ทะเลสาบบิวะเป็นทะเลสาบน้ำจืดธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเกิดขึ้นมากว่า 4-5 ล้านปีที่แล้ว เชื่อกันว่าเป็นทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดของโลก มีรูปร่างเหมือนเครื่องดนตรี 4 สายของจีน ดังนั้นมันจึงชื่อบิวะ ทะเลสาบบิวะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นทะเลสาบที่ปกคลุมพื้นที่ขนาด 674 ตารางกิโลเมตร
ภายในทะเลสาบมีเกาะอยู่จำนวนหนึ่ง 1 ในนั้นคือเกาะโอคิชิม่า ห่างจากชายฝั่ง 2 กิโลเมตร เกาะโอคิชิม่าเป็นเกาะที่มีเอกลักษณ์เพราะเป็นเพียงเกาะเดียวที่อยู่ในทะเลสาบในประเทศญี่ปุ่นและยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ประชากรที่อาศัยอยู่ที่นี่ 70% จากประชากร 450 คนเลี้ยงชีพด้วยการตกปลาในทะเลสาบและทั้งหมดสืบเชื้อสายมาจากกลุ่มของ 7 ซามูไร ที่พ่ายแพ้ในสงครามโบราณ!
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 12 ระหว่างปี 1156 และ1159 เกิดสงครามกลางเมืองเพื่อแย่งชิงจักรวรรดิญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องระหว่างผู้สนับสนุนจักรพรรดิโกชิรากาวะและจักรพรรดิผู้เกษียณไปแล้วอย่างซูโตะกุ สมาชิกในครอบครัวนักรบชั้นสูงได้แก่ มินะโมโตะ, ฟุจิวะระและทาอิระต่อสู้กันเองในสงครามนองเลือดจนทำให้เกิด 1 ใน 3 ซามูไรผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นหรือโชกุน
7 ซามูไรพ่ายแพ้ใน Hogen No Ran ซึ่งเป็นการปะทะกันเล็กๆน้อยๆรอบๆเกียวโต พวกเขาหนีไปกับครอบครัวของพวกเขาไปยังเกาะเล็กๆที่ที่ซึ่งพวกเขาจะถูกลืมในไม่ช้า พวกเขายังหลบซ่อนตัวอยู่ที่นั่นและลูกหลานของพวกเขายังอาศัยอยู่ที่เกาะซึ่งในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ที่นี่ใช้นามสกุล 1 ใน 7 ของซามูไรได้แก่ นันบุระ, โอกาวะ, นิชิ, คิตาเบะ, ฮิสะดะ, นากามุระและชาตานิ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังที่เข้าไปยึดครองได้สั่งห้ามให้มีการครอบครองอาวุธ ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะจึงโยนอัฐิของบรรพบุรุษ ดาบและชิ้นส่วนของชุดเกราะในศตวรรษ ที่ 12 ที่ยังหลงเหลืออยู่ลงทะเลสาบ ไม่มีอะไรเหลือเลยนอกจากความทรงจำ
มีเรือขนาดเล็กจากท่าเรือโฮริคิริเดินทางไปยังเกาะประมาณ 11 เที่ยวต่อวัน ในวันธรรมดาและ9 เที่ยวต่อวัน ในวันหยุด หากเดินทางเที่ยวเดียวจากมิยะกะฮะมะในโอมิฮะชิมังมีค่าใช้จ่าย 500 เยนและใช้เวลาประมาณ 15 นาที
การดำเนินชีวิตบนเกาะโอคิชิม่าเป็นไปอย่างช้าๆและผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่ดูเหมือนว่าไม่ชอบความเจริญแต่เลือกที่จะอนุรักษ์การดำเนินชีวิตแบบช้าๆของพวกเขามากกว่า ที่นี่มีถนนไม่กี่เส้นและยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์น้อยมาก ส่วนใหญ่จะใช้จักรยานไม่ก็เดินกัน การเดินเท้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจเกาะโอคิชิม่า
วิวจากด้านบนของเกาะน่าตื่นตาตื่นใจมากและคุณเองจะเข้าใจว่าทำไมทะเลสาบอิบะจึงถูกเรียกว่าทะเลภายในและทำไมซามูไรโบราณจึงเลือกเกาะโอคิชิม่าเป็นที่เนรเทศตนเอง เมื่อเดินรอบๆเกาะคุณจะผ่านป่าดงดิบและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เมืองไม่ค่อยมีอะไรจริงๆแต่เมื่อคุณเดินป่านถนนแคยๆไปคุณจะเห็นว่าคนที่นี่ใช้ชีวิตกันอย่างไร คุณจะเห็น”หินเทพ” เกือบทุกบ้านจะมีรูปปั้นจิโซ(ผู้ปกป้องเด็ก)หรือหินขนาดใหญ่แทนรูปแกะสลักอยู่ใกล้ๆบ้าน ผู้คนจะนำหินเทพเข้ามาในบ้านปีละครั้งและดูแลราวกับว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว
บนเกาะไม่ได้มีอะไรให้ดูมากมายนักจะมีก็แค่โกดังที่เอาไว้เก็บอุปกรณ์ตกปลาร่วมกัน, โรงเรียนประถมศึกษา, ที่ทำการไปรษณีย์, ศูนย์ชุมชนขนาดเล็กและโรงงานแปรรูปอาหารเล็กๆ มีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่จัดแสดงนิทรรศการน้อยและไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับชาวเกาะที่รุ่งโรจน์ในอดีต ที่นี่มีที่พักอยู่ 2 แห่งเป็นที่พักพื้นๆไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ในขณะเดียวกันไม่มีร้านอาหารหรือร้านกาแฟ ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากวิวที่สวยงามและผู้คนที่เอียงอายแต่ภูมิใจกับสายเลือดของซามูไรโบราณที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัวพวกเขา
