เดิมทีพื้นที่ของสวนสาธารณะเล็กๆ Sankaku koen ในย่านนี้คือที่รวมตัวของเหล่าวัยรุ่นมาฝึกซ้อมเต้นรำ ร้องเพลง ไปจนถึงการแสดงตามสไตล์ตะวันตก จนกลายเป็นแหล่งที่คึกคักในเวลาต่อมา
แต่เดิมนั้นย่านนี้เป็นคลังที่เก็บถ่านซึ่งถูกขนมาตามแม่น้ำโดตมโบริ (Dotonbori) ต่อมาในช่วงราวยุค 70 (ราวปี ค.ศ.1970) ได้เริ่มมีคนมาเช่าคลังสินค้าเก่าแห่งนี้เปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ เครื่องประดับ แผ่นเสียง ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านในแนวอินดี้เล็กๆ ขายสินค้ามือสองที่มาจากฝั่งอเมริกาเป็นหลัก ภายหลังมีการจัดเทศกาล America Mura Natsu No Jin ขึ้นที่หางสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในยุคก่อน งานนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และนั่นก็กลายมาเป็นชื่อย่านอย่างเป็นทางการที่เรียกกันว่า Americamura (アメリカ村) หรือแปลได้ว่า หมู่บ้านอเมริกา จนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
จากแหล่งชิคๆ ของเหล่าอินดี้นั้นต่อมาก็กลายเป็นแหล่งฮิปๆ ของคนเก๋ๆ ทั้งหลาย จนในที่สุดก็กลายเป็นแหล่งฮิตๆ ของวัยรุ่นอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา จนเกิดการขยายเขตการค้าอย่างรวดเร็ว มีการสร้างอาคารสมัยใหม่ขึ้นมากมาย มีร้านรวงเพิ่มขึ้นอีกเพียบ และส่วนใหญ่เป็นร้านแฟชั่นฮิตของวัยรุ่นนั่นเอง อารมณ์คล้ายกับย่านฮาราจูกุ ที่โตเกียว หรือย่านสยามสแควร์ในกรุงเทพฯ ที่มีร้านค้ารายรอบลานสาธารณะและตามตรอกซอกซอยอีกมากมาย ปัจจุบันร้านค้าที่อยู่รายรอบบริเวณ Americamura (アメリカ村) นี้มีตั้งแต่ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง, ร้านขายแฟชั่นแนว Street Ware ฮิปๆ เก๋ๆ, ไปจนกระทั่งร้านหรูๆ ของแบรนด์เนมชื่อดังในกลุ่ม Street Ware เลยทีเดียว ที่สำคัญ!!! ตามชื่อย่านที่บอกนั้นทำให้ที่นี่เป็นแหล่งขายสิ้นค้าแนว Street Ware ที่นำเข้ารุ่นพิเศษที่ผลิตเฉพาะในอเมริกามากมาย เรียกได้ว่าอยากได้แฟชั่นแบบไหน แบรนด์ไหน ที่เป็นคอเล็กชั่นล่าสุดในเวอร์ชั่นที่ผลิตในอเมริกาล่ะก็มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน
***********************************************************************************
Hightlight Spot
- PEACE ON EARTH (Wall Painting) >>> สัญลักษณ์อันโดดเด่นของย่าน Americamura (アメリカ村) นั้นก็คือจิตรกรรมฝาผนังร่วมสมัยที่ระบายอยู่บนตัวตึกกว่า 3 ชั้นซึ่งเป็นลายเส้นคล้ายคนมาพร้อมกับคำว่า PEACE ON EARTH ภาพเพนท์กำแพงนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กที่เป็นเอกลักษณ์ของย่านและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โด่งดังของโอซาก้าอีกด้วย โดยลวดลายดังกล่าวนั้นสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1983 โดยคุโรดะ ไซตาโร่ (Seitaro Kuroda) ศิลปินชาวโอซาก้าที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นและโด่งดังในระดับโลกซึ่งเอกลักษณ์งานของเขานั้นก็คือลายเส้นแบบเด็กๆ ที่มีสีสันสดใส และมีการสร้างสรรค์เฉพาะตัวนั่นเอง (ข้อมูลเกี่ยวกับศิลปิน : www.k-3.co.jp)
