Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ) สวรรค์ออนเซนและที่พักสุดหรูใสสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งคินุกาว่า (นิกโก้) (เครดิตรูปภาพ: Tada Ratchagit)

Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ)

สวรรค์ออนเซนแห่งคินุกาว่า

Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ) สวรรค์ออนเซนและที่พักสุดหรูใสสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งคินุกาว่า (นิกโก้) (เครดิตรูปภาพ: Tada Ratchagit)
Tada Ratchagit   - ใช้เวลาอ่าน 2 นาที

สวรรค์แห่งออนเซนที่อยู่ไม่ไกลโตเกียวอย่างเมือง Kinugawa Onsen (鬼怒川温泉) นั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ใครหลายคนอยากมาเยือน สวรรค์แห่งนี้ยังซ่อนตัวไปด้วยสวรรค์เล็กๆ อีกมากมายในโรงแรมหรือเรียวกังริมน้ำที่จะให้คุณแช่น้ำร้อนอย่างสุขใจพร้อมชมวิวอันงดงามของธรรมชาติ ... และหนึ่งในสวรรค์ของการพักผ่อนที่ขอแนะนำให้ลองไปเยือนนั้นก็คือ Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ) แห่งนี้นั่นเอง

โรงแรม Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ) นั้นตั้งอยู่บนไหล่เขาริมแม่น้ำคินุอันงดงามใกล้กับสะพาน Tateiwa Bridge อันโด่งดังนั่นเอง ทุกห้องพักของโรงแรมนั้นสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำคินุพร้อมภูเขาที่โอบล้อมรวมไปถึงวิวสะพานที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างสวยงาม โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้ทั้งภูเขาจะพร้อมใจเปลี่ยนเป็นเฉดสีเหลืองแดงซึ่งงดงามมาก ด้วยอากาศและวิวทิวทัศน์นั้นจึงเป็นฤดูที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนเอนกายแช่น้ำร้อนเคล้าธรรมชาติมากที่สุด

โรงแรม Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ) นั้นเป็นหนึ่งในโรงแรมอันคลาสสิกเก่าแก่แห่ง Kinugawa Onsen ตัวโรงแรมนั้นเป็นอาคารขนาดกลางที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้และมีการจัดสวนไว้ทั้งภายนอกและภายในอย่างงดงาม การตกแต่งนั้นเป็นการผสมผสานกันระหว่างความคลาสสิกในแบบยุโรปกับความดั้งเดิมในแบบญี่ปุ่นที่ใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างประณีต ซึ่งเราสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่โซนต้อนรับแขกบริเวณล็อบบี้ที่มีที่นั่งชิมวิวอันงดงามผ่านกระจกใส ไปจนถึงโซนนั่งเล่นภายในที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์แสนคลาสสิกในสไตล์ยุโรปผสมผสานกับการตกแต่งภายในในแบบญี่ปุ่นโบราณนั่นเอง

  • ทางด้านห้องพักนั้นมีบริการหลากหลายสไตล์ แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมนั้นก็คือห้อง Kirakukan ซึ่งเป็นห้องพักในสไตล์ Traditional Ryokan ที่ตกแต่งในกลิ่นอายญี่ปุ่นโบราณอย่างสวยงามทีเดียว ห้องพักประเภทนี้จะมีห้องรับแขกที่แยกกับห้องนอนในสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานตะวันตก พร้อมมีบริการฟูกเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการพักในแบบญี่ปุ่นโบราณด้วย แถมยังมีห้องน้ำที่โอ่โถงสะดวกสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายภายในห้องไว้คอยให้บริการ
  • ห้องพักอีกสไตล์ที่หรูหรามีระดับขึ้นมาและเป็นที่นิยมเช่นกันนั้นก็คือห้องในแบบ Kino-Yakata ซึ่งเป็นห้องพักที่หรูหราโอ่โถงราวกับอยู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ โถงห้องกับโซนห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ จะถูกกั้นห้องอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ห้องนอนนั้นมีพื้นที่กั้นห้องอย่างเป็นส่วนตัว มีโซนรับแขกและนั่งชมวิวรวมไปถึงมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวธรรมชาติได้อย่างงดงาม ที่สำคัญห้องพักประเภทนี้จะมีบ่อแช่น้ำร้อนส่วนตัวอยู่ในห้องที่ริมระเบียงโดยมีให้เลือกทั้งแบบออนเซนกลางแจ้งท่ามกลางธรรมชาติ หรือออนเซนในห้องส่วนตัวที่สามารถมองเห็นวิวอันงดงามได้เช่นกัน
  • ห้องพักอีกห้องที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั้นก็คือโซน Park Cottage ซึ่งห้องพักแบบนี้จะเป็นบ้านหลังๆ ที่แยกกันตั้งอยู่เชิงหน้าผ้าริมแม่น้ำคินุ ภายในห้องนั้นตกแต่งในสไตล์ตะวันตก มีจุดชมวิวจากระเบียงห้องอันแสนงดงาม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย

