Lake Yamanaka (山中湖, Yamanaka-ko) is the largest of the Fuji Five Lakes and provides great views of Mount Fuji from its eastern side.
วิดีโอของเทศกาลดอกไม้ไฟในช่วงฤดูร้อนที่ทะเลสาบยะมะนะกะปี 2015 จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 1 สิงหาคม
แสงอาทิตย์ยามอัศดงสร้างบรรยากาศที่งดงามราวต้องมนต์ให้กับภูเขาไฟฟูจิตอนกลางคืนในเทศกาลดอกไม้ไฟแห่งทะเลสาบยามานากะ
วิวภูเขาฟูจิ บ้านพักตากอากาศในป่า และกลิ่นอายชนบทที่ทะเลสาบยะมะนะกะในยะมะนะชิ
มันช่างคุ้มค่ากับการที่ต้องตื่นแต่เช้าไปชมทะเลสาบมะนะคะโคะและภูเขาฟูจิ ในช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น มีธรรมชาติและบรรยากาศที่แตกต่างเป็นพิเศษ
สถานที่ท่องเที่ยวเล็กๆ น่ารักๆ ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดยะมะนะชิ คือ ทะเลสาบยะมะนะกะ ทะเลสาบสีฟ้าสดใสที่มีภูเขาฟูจิเป็นฉากหลัง ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณ 2-3 ชั่วโมง
เมื่อฤดูฝนจบสิ้นลงในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ความร้อนของน่าร้อนก็เริ่มคืบคลานเข้ามา อย่างไรก็ตามสำหรับปีนี้มีลมเย็นๆพัดผ่านมากับฝนที่ตกลงมาอย่างแผ่วเบาหลังจากช่วงของเทศกาล ทานาบาตะเป็นอะไรที่ค่อนข้างผิดฤดู แต่ถึงกระนั้นในช่วงต้นเดือนฉันก็ได้ขับรถไปจังหวัด ยามานะชิ ซึ่งห่างจากโตเกียวไปประมาณ 2 ชม. จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดนี้ เพราะว่าเหมือนทุกๆคน ครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะว่าฉันอยากจะเห็นภูเขาไฟฟูจิที่มีหิมะปกคลุมอยู่ด้านบน ได้ชมเงาสะท้อนของภูเขาในทะเลสาป คาวะงุจิ แต่ทว่าครั้งนี้ฉันมาที่จังหวัดนี้เพราะว่าเมืองนินจาที่มีชื่อว่า “โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ” เพื่อตามล่าหานินจาที่มีชื่อเสียงโด่งดั่งของประเทศญี่ปุ่น เพื่อเริ่มกิจกรรมการตามล่าของฉัน ฉันเลือกที่จะนั่งรถบัสจากโตเกียวมาที่จังหวัดยามานะชิที่เขียวขจีแห่งนี้ เมื่อมาถึงที่หมายรถบัสก็ได้ทำการจอดรถข้างหน้าป้าย“โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ” ฉันมาถึงที่นี่แล้วสินะ! ฉันก็เลยเริ่มการเดินทางครั้งนี้โดยการตระเวนหาของกินต่างๆตามข้างทางซึ่งนี่ก็คงเป็นหนึ่งในสิ่งที่นักท่องเที่ยวชอบทำ ฉันแวะเข้าร้านที่มีชื่อว่า “ลม ดอกไม้ หิมะ พระจันทร์ (แปล)” เพื่อที่จะเพิ่มพลังไปและเพลิดเผลิญไปกับอาหารที่อร่อยและเพื่อเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยที่จะมาถึง [photo id='186595'] [photo id='186598'] จากเมนูหลากหลาย ฉันก็จบลงด้วยการเลือกเซ็ตเมนูที่มีผักต่างๆชนิดจากจังหวัดยามะนาชิ และอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดที่รู้จักกันว่า “โฮโตะ” นอกจากนั้นฉันได้ลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงแกงกะหรี่ดำจานพิเศษที่สามารถหาได้แค่ที่ร้านนี้เท่านั้นจากพ่อครัว หลังจากทานอาหารเสร็จ ฉันก็โชคดีมากเพราะว่าฉันได้เข้าร่วมในพิธีกรรมการชงชาของชาวญี่ปุ่นซึ่งสามารถเข้าร่วมได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ภายใต้คำสอนของอาจารย์ในพิธี ฉันค่อยๆทานขนมและผลที่ได้ถูกจัดมาอย่างปราณีตพร้อมทั้งจิบชาอย่างช้าๆ ในปากของฉัน ฉันรู้สึกว่ารสชาติที่หวานจากขนมและความขมของชาเข้ากันอย่างลงตัว ฉันกำลังดื่มด่ำไปกับกิจกรรมแบบดั้งเดิมที่ชาวญี่ปุ่นนับว่าเป็นประสบการ์ณที่ต้องลองครั้งนึงในชีวิต [photo id='186596'] [photo id='186594'] หลังจากที่ฉันออกมาจากร้านอาหาร ฉันก็ได้เดินไปที่ลานเพื่อจะเริ่มประสบการ์ณนินจาของฉัน ที่ลานได้ถูกต้องแต่งไปด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการเป็นนินจาในครั้งนี้ที่ทาง “โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ” ได้เตรียมไว้ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กสามารถแต่งตัวเป็นนินจาได้ เตรียมพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรมและผ่านด่านท้าทายต่างๆที่ทางเมืองได้คิดเอาไว้ [photo id='186593'] [photo id='186597'] หลังจากที่ฉันผ่านด่านแนะนำ เช่น เขาวงกต และ ห้องมืดของนินจา ฉันรู้สึกผิดเล็กๆที่แอบดูถูกว่าด่านพวกนี้ไม่น่าจะยากเท่าไหร่นัก แต่ฉันก็คิดผิดไปจริงๆ เพราะหลายครั้งที่ฉันต้องกลับไปเริ่มใหม่ในเขาวงกตที่ฉันคิดว่าง่าย แม้กระทั้งในห้องมืดที่ต้องใช้ทั้งความอดทนและความกล้าในการแก้ปัญหาเพื่อที่จะผ่านด้านไปได้ ท้ายสุดของกิจกรรม ทางไกด์ก็ได้พาฉันมาชมการแสดงจากผู้คนที่อาศัยอยู่ที่ “โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ” ฉันรู้สึกเหมือนฉันได้ย้อนเวลามาอยู่ในยุคนินจาจริงๆ นักแสดงแต่ละคนตั้งใจแสดงอย่างเข้าบทในการปกป้องพิทักษ์รักษาสมบัติและต่อสู้กับศัตรูต่างๆ ถ้าหากคุณมาที่จังหวัด ยามะนิชิแล้วละก็ อย่าลืมมาหาประสบการ์ณใหม่ๆในแบบนินจาที่ “โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ” ซึ่งคุณไม่สามารถหาได้จากเมืองหลวงแน่นอน