- RIBIA VISION (Media Screen & Activity Stage) >>> ด้านข้างสวนสาธารณะ Sankaku koen นั้นก็คือที่ตั้งของ RIBIA VISION (RIBIA = Real-time Information Board In America-mura) สื่อโฆษณาและจอทีวีขนาดยักษ์ที่เคลื่อนย้ายได้แห่งแรกของญี่ปุ่นและยังเป็นศูนย์กลางของเวทีแห่งศิลปวัฒนธรรมสมัยใหม่อันโดดเด่นแห่งหนึ่งของประเทศอีกด้วย นอกจากโปรแกรมรายการต่างๆ ที่ออกอากาศสดแล้ว จอยักษ์ใหญ่นี้ยังเคลื่อนเปิดขึ้นด้านบนได้ได้ซึ่งด้านหลังนั้นก็คือ Live House ห้องโถงสตูดิโอเล็กๆ บนชั้น 2 ของตึก และนี่เองคือเวทีแห่งการแสดงศิลปวัฒนธรรมรวมไปถึงกิจกรรมร่วมสมัยต่างๆ โดยเฉพาะการเป็นเวทีแสดงคอนเสิร์ตขนาดย่อมที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้โชว์ความสามารถกันอย่างเต็มที่ให้ชมกันแบบฟรีๆ ที่สำคัญเวทีเล็กๆ แห่งนี้ล่ะที่เป็นสถานที่แจ้งเกิดให้กับวงดนตรีดังๆ ของญี่ปุ่นมาแล้วมากมายอีกด้วย (ข้อมูลเพิ่มเติม/ตารางกิจกรรม : www.ribia.tv)
***********************************************************************************
เอกลักษณ์อีกอย่างที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์บอกอาณาเขตของย่านฮิปย่านฮิตนี้ก็คือเสาไฟรูปคนที่สูงโปร่ง (คล้ายหุ่นยนต์เสียมากกว่า) โดยหัวนั้นเป็นโคมไฟ และมือนั้นถือป้ายไฟโลโก้ร้านต่างๆ เสานี้จะกระจายตัวอยู่ทั่วย่านเต็มไปหมด ถ้าหากเดินแล้วไม่เห็นเสานี้ล่ะก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ได้อยู่ในเขตหมู่บ้านอเมริกาแล้วล่ะ
ปัจจุบัน Americamura (アメリカ村) นั้นยังคงเป็นหนึ่งในย่านดังของโอซาก้าที่เสมือนเป็นจุดเชื่อมแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆ มากมายในบริเวณนี้ตั้งแต่ย่านซินไซบาชิ (Shinsaibashi) เรื่อยไปจนถึงโดตมโบริ (Dotonbori) และนัมบะ (Namba) หรืออีกด้านก็เชื่อมกับย่านช้อปปิ้งชิคๆ เก๋ๆ อย่าง Orange Street อีกด้วย ย่านนี้จึงคึกคักและยังคงฮิตไม่เสื่อมคลาย
---------------------------------------------------------------
Americamura (アメリカ村)
+ ที่ตั้ง : Nishishinsaibashi, Chuo-ku, Osaka City, Osaka
+ ติดต่อ / ข้อมูลเพิ่มเติม : americamura.jp
+ วิธีเดินทาง :
>JR West : นั่งรถไฟ JR Osaka Loop Line (สายวงกลม) มาลงสถานี Shin-Imamiya หรือ Tennoji แล้วต่อรถไฟ JR Kansai Main Line (Yamatoji Line) ไปลงสถานี JR Namba แล้วเดินต่ออีกหน่อย
>Osaka Subway : นั่งรถไฟใต้ดินสาย M–Midosuji Line (สีแดง) หรือ N- Nagahori Tsurumi-ryokuchi (สีเขียวอ่อน) ลงสถานี M19, N15-Shinsaibashi