แน่นอนว่าเมื่อเป็นที่พักแห่งออนเซนนั้นจุดเด่นอีกอย่างก็คือออนเซนที่ให้บริการภายในโรงแรมนั่นเองซึ่งออนเซนนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ห้องใหญ่ๆ แบ่งเป็นชายและหญิง แต่ห้องออนเซนนั้นจะสลับวันกันเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศครบทุกบรรยากาศ โดยห้องออนเซนนั้นมีทั้งแบบในอาคารและกลางแจ้ง ซึ่งวิวในอาคารนั้นก็สามารถเห็นธรรมชาติอันงดงามผ่านกระจกได้ และภายนอกนั้นก็ตกแต่งโดยใช้หินต่างๆ ให้คล้ายกับบ่อออนเซนธรรมชาติอย่างงดงามเช่นกัน จุดแช่ออนเซนที่โดดเด่นนั้นนอกจากบ่อหินที่ให้เห็นวิวธรรมชาติได้อย่างเต็มตาแล้วก็ยังมีบ่อไม้ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นออนเซนในร่มที่ตกแต่งในแบบญี่ปุ่นโบราณอย่างงดงาม แต่หนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่ที่ทุกคนต้องแวะไปลองนั้นก็คือ Boat Onsen หรือออนเซนเรือซึ่งมีการนำเอาเรือไม้เก่ามาทำเป็นบ่อออนเซนกลางแจ้งได้อย่างสวยงามทีเดียว

สิ่งที่พิเศษมากๆ อีกอย่างของที่นี่นั้นก็คือตำรับความอร่อยที่เสิร์ฟในแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ให้ทานกันหลากหลายรูปแบบ ทั้งมื้อเช้าและมื้อค่ำที่จะจัดสำรับไม่ซ้ำกันสักวัน โดยเราสามารถเลือกทานอาหารได้ที่ร้าน Tsukimitei หรือร้าน Kaishokujou ซึ่งทั้งสองร้านเป็นร้านอาหารในสไตล์ญี่ปุ่นเคล้าวิวอนงดงาม ซึ่งอาหารนั้นจะเป็นเซ็ตใหญ่มาในรูปแบบไคเซกิหลากหลายตำรับให้ทานกัน

  • แต่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือไฮไลท์อย่าง Tsukimi-zen ซึ่งเป็นเทมปุระที่คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นในแต่ละฤดูกาลมาชุบแป้งทอดกรอบเหลือง ทอดร้อนๆ ให้ทานกันอย่างอร่อย

นอกจากนี้ก็ยังมีบริการเสิร์ฟอาหารให้ทานกันถึงห้องพักที่จะจัดสรรเมนูสุดพิเศษเพื่อบริการแขกพิเศษเช่นคุณอีกด้วย เรียกได้ว่าแต่ละมื้อนั้นยิ่งใหญ่อลังการและอิ่มหนำสำราญอย่างมีความสุข

หากอยากลองสัมผัสประสบการณ์ออนเซนอย่างมีระดับแบบนี้ดูบ้าง ให้ลองแวะมาที่ Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ) แล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับชีวิตที่สุขสบายราวอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียว

ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ Kinugawa Onsen และ Nikko

  • Tateiwa Braidge : สะพานแขวนสีดำที่ทอดข้ามแม่น้ำคินุ ซึ่งเป็นสะพานแขวนทางเดินคนข้ามท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
  • Tobu World Square : เมืองจำลองสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ของโลกกว่า 102 แห่ง ที่จำลองมาในสเกล 1 : 25 อย่างเหมือนจริงและสมจริงในทุกรายละเอียด
  • Edo Wonderland Nikko Edomura : เมืองญี่ปุ่นโบราณในยุคเอโดะในรูปแบบกลิ่นอายโรงถ่ายหนังญี่ปุ่นซึ่งจำลองอาคารบ้านเรือนในยุคเก่าไว้ได้อย่างสวยงามให้เราได้สัมผัสกลิ่นอายเมืองเก่าได้อย่างใกล้ชิด
  • Nikko Toshogu (日光東照宮) : ศาลเจ้าโทโชกุมรดกโลกอันงดงามและมีชื่อเสียงนี้เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต และโดยรอบยังมีศาสนสถานอีกหลายแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก UNESCO World Heritage Site เช่นเดียวกันด้วย
  • สะพาน Shinkyo Bridge (Sacred Bridge) : สะพานแดงสัญลักษณ์แห่งนิกโก้อันเก่าแก่งดงาม ซึ่งเป็นสะพานที่ทอดข้ามไปยังศาลเจ้า Futarasan Jinja ศาลเจ้าในศาสนาชินโตอันเลื่องชื่อนั่นเอง

---------------------------------------------------------------

Kinugawa Park Hotels (鬼怒川パークホテルズ)

+ ที่ตั้ง : 1409 Ohara Fujihara-machi Shioya-gun (Kinugawa Onsen), Nikko, Tochigi

+ ติดต่อ : 81-288-77-1289 เว็บไซต์ : www.park-hotels.com

+ วิธีเดินทาง :

> Tobu Railways : จากสถานี Tobu-Asakusa หรือ Tokyo Skytree นั่งรถไฟสาย Tobu Skytree Line (ซึ่งจะวิ่งเชื่อม Tobu Nikko Line โดยอัตโนมัติ) ไปลงสถานี Kinugawa Onsen แล้วเดินต่ออีกราว 5 นาที

  • หมายเหตุ : หากไม่ได้นั่ง Limited Express ที่มุ่งสู่ Kinugawa Onsen โดยตรง (สถานีปลายทาง) เวลาขึ้นรถไฟให้สังเกตุขบวนให้ดี โดยผู้ที่จะต้องการไป Kinugawa Onsen นั้นจะต้องขึ้นตู้รถไฟที่ 1-3 เท่านั้น เพราะตู่ที่ 4-5 เมื่อถึงสถานี Shimo-Imaichi จะแยกขบวนเพื่อวิ่งเข้าสู่เมืองนิกโก้ที่สถานี Tobu-Nikko ซึ่งเป็นอีกสายหนึ่ง / แต่อย่างไรทาง Tobu ได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยแนะนำตอนเข้าสู่ชานชาลาอยู่แล้ว หรือดูที่สติ๊กเกอร์ที่พื้นบริเวณจะขึ้นรถไฟ จะมีสัญลักษณ์บอกไว้ชัดเจน
Tada Ratchagit

Tada Ratchagit @tada.ratchagit

เรามักจะตกหลุมรักเมืองแรกในชีวิตที่เราไปเยือนในสถานะนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางเสมอ, ผมชื่อ ธาดา ราชกิจ (โฟล์ค) เป็นนักเดินทางที่มีโตเกียวเป็นเมืองแรกที่เคยไปเยือนครับ ผมกลับมาเยือนเมืองนี้ถี่และบ่อยที่สุดเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่ผมเคยไปเยือนมา อาการตกหลุมรักเมืองนี้นั้นหนักเอาการพอสมควร ; ) นอ...