สวนมอสส์ที่วัดไซโฮจิ
Mandy Bartokสวนมอสส์ชื่อดังของไซโฮจิที่ชายขอบของเกียวโตนั้นคุ้มค่าที่ลงแรงไป
The Saihoji Temple was founded during the Nara period, about 1300 years ago, by the priest Gyōki at the request of the Emperor Shōmu, along with forty-nine other temples of the Hosso sect.
In 1339, in the midst of the devastation of the post-war period, Musō Kokushi, then one of the most respected Zen priests in Japan, revived the temple as a Zen temple at the invitation of Fujiwara Chikahide (the chief priest of the Matsunō shrine).
The complex with an area of 35,000 square meters is now one of the special historical sites and places of scenic beauty in Japan and was included in the list of World Heritage Sites by UNESCO in 1994 as a historical monument of ancient Kyoto. Because of the beautiful moss that covers the area, it is now popularly known as Kokedera (moss temple).
5-minute walk from Kokedera Bus Stop
สวนมอสส์ชื่อดังของไซโฮจิที่ชายขอบของเกียวโตนั้นคุ้มค่าที่ลงแรงไป
ถนนโตจิเหมือนกับเขตชิตะมะจิของเกียวโต ห่างเพียงแค่ 6 นาทีจากกลาส ทาวเวอร์ของสถานีเกียวโตแต่มันก็เหมือนย้อนกลับไปในอีกช่วงเวลาหนึ่ง
ครั้งสุดท้ายที่ผมอยู่ในเกียวโต ผมพยายามตัดสินใจเลือกระหว่างรีสอร์ทหรูในบริเวณชายเมืองหรือโรงแรมราคาประหยัดในใจกลางเมืองดี ภาพของสปาอันรื่นรมย์ล่อใจผมเป็นอย่างมากแต่ผมก็ยังต้องการจะอยู่กลางเมืองที่มีกิจกรรมให้ทำเยอะๆ คุณมองหาสิ่งใดในโรงแรมบ้าง? เตียงที่สะดวกสบาย, ห้องพักที่สะอาดและอยู่ใกล้กับทุกอย่าง? หรือรีสอร์ทหรูที่มี สปา, ร้านอาหารระดับ 5 ดาว,และสวนหย่อมที่สวยงาม? ถ้าคุณมองหาอย่างแรก โตโยโกะ อินน์ อาจจะเหมาะกับคุณนะ โตโยโกะ อินน์ เป็น 1 ในเครือข่ายโรงแรมธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและตอนนี้โรงแรมโตโยโกะ อินน์ ในจีนและเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน โรงแรมธุรกิจและรีสอร์ทมีความแตกต่างกันเพราะว่าพวกเขาถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน รีสอร์ทระดับ 5 ดาว อย่างเรียวกังบางแห่งหรือไฮแอทสามารถเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต้องการมาในขณะที่โรงแรมธุรกิจใช้เป็นที่พักชั่วคราวเพื่อจะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเท่านั้น รีสอร์ทหลายๆแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่ชมวิวที่มีทัศนียภาพที่สวยงามซึ่งผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับวันหยุดของพวกโดยเพียงแค่ชมวิวจากห้องพักของพวกเขา โรงแรมธุรกิจเช่นโตโยโกะ อินน์ ใช้เป็นที่พักชั่วคราวตัวอย่างเช่น ผู้เข้าพักทิ้งกระเป๋าเดินทางของพวกเขาไว้ในห้องพักที่โรงแรมและจากนั้นพวกเขาก็ออกไปเที่ยวข้างนอกทั้งวัน ข้อดีของโตโยโกะ อินน์ คือ คุณจะรู้ว่าคุณต้องการอะไร ที่นี่มีห้องพักสุดสะอาด, วอลล์เปเปอร์สีเบจอบอุ่นและลายสวย, เตียงที่สะดวกสบายแต่กะทัดรัด, อ่างอาบน้ำและฝักบัว, ชุดนอนยูกาตะ, โทรศัพท์ในห้อง, ตู้เย็นบาร์,โต๊ะเขียนหนังสือ, เครื่องปรับอากาศ, ชาญี่ปุ่น, และสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เช่น กาต้มน้ำร้อนที่มีฟังก์ชั่น ความชื้นและรายการทีวีแบบจ่ายเงินเลือกช่องชม ในพื้นที่ต้อนรับมีแล็ปท็อป/เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอยู่ไม่มาก นอกนี้ยังมี WiFi, หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น, และอาหารเช้าที่เรียบง่ายแต่อร่อยซึ่งได้รวมอยู่ในราคาห้องพักแล้ว เมนูอาหารได้แก่ ซุปมิโซะ, โอนิกิริ(ข้าวปั้นญี่ปุ่นรูปสามเหลี่ยม)กับสาหร่ายหรืออุเมะโบชิ(พลัมดอง)และครัวซองต์/ขนมปัง, ไส้กรอกมินิหรือไข่คนและสลัด สไตล์ญี่ปุ่น เช่น สลัดพาสต้ากับมายองเนสญี่ปุ่น, หรือสลัดมันฝรั่งพร้อมกับชาญี่ปุ่นหรืออังกฤษและกาแฟอเมริกัน และหากคุณอยากดื่มอย่างอื่นหรือนอนดึกแล้วตื่นไม่ทันอาหารเช้าที่นี่ยังมีตู้ขายของอัตโนมัติอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีที่รับฝากสัมภาระและเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญซึ่งสะดวกสบายเมื่อคุณท่องเที่ยวมาเป็นเวลานานและต้องการซักผ้า และหากคุณมีเวลา คุณสามารถซักผ้าในห้องน้ำและดึงราวตากผ้าที่พับเก็บได้มาตากผ้าตอนกลางคืนหรือจะเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมโกรกผ้าด้วยก็ได้ ข้อดีอีกข้อเกี่ยวกับโตโยโกะ อินน์คือ ตั้งอยู่จรงใจกลางเมืองจริงๆ เดินเพียงไม่กี่นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดินหรือรถไฟสายฮันกิว จากสนามบินอิตามิ คุณสามารถมาเดินทางโรมแรมได้โดยรถบัสหรือรถไฟ(ต้องเปลี่ยนรถ) ในขณะที่จากสนามบินคันไซ นั่งรถไฟฮารุกะไปสถานีรถไฟเจอาร์เกียวโตเป็นวิธีที่ดีที่สุดโดยต้องไปเปลี่ยนเป็นรถไฟใต้ที่สถานีรถไฟเจอาร์เกียวโตหรืออาจจะเดินไปก็ได้เพราะแค่เพียง 15 นาทีเท่านั้น อีกทั้งโรงแรมยังใกล้กับห้างสรรพสินค้าและอยู่ตรงกลางระหว่างวัดโกลเด้น(คินกากุจิ)และคิโยะมิซุ เดระและกิออนดังนั้นโรงแรมจึงเป็นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผ่อนคลายหรือเติมพลังหลังเสร็จจากการช้อปปิ้งหรือเที่ยวชมสถานที่ในตอนเช้า ห้องพักของผมอยู่ชั้นล่างดังนั้นผมจึงออกไปข้างนอกได้โดยไม่ต้องรอลิฟท์เพราะช่วงอาหารเช้าลิฟท์จะแน่นมาก เอาเวลาที่ต้องรอลิฟท์ไปเที่ยวเกียวโตดีกว่า ห้องพักชั้นสูงๆจะเห็นวิวได้แต่ก็เป็นวิวที่ไม่ค่อยสวยนัก ส่วนชั้นล่างจะเห็นวิวตึกข้างๆผมตัดปัญหาด้วยการปิดม่านซะ ที่นี่มีที่จอดรถสำหรับรถ 6 คันราคา 1,200 เยน ต่อวันซึ่งต้องจองก่อนล่วงหน้า ในเกียวโตมีโตโยโกะ อินน์อยู่หลายสาขาดังนั้นควรปรินท์แผนที่โรงแรมออกมาด้วยในกรณีที่ขับรถมาเองหรือนั่งรถขนส่งสาธารณะมา แขกส่วนใหญ่ที่นี่เป็นคนญี่ปุ่นดังนั้นพนักงานจะไม่พูดภาษาอังกฤษเท่าไร อย่างไรก็ตามทั้งการจองห้องพักทางอินเทอร์เน็ตและขั้นตอนเช็คอินทำได้ง่ายมาก ในเว็บไซต์มีหลายภาษาให้เลือกและคุณยังสามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการจองห้องพัก 1 วันล่วงหน้าก่อนวันเข้าพักได้ ราคาห้องเตียงเดี่ยวค่อนข้างถูกกว่าเล็กน้อยและมีส่วนลดให้สำหรับการเข้าพักวันอาทิตย์ บางครั้งทางโรงแรมมีบริการแบบ " Cinderella " คือ การเข้าพักหลังเที่ยงคืนโดยไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า เมื่อเวลาคุณเช็คอิน พนักงานจะให้คุณกรอกแบบฟอร์ม 2 ภาษาและถ้าคุณเป็นสมาชิกระดับสูงของโรงแรม คุณจะได้พักฟรีหลังจากคืนที่ 8 หรือคืนที่ 10(ขึ้นอยู่กับระดับสมาชิกที่คุณเป็นและรวมถึงส่วนลดในวันอาทิตย์ด้วย บัตรสามาชิกสามารถทำได้ฟรีหรืออาจจะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับสมาชิกในต่างประเทศ แค่ 1,500 เยนเท่านั้น) คุณต้องพักที่โรงแรมปีละครั้งหรืออหรือทุกๆ 2 ปี(สำหรับสมาชิกในต่างประเทศ)เพื่อรักษาสถานะสมาชิกไว้ดังนั้นคุ้มมากถ้าคุณพักที่นี่บ่อยๆ สิทธิพิเศษอื่นๆสำหรับสมาชิกคือ คุณสามารถเช็คอินได้ตั้งแต่ 3 โมงแทนที่จะเป็น 4 โมง ผมยังไม่เคยได้ยินพนักงานพูดกันเลยนะว่ามีคนเช็คเอาท์เลท(หลัง 10 โมงเช้า)ด้วยและถ้าคุณมีกระเป๋าเดินทาง คุณสามารถฝากไว้ที่โรงแรมได้ฟรีไม่ว่าจะก่อนเข้าพักหรือหลังเข้าพักก็ได้ทั้งนั้น ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่นครั้งแรกหรือผู้ที่ต้องการจะใช้โรงแรมเป็นที่พักชั่วคราวและไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรมากมายจากพนักงานต้อนรับ ผมแนะนำให้มาพักที่โตโยโกะ อินน์ หากคุณอยากจะท่องเที่ยวในเกียวโตนานๆหรือเป็นนักท่องเที่ยวที่เคยมาเที่ยวเกียวโตแล้วแต่ต้องการจะพักผ่อนในบริเวณเกียวโต เรียวกังหรือรีสอร์ทอื่นๆจะเหมาะกับคุณมากกว่า นอกจากนี้หากคุณต้องการคุยกับแขกคนอื่นๆและพนักงาน อีกทั้งยังต้องการที่จะแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ลองไปพักที่โฮสเทลฮานะที่ตั้งอยู่ใกลกับสถานีเกียวโตดู
