สำหรับผู้ที่สนใจจะย้อนรอยความสัมพันะธ์แต่แรกเริ่มของญีุ่่ปุ่นกับอเมริกา นอกเหนือไปจากการเที่ยวเมืองริมทะเลที่ทั้งสงบและแสนงดงาม ก็ไม่ควรมองข้ามชิโมดะที่อยู่ทางใต้ของแหลมอิสุ ขึ้นชื่อในเรื่องออนเซนกับชายหาด ชิโมดะยังมีผลงานสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก กระเช้าพร้อมวิวอันน่าทึ่ง และบรรยากาศสุดสงบ นั่งรถไฟมาจากโตเกียวเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง จุดที่หนึ่งจากสามจะเน้นไปที่ส่วนที่ดีที่สุดของชิโมดะ ไปเดินย้อนประวัติศาสตร์บนเพอร์รี่ โร้ดก่อนจะไปยังจุดอื่น ๆ ต่อไปที่อยู่นอก (และเหนือ) ใจกลางเมือง
แม้ว่านายพลเรือเพอร์รี่กับเรือแบล็คชิปอันโด่งดังของเขาจะแล่นมาที่แผ่นดินญี่ปุ่นครั้งแรกใกล้กับโตเกียวในปัจจุบัน หลังมีการลงนามสนธิสัญญาคานางาว่าเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1854 กองเรือของเขาแล่นมาทางใต้สู่ท่าเรือชิโมดะ ที่นี่ถูกระบุว่าปลอดภัยสำหรับเรือรบอเมริกัน มีการเจรจาเพิ่มเติม ณ ที่แห่งนี้และหลังจากผ่านไปหลายปีก็มีการตั้งสถานกงสุลอเมริกันขึ้น ผู้ที่คลั่งไคล้ประวัติศาสตร์จะต้องชอบ เพราะสถานที่ซึ่งเกิดความสัมพันธ์ทางการฑูตเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีอยู่ทั่วเมือง
เริ่มเดินทางย้อนประวัติศาสตร์ได้ด้วยการหยิบแผนที่จากสำนักงานนักท่องเที่ยวที่สถานีรถไฟก่อน แล้วเดินทางไปยังฝั่งตะวันตกของอ่าว (เดินประมาณ 20 นาที) ไปตามถนนสาย 117 ที่นั่นคุณจะพบกับป้ายฌแลิมฉลองการมาถึงของเพอร์รี่ และจากภาพบนนั้นคุรจะสามารถมองเห็นภาพของเรือต่างชาติที่เคยประจำการอยู่บนผืนน้ำ จากตรงนี้ให้เดินกลับไปยังฝั่งตะวันตกเลียบทางด่วนชายฝั่งแล้วเลี้ยวไปทางซ้ายเมื่อคุณมาถึงต้นทางของถนนเพอร์รี่ (ใช้เวลาเดิน 5 นาที) เป็นถนนในเมืองเล็ก ๆ ที่นายพลเคยใช้ตอนขึ้นฝั่งมาเจรจากับฝ่ายญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก
ทางเดินหินอันน่ามหัศจรรย์บนสองฝั่งของคลองแคบ ๆ นี้แสดงให้เห็นถึงสไตล์สถาปัตยกรรมนามาโกะกาเบะ (กำแพงแตงกวาทะเล) อันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นชื่อของอิสุ กำแพงสีดำนั้นตัดกันกับลายนูนรูปเพชรสีขาว ซึ่งเป็นเทคนิคกันน้ำในยุคแรก ๆ ที่นามาโกะมีบ้านเรือนและร้านค้าซึ่งปะปนอยู่กับตึกไม้เก่าแก่อยู่ทั่วถนนทั้งเส้น ผู้ที่ชื่นชอบงานสถาปัตยกรรมอย่าลืมเตรียมกล้องมาให้พร้อม
การเดินใช้เวลาทั้งหมดเพียง 15 นาที แต่ก็เต็มไปด้วยร้านขายของงานฝีมือท้องถิ่น ร้านอาหาร (ทั้งญี่ปุ่นและตะวันตก) คาเฟ่ และผับ พร้อมสะพานสวย ๆ จำนวนมาก ที่นี่มีหลายอย่างให้สำรวจ สามารถเดินชมได้สบาย ๆ หลายชั่วโมง ใบวิลโลว์และใบไม่อื่น ๆ ที่อยู่เหนือคลองจะยิ่งทำให้สวยงามเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อน ขั้นบันไดที่นำปสูวัดเรียวเซนจิเป็นที่พักสุดท้ายก่อนถึงทางเดินของเพอร์รี่จากอ่าว เป็นที่นี่ซึ่งเกิดการร้วมข้อตกลงทางการฑูต ช่วยรักษาชิโมดะไว้แก่อเมริกันในช่วงปีสุดท้ายของโทกุนโทคุงาวะ ที่วัดก้ยังมีพิพิธภัฑ์ขุมทรัพย์ (ค่าเข้าผู้ใหญ่ 500 เยน) ที่มีอนุสรณ์เรือแบล็กชิป และสิ่งน่าสนใจอีกเพียบ เหมาะสมแก่การปิดท้ายการเดินชมเพอร์รี่ โร้ด
ที่นี่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แหล่งช้อปปิ้งชั้นยอด และความงามตามธรรมชาติก็น่าจะทำให้ที่เพอร์รี่ โร้ดเป็นรายการท่องเที่ยวแรกของคุณ จากนั้นก็จะได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายของเมือง ซึ่งเป็นส่วนที่ดีที่สุดของชิโมดะอย่างแท้จริง
ข้อมูลเพิ่มเติม
-ถ้ามีเวลา ลองขึ้นบนเรอแบล็คชิปจำลองที่แล่นออกจากท่าทุก 30 นาที (1000 เยน) คุณจะได้ชมวิวอันน่าทึ่งของเมืองและนกนางนวลในระยะใกล้
-ทุกที่ในชิโมดะ รวมทั้งถนนเพอร์รี่นั้นสามารถเดินไปถึงได้สะดวกถ้าคุณกะจะเดินค่อนข้างกลาง
-ในจุดที่สองกับสามจะมีสถานกงสุลอเมริกันที่วัดโกคุเซนจิ กระเช้าขึ้นเขาเนสุงาตะ และบริเวณของสึเมะคิซากิอันสวยงาม