มีคาเฟ่ทางด้านทิศตะวันออกของอาคารโรงแรมซึ่งขายขนบอบและมีกระทั่งไข่ต้มในราคา 50 เยนต่อฟอง ในกรณีที่คุณไม่อยากจะทานอาหารเช้าแบบเต็มรูปแบบ

ตัวโรงแรมนี้ค่อนข้างใหญ่ทำให้คุณต้องใช้เวลาเดินทางไปหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แขกที่อยากจะเข้าไปในโรงยิมและสระว่ายน้ำต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่โรงแรมในโอซาก้าที่มีสระว่ายน้ำและไลฟ์การ์ดที่ทำงานในเวลาทำการของโรงแรม ตอนนี้ผมอยู่ในสระว่ายน้ำที่เกือบจะว่างเปล่า ค่อนข้างเป็นเหมือนสวรรค์ที่่่ห่างไกลจากถนนช็อปปิ้งที่วุ่นวาย ขอเตื่อนว่าคุณไม่สามารถลงไปในสระว่ายน้ำได้หากว่าคุณมีรอยสัก ซึ่งจะเหมือนกับในสระว่ายน้ำและน้ำพุร้อนส่วนมากในญี่ปุ่น

ในทางกลับกัน หากว่าคุณต้องการใช้ไวไฟ ที่นี่จะมีให้บริการเฉพาะตรงล็อบบี้เท่านั้น ถ้าคุณไม่สามารถใช้งานได้ก็ให้ไปถามรหัสผ่านจากเจ้าหน้าที่ ล็อบบี้เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่เฝ้ามองสังคมในโอซาก้า ตั้งแต่เจ้าสาวในชุดกิโมโนไปจนถึงการประชุมทางธุรกิจ

สิ่งที่ผมชอบคือสวนอันเชียวชอุ่มรอบล็อบบี้และร้านอาหาร เป็นการผ่อนคลายที่ยอดเยี่ยมมาก สวนนี้คือความผสมผสานกับองค์ประกอบแบบญี่ปุ่นต่อความเป็นธรรมชาติ และแม้ว่าฝนจะตก ที่นี่ก็ยังให้ความรู้สึกสงบเพียงแค่จ้องมองสายฝนที่หยดลงมายังสวนหญ้ามอส

ห้องพักที่นี่ให้ความสะดวกสบายและกว้างขวางตามมาตรฐานของชาวญี่ปุ่น บางห้องจะมีความทันสมัย (ห้องพักที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งเห็นได้ชัดจากการจองทางเว็บไซด์) และยังมีห้องมากมายที่เป็นแบบดั้งเดิม (ตกแต่งแบบปี 1970) ห้องพักนี้ก็มีความสะดวกสบายเช่นกันแต่แขกบางคนอาจจะไม่ชอบการตกแต่งแบบโบราณ เพราะว่าที่นี่มีห้องพักมากมาย คุณอาจจะไม่ได้ยินเสียงของแขกท่านอื่นจากห้องของคุณ ยกเว้นว่าคุณจะโชคดีมากพอได้พักในห้องถัดจากแขกกลุ่มใหญ่ หากคุณเช็กอินและเช็กเอาท์นอกเหนือจากชั่วโมงเร่งด่วนก็จะทำให้การดำเนินการเรื่องการเข้าพักเป็นไปอย่างง่ายดาย พนักงานเหล่านี้มีความเป็นมิตรและพูดภาษาอังกฤษได้ดี

โรงแรมนี้สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟใต้ดินได้ในระยะเวลาสองนาที และถ้าคุณเดินไปทางทิศตะวันตก คุณจะไปถึงสถานีซึรุฮาชิซึ่งใช้เวลาประมาณสิบถึงสิบห้านาที นอกจากนี้ยังมีสถานีคินเท็ตซึที่อยู่ข้างใต้โรงแรมซึ่งจะพาคุณไปยังนาราด้วยเวลาสามสิบห้านาที รวมทั้งมีห้างสรรพสินค้าสิบสองชั้นที่อยู่อาคารติดกัน หรือคุณอาจจะเดินเล่นรอบตลาดคุโรมอนซึ่งเป็นเหมือนกับห้องครัวของโอซาก้าก็ได้

ถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปสนามบินโดยใช้บริการแอพอร์ต ลิมูซีน บัส จากสนามบินคันไซ รถบัสจะจอดที่ด้านหน้าของโรงแรมซึ่งเป็นป้ายที่กำหนดไว้ว่าต้องจอด คุณต้องขึ้นรถบัส "คินเท็ตซึอุเอฮอมมาชิ" จากป้ายรถบัสหมายเลข 7 ก่อนที่จะขึ้นรถบัส โปรดซื้อตั่วที่เครื่องหยอดเหรียญที่ตั้งอยู่ข้างป้ายรถบัส รถบัสคันแรกจากสนามบินจะออกเดินทางเวลา 6.25 น. และรถบัสคันสุดท้ายจะออกเดินทางเวลา 10 น. รถบัสคันแรกจากโรงแรม จะออกเดินทางเวลา 6.10 น. และออกทุกๆ 20 นาทีหลังจากนั้น มันจะพาคุณไปยังสนามบินแห่งชาติคันไซด้วยเวลา 51 นาที รถบัสเป็นตัวเลือกที่ดีหากว่าคุณมีสัมภาระมากหรือถ้าไม่ติดใจเรื่องการต้องรอคอยเป็นเวลาหลายนาทีในชั่วโมงเร่งด่วน รถบัสของสนามบินจะมีขนาดใหญ่และตรงต่อเวลามาก

ถ้าไม่ชอบรถบัสคุณก็สามารถขึ้นรถไฟคินเท็ตซึไปยังนัมบะ และขึ้นรถไฟไปสนามบินนันไคซึ่งราคาค่อนข้างถูกประมาณ 850 เยน แต่คุณต้องเพิ่มเวลาในการเดินทางประมาณ 10 ถึง 15 นาทีเพื่อไปยังสถานีนัมบะให้ทันรถไฟภายในเวลา 47 นาที ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าขึ้น แอพอร์ต ลิมูซีน บัส โดยตรง รถไฟสาย เจอาร์ พาส จะมุ่งหน้าไปทิศใต้แทนที่จะเป็นทิศตะวันตก โดยการขึ้นรถไฟจากสถานีทานิมาชิเคียวโคม ไปยังสถานี เท็นโนติ และจากนั้นก็เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายจำกัดฮารุกะหรือรถไฟที่ไปสนามบินแบบทั่วไปเพื่อไปยังสถานีสนามบินคันไซ

Onlada Chollavorn

Onlada Chollavorn @onlada.chollavorn

My name is Onlada. I am passionate about creative thinking and digital technology. My motto is “The price of success is hard work, dedication to the job at hand, and the determination that whether we win or lose, we have applied the best of ourselves to the task at hand.”