ไคยุคังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อไปโอซาก้า เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่มีกรเลี้ยงวาฬฉลามเป็น ๆ ไว้อยู่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้เน้นในเรื่องของชีวิตในท้องทะเลจากทั่วบริเวณวงแหวนไฟแห่งแปซิฟิคซึ่งมีญี่ปุ่นเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วย ทั่วบริเวณมีข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น แล้วก็ยังมีระบบเสียงนำทางให้เช่าด้วย
หนึ่งในสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือแท็งก์ที่มีหลายระดับ ตอนแรกจะเริ่มเดินในป่าฝนและชมตัวนากเล่นจากด้านบน แต่พอเดินลงไปก้จะเห็นพวกมันในระดับผืนน้ำ จากนั้นก็เป็นใต้น้ำด้วย เกือบทั้งหมดในบรรดาสิบเอ็ดแทงก์จะเป็นแบบนี้เพื่อให้คุณได้ชมชีวิตสัตว์ให้ครบทุกมุมมอง
ฉลามวาฬของที่นี่ ยู-จัง ถือเป็นไพ่เด็ดของทางพิพิธภัณฑ์ ซึ่งย้ายมาจากศูนย์วิจัยสัตว์น้ำเมื่อหกเดือนที่แล้ว หลังจากที่ปล่อยฉลามวาฬตัวที่อายุมากกว่ากลับสู่ถิ่นของมันไป วาฬฉลามเพศเมียตัวนี้แหวกว่ายไปทั่วทั้งแท็งก์ยักษ์ สร้างความตะลึงให้กับนักท่องเที่ยวนับพันชีวิตทุกวัน แม้จะอายุเพียงหกขวบ ยู-จังก็มีน้ำหนักตัว 900 กิโลกรัม และตัวยาวเกือบห้าเมตร ฉลามวาฬอาจมีชีวิตได้เกินร้อยปีและจะตัวยาวได้นับสิบเมตร เราไม่ค่อยรู้จักยักษ์ใจดีเหล่านี้เท่าไหร่นัก และทางพิพิธภัณฑ์ก็จะช่วยเหลือเราเต็มที่เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งมีชีวิตอันน่ามหัศจรรย์สายพันธุ์นี้ ที่อยู่ในแท็งก์กับยุ-จังคือกระเบนยักษ์ ฉลามหัวค้อน ฉลามวอบบีกอง และอื่น ๆ อีกมากมาย
มีชีวิตสัตว์ทะเลที่สวยงามมากมายให้ชมที่นี่ แต่ไฮไลต์ก็ได้แก่นากทะเล ราชันย์เพนกวิน และปูแมงมุมยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งปกติแล้วใช้ชีวิตอยู่ใต้ความลึกสี่ร้อยเมตร เหมือนตัวประหลาดต่างดาวที่หลุดออกมาจากเรื่อง War of the Worlds และเขี้ยวแหลมคมบนเท้าของพวกมัน (?) ทำให้ผมหวั่นใจถ้าต้องไปอยู่ร่วมโลกใต้ทะเลด้วยกัน
แท็งก์แมงกะพรุนเป็นอีกส่วนที่ผมชอบที่สุด สัตว์ทะเลประหลาดเหล่านี้ลอยล่องไปรอบแท็งก์ สะท้อนแสงนีออนวูบวาบที่สาดผ่านร่างกายโปร่งแสงของพวกมัน
กิ๊ฟช็อปของที่นี่มีทุกอย่างตั้งแต่ฉลามวาฬยักษ์แบบสตั๊ฟฟ์ไว้ไปจนถึงดีวีดีให้ความรู้ มีใหล้เลือกซื้อหลายอย่าง และรายได้จะนำไปสนับสนุนงานวิจัยสำคัญ ๆ ของทางพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับท้องทะเลอันแสนล้ำค่าของพวกเรา
ที่อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าคือชิงช้าสวรรค์ยักษ์เทมโปะจัง มีความสูงบนยอดที่ระดับ 112.5 เมตรเหนือมหานคร ตอนที่สร้างครั้งแรกก็เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก แต่ก็พ่ายแชมป์ให้กับลอนดอน อาย ในตอนกลางวันคุณจะเห็นวิวได้ไกลถึงสะพานอาวาจิ ซึ่่งเป็นสะพานแขวนที่มีความยาวมากที่สุดของโลกด้วยระยะทางสี่กิโลเมตร เชื่อมระหว่างโกเบกับเกาะอาวาจิ ส่วนจอนกลางคืนก็มีแสงสีอบอุ่นรอบทิศทางจากไฟบนท้องถนนและนีออน
แสงไฟบนชิงช้าสวรรค์จะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศที่คาดการณ์ในวันพรุ่งนี้ เป็นวิธีชมพยากรณ์อากาศแบบเก๋ ๆ ตอนที่เราไปขึ้นมันเป็นสีแดงก็เลยรู้ว่าเหมาะที่จะฉลองวันส่งท้ายปีเก่า ขึ้นชิงช้าสวรรค์ใช้เวลาสิบห้านาทีจึงครบรอบ และมีการบรรยายภาษาอังกฤษผ่านระบบเสียงถ่ายทอดในแต่ละตู้ด้วย
ไคยุคังเหมาะแก่การมาเที่ยวยามบ่ายในโอซาก้า กับบริเวณโดยรอบที่เต็มไปด้วยร้านค้าและสถานที่ท่องอื่นๆ เยอะมาก ที่นี่ให้คุณได้ชมความมหัศจรย์ของหลากชีวิตใต้ท้องทะเล และช่วยย้ำเตือนว่าทำไมเราถึงต้องร่วมกันปกป้องเอาไว้