สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกมักจะมีการกำหนดค่าเข้าชม เป็นค่าบำรุง และค่าจัดการระบบภายใน ทั้งพิพิธภัณฑ์ สวนสนุก หรือกระทั่งสวนสาธารณะ แต่การมาเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอซาก้า ความจริงอย่างหนึ่งที่ทำให้เราอดแปลกใจไม่ได้ค่ะ สถานที่เข้าชมที่สามารถเข้าได้ฟรีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ กลับกลายเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ที่จัดรูปแบบการเยี่ยมชมได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะเป็นสถานที่ของบริษัทเอกชน อย่างที่พิพิธภัณฑ์โมโมฟุกุ อันโด ชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับเจ้าของต้นตำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์นิสเซน ที่รู้จักกันดีทั่วโลก และโด่งดังกับสูตรต้นฉบับอย่าง นิสเซน คับ นู้ดเดิ้ล รสไก่ ที่ความอร่อยต้องบอกว่าไม่มีใครเหมือน
เรานั่งรถไฟเจอาร์สาย Hankyu Takarazuka Line ออกจากสถานีนัมบะไปประมาณ 25 นาที มาลงที่สถานี อิเคดะ (Ikeda) และเดินออกมาที่ทางออกMasumi-cho exit และเดินผ่านถนนเล็กๆ เข้ามาอีกประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์โมโมฟุกุ อันโด ซึ่งมีรูปปั้นของคุณอันโด ยืนยิ้มอย่างใจดีรอต้อนรับพวกเราอยู่
การเข้าชมนั้นไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยจะแบ่งเป็นโซนให้ความรู้ และตำนานกว่าจะมาเป็นราเมนสำเร็จรูป วิถีชีวิตของชาวญีปุ่่นโบราณกับการรับประทานอาหาร และเส้นทางชีวิตที่ทำให้เราเห็นความอดทน และความมุ่งมั่นของคุณอันโด เรื่อยมาจนถึงวันที่ราเมนสำเร็จรูปของนิสเซน มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในอาหาร "อวกาศ" สำหรับนักบินอวกาศขององค์กรนาซ่า ห้องจัดแสดงนิทรรศการซ่อนลูกเล่น และเกมส์สนุกๆ ที่ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และเล่นสนุกไปตามการดำเนินเรื่องราวตำนานราเมน แม้จะมีท้องเรื่องเป็นญี่ปุ่น แต่ก็มีการใช้ภาษาอังกฤษแปลกำกับเอาไว้ในทุกๆ ฐานที่ได้เข้าชม
อีกหนึ่งความประทับใจคือ น้ำใจ และความเป็นมิตรของพนักงานที่พิพิธภัณฑ์ โมโมฟุกุ อันโด แห่งนี้ เมื่อพวกเราลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมเวิร์คชอปทำราเมนที่จะจัดขึ้นในห้องครัวชั้นสอง และจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พนักงานซึ่งใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่ถนัดนัก ได้เข้ามาสอบถามถึงอายุของเด็กที่จะเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งกำหนดให้เด็กต้องมีอายุ 6 ขวบขึ้นไป ในขณะนั้น เจ้าตัวเล็กของเราอายุ 5 ขวบ 10 เดือน พนักงานจึงเข้ามาขอโทษอย่างสุภาพ พร้อมทั้งพยายามอธิบายว่าพวกเราคงไม่สามารถเข้าร่วมเวิร์คชอปนี้ได้ และยังแนะนำให้พาเด็กๆ ไปทำราเมน Do it Yourself ที่อีกมุมหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ ที่ซึ่งเด็กๆ สามารถเลือกรสชาติ เลือกทอปปิ้ง และออกแบบบรรจุภัณฑ์สีสันสวยงามได้ตามจินตนาการ แม้จะผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่ได้ลงไม้ลงมือทอดบะหมี่อย่างที่ตั้งใจ แต่เมื่อเราขึ้นไปเกาะขอบจอดูถึงห้องเวิร์คชอบ ก็ทำให้เราเข้าใจได้ทันทีว่า มาตรฐานความปลอดภัยคือเรื่องที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญ และต้องเคร่งครัดกับระเบียบนั้น เพราะทั้งหม้อ และ กระทะน้ำมันร้อนๆ อาจเป็นอันตรายกับเด็กๆ ที่อายุน้อย และขาดความระมัดระวังได้
เรากลับบ้าน พร้อมกับราเมน DIY ขอนิสเซน เป็นครั้งแรกที่ลูกได้รับประทานสิ่งที่บ้านเราเรียกกันว่า "มาม่า" และลูกก็ชอบมากจนกลายเป็นแฟนคลับตัวน้อยของนิสเซนมาจนทุกวันนี้ค่ะ