เดินเพียงสามนาทีจากสถานีเกียวโต เรีวยกัง นิชิคิโระ (Nishikiro) เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้
เกียวโตมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ฉันหลงรักผู้คน วัฒนธรรม และอาหาร และถือเป็นสถานที่วิเศษสำหรับครอบครัว ครอบครัวของฉันทุกคนก็ชอบเกียวโตและทานอาหารแบบญี่ปุ่นเรียกว่าไกเซกิ
ร้าน Ex cafe หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Ickx cafe เป็นร้านกาแฟในอะระชิยะมะ ที่น่ามานั่งพักหลบร้อนและลิ้มลองขนมญี่ปุ่น ร้านแห่งนี้มีเนื้อที่กว้างขวาง ตั้งอยู่ห่างจากสถานีอะระชิยะมะเพียงสองสามนาที
SAGANOYU จากโรงอาบน้ำโบราณสู่คาเฟ่าอันแสนเก๋แห่งอะราชิยาม่า
The Katsura Imperial Villa, or Katsura Detached Palace, is a villa with associated gardens and outbuildings in the western suburbs of Kyoto, Japan. It is one of Japan's most important large-scale cultural treasures. [Wikipedia] A reservation is required to visit the Katsura Imperial Villa.
The Tenryuji is the main temple of the Rinzai Zen Buddhism sect of the same name and is located in the Arashiyama district in the northwest of the city of Kyoto. It is the most important Zen temple in the city and is a UNESCO World Heritage Site. The temple was built in 1339 by Shogun Ashikaga Takauji, who dedicated it to the recently deceased Emperor Go-Daigo. Both men were former allies until Takauji rebelled against the emperor in the struggle for supremacy in Japan. The temple should pacify the spirit of the deceased. The buildings of Tenryuji have been repeatedly destroyed by fire over the centuries, so that the current complex largely dates from the Meiji period (1868-1912). In contrast, the surrounding garden, which was designed by the well-known master of gardening, Muso Soseki, is still almost entirely original. Especially in autumn, when the foliage of the trees there and the Arashiyama mountains visible behind them turn red and yellow, the Tenryuji and its garden are a popular destination.
The Arashiyama Bamboo Forest is one of the most popular attractions in Kyoto and is made up of numerous trails for visitors to enjoy. For the best photos, make sure to get here early in the morning as it gets crowded very quickly. It's not just the beauty of the bamboo that attracts people. The Arashiyama bamboo forest is one of the 100 most beautiful soundscapes in Japan, which are designated by the Japanese Ministry of the Environment. The sound of the rustling bamboo swaying in the wind is almost meditative. If you walk along the main street of Arashiyama, you will also pass Tenryuji Temple, one of the most beautiful Zen temples in Kyoto. According to Japanese tradition, bamboo is a symbol of strength. Therefore, it often happens that a Buddhist temple or Shinto shrine has a small bamboo grove on its premises to ward off evil.