มีมรดกโลก 17 แห่งในเกียวโตและวัดเอ็นยากูจิก็เป็น 1 ในนั้น วัดตั้งอยู่บนภูเขาฮิเออิ ในเขตชายแดนคร่อมเกียวโตและจังหวัดชิกะ ภูเขาฮิเออิกั้นเขตแดน 2 จังหวัด พูดคือวัดอยู่ฝั่งจังหวัดชิกะ วัดเอ็นยากูจิอยู่ห่างจากสถานีเจอาร์เกียวโต 25 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะมาที่นี่กันไม่ค่อยเยอะทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล
มีเคเบิ้ล คาร์บริการ 2 ฝั่งทั้งฝั่งเกียวโตและชิกะ ราคาเที่ยวเดียว 1400 เยน ค่าเข้าชมอีก 550 เยน หากพิจารณาราคาที่ต้องจ่ายค่าเดินทางมาสถานีเคเบิ้ล คาร์แล้ว นับรวมทั้งหมดจะเกินกว่า 3000 เยน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวก็เป็นได้
ดังนั้นผมจึงแนะนำให้แก้ปัญหาเรื่องค่าเดินทางด้วยการออกกำลังกายนิดหน่อย คือให้”เดินขึ้นเขา”นั่นเอง จากสถานีเจอาร์เกียวโตให้นั่งรถไฟเจอาร์สายโคเซอิไปลงสถานีฮิเอซากะโมโตะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ลงรถไฟ ออกทางประตูเล็กและเดินตรงไปยังภูเขาไม่ใช่ทะเลสาบ
คุณจะผ่านประตูโทริอิและเดินต่อไปจนผ่านประตูโทริอิอีกอันหนึ่ง ตอนนั้นคุณน่าจะใกล้ถึงภูเขาแล้วหลังจากที่ใช้เวลาเดินมาจากสถานีประมาณ 10-15 นาที เดินต่อไปยังภูเขาและคุณจะเห็นประตูโทริอิสีแดงตรงฝั่งขวาซึ่งเป็นประตูไปสู่ฮิโยชิ ทาอิชาที่ตั้งหลักของศาลเจ้าฮิโยชิและศาลเจ้าฮิเอดะทั่วประเทศญี่ปุ่น(ผมจะเขียนเกี่ยวกับศาลและพื้นที่รอบๆในบทความอื่น)
ข้างๆประตูโทริอิมีบันไดหินนำขึ้นไปสู่ภูเขา คุณเดินขึ้นไปจนกว่าจะถึงภูเขานั่นแหละ เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย จะมีป้ายอยู่ด้านขวาบอกระยะทางไปแต่ละสถานที่รวมถึงวัดเอ็นยากูจิด้วย วัดเอ็นยากูจิแบ่งเป็น 3 บริเวณได้แก่ โทอุโทอุ, ซาอิโทอุและโยกาวะ โทอุโทอุเป็นบริเวณหลักที่คุณจะไม่ควรพลาด มันอยู่ใกล้กับสถานีเคเบิ้ล คาร์
ป้ายบอกว่า 3 กิโลเมตร จากป้ายจะมีถนนขึ้นไปวัดนันเซนโบที่ที่คุณสามารถเห็นวิวสวยๆของทะเลสาบบิวะ หากเดินผ่านวัดไปและยังเดินต่อไปจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นและเดินกันอย่างสบายมาก แทนการจ่ายเงิน 840 เยนเพื่อนั่งรถเคเบิ้ล คาร์ซากะโมโตะ(รถเคเบิ้ล คาร์ซาสายที่วิ่งยาวที่สุดในญี่ปุ่นประมาณ 2000 เมตรกว่าๆ)คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินออกกำลังกายในอากาศบริสุทธิ์
เมื่อเดินขึ้นไปจนสุด คุณจะมองเห็นตึกของโรงแรมเอ็นยากูจิ คาอิคันและโรงแรม Hotel d’Hiei วัดหลักที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติมีชื่อว่า”วิหารคอนปอน-ชูโดะ”และถูกสร้างขึ้นโด่งดังโดยผู้สำเร็จราชการที่ 3 ของตระกูลโทคุงาวะในสมัยเอโดะในศตวรรษที่ 17 เกิดไฟไหม้เรื่อยๆมาตลอด 1200 ปี ผู้ที่จุดไฟเผาคือผู้ก่อตั้งวัดเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อว่าไซโช จุดไฟเผาในปี 807
เส้นทางภูเขาที่นำไปสู่ด้านหลังของวัดช่วยให้คุณเข้าไปภายในวัดได้โดยไม่ต้องผ่านช่องตรวจตั๋ว ความจริงก็คือถ้าคุณพยายามเดินขึ้นและเข้าทางด้านหลังคุณไม่ต้องเสียเงินค่าเข้า ระหว่างทางเดินกลับ คุณสามารถเดินลงไปฝั่งเกียวโตและสนุกกับการหากิจกรรมทำในเกียวโตต่อไป