ตึกสีขาวขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ทางตอนเหนือของแนวชายฝั่ง สีขาวของตัวตึกสว่างตัดกับความมืดเบื้องหลัง ตึกหลังนั้นก็คือ ประภาคารฮิโนะมิซากิ ในเมืองอิซูโมะ ซึ่งเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชิมาเนะ ประภาคารฮิโนะมิซากิ เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เพียงคุณจ่ายค่าเข้าชม 200 เยน คุณก็สามารถขึ้นไปเยี่ยมชมวิวทิวทัศน์ และสัมผัสกับบรรยากาศด้านบนสุดของประภาคารได้ สิ่งที่คุณต้องเตรียมพร้อมเพื่อเผชิญ เมื่อขึ้นไปถึงบนยอดสุดของประภาคาร คือ กระแสลมที่พัดแรง และพื้นที่เย็นเฉียบ ที่นี่ก็เหมือนกับสถานที่ส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น คือ คุณต้องถอดรองเท้าและสวมรองเท้าแตะที่เตรียมไว้ ซึ่งหากคุณมีเท้าขนาดค่อนข้างใหญ่เหมือนกับผม คุณจะประสบปัญหา สวมรองเท้าไม่ได้ (รองเท้าแตะมีขนาดเล็ก) เมื่อสวมรองเท้าแตะไม่ได้ ผมก็ไม่ทนสวมรองเท้าแบบครึ่งเท้าแน่นอน ทางเลือกของคุณก็เหลืออยู่ไม่มาก หนึ่งในนั้นคือ การเลือกที่จะไม่สวมรองเท้าเลย ตอนนี้เป็นเดือนกุมภาพันธ์ ผมเดินสั่นไปตลอดทาง โดยมีเพียงถุงเท้าเป็นเครื่องช่วยป้องกันความหนาวเย็นจากพื้น หลังจากที่ขึ้นมาได้ประมาณ 40 เมตร ก่อนที่จะถึงด้านบนสุดของประภาคาร จงเตรียมฟิล์มใส่กล้องของคุณให้พร้อม ก่อนที่จะก้าวเท้าออกไปสู่ระเบียงด้านนอก
วิวทิวทัศน์เมื่อมองจากยอดประภาคาร อันที่จริง ก็ไม่ได้ตื่นตามากนัก เมื่อทอดสายตาไปทางตอนเหนือของแนวชายฝั่งที่เต็มไปด้วยก้อนหินสีน้ำตาลสลับกัน ปกคลุมด้วยหมอกและน้ำทะเลสีน้ำเงิน แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการมองท้องทะเล บอกได้เลยว่าคุณมาถูกทางแล้ว ประภาคารฮิโนะมิซากิ ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 25 เมตร จากระดับน้ำทะเล และสูงจากพื้นดิน หากคุณเป็นคนที่กลัวความสูง นี่จะเป็นการพิสูจน์เพื่อแสดงว่าคุณก็ผ่านมันไปได้
เมื่อกลับลงมาสู่ด้านล่าง ลองเดินไปทางทิศตะวันตกตามแนวของหน้าผาขนานไปกับชายฝั่ง แต่ต้องระวังบริเวณหน้าผา เพราะทางเดินนั้นไม่มีแผงกั้นหรือรั้วใดๆ กั้นอยู่เลย หากมีเด็กมาด้วย ควรดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเดินไปตามทาง คุณจะพบกับเกาะขนาดเล็กซึ่งเป็นที่อยู่ของนก นับร้อย นับพันตัว ถ้าคุณโชคดี ก็จะสามารถถ่ายภาพฝูงนกที่กำลังบินโฉบลงบนผิวน้ำทะเลแล้วบินไปตามแนวชายฝั่ง ในวันนั้นผมเห็นขาตั้งกล้องอย่างน้อย 5 ตัว โดยมีเจ้าของขาตั้งอดทนรอที่จะถ่ายภาพพวกนกเหล่านั้นให้ได้สักใบ ส่วนผมนั้นถ่ายภาพนกได้เพียงช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น แต่ก็พอดูเป็นรูปร่าง
ที่นี่เงียบสงบ คุณจะมานั่งคนเดียว หรือจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักท่องเที่ยวก็ได้ ก่อนที่จะออกจากเมือง ทำไม ไม่ลองเดินเล่นแถวถนนเล็กๆ ของเมือง บริเวณนั้นแทบจะไม่มีรถยนต์วิ่งอยู่เลย คุณจะพบกับพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของ ทั้งของเล่นสำหรับเด็ก อาหารทะเลสดๆ สำหรับคนทุกวัย เพราะเป็นเมืองติดแนวชายฝั่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ผู้คนไม่พลุกพล่าน ก็เลยไม่ต่างกับบรรยากาศของเมืองในหนังภาพยนตร์จึงเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างจากเมืองอื่นๆในจังหวัดชิมาเนะ
คุณสามารถเดินทางโดยรถโดยสารจากสถานีอิซูโมะ หรือขับรถยนต์มาเองก็สนุกไปอีกแบบ ตลอดการเดินทางกลับ คุณจะพบว่า นี้เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่พิเศษที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
