เมื่อเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ 12 ชั่วโมง จากกรุงโตเกียวไปยังเกาะฮาชิโจจิมะ ฉันก็เริ่มมองเห็นภูเขาไฟฮาชิโจที่ตั้งตระหง่านมา
แต่ไกล เกาะฮาชิโจจิมะคือเกาะขนาดเล็กที่มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 8,500 คน เกาะนี้เป็นเกาะภูเขาไฟ และมีหาดทรายสีดำ น้ำทะเลอุ่นๆ รวมทั้งสัตว์ทะเลมากมายหลายชนิด นักท่องเที่ยวมักนิยมไปเกาะฮาชิโจจิมะในเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม เพราะอุณหภูมิของน้ำทะเลจะอุ่นในช่วงเวลานี้
เกาะฮาชิโจจิมะมีจุดสำหรับการดำน้ำมากมาย จุดดำน้ำที่น่าสนใจจุดหนึ่งที่อยู่ถัดจากท่าเรือไปคือ จุดดำน้ำโซโกโดะ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีปะการังอ่อนและปะการังแข็งอยู่มากมาย และมีสิ่งที่น่าสนใจคืออุโมงค์ยักษ์และรอยแยกที่อยู่ใกล้กับผิวน้ำบริเวณนั้น อันเป็นสถานที่ดำน้ำชมความงามและสัตว์น้ำนานาพันธุ์ เมื่อดำน้ำไปได้ซักพักคุณจะพบกับส่วนเว้าของอ่าวที่ความลึก
3 เมตร แล้วคุณจะสามารถว่ายน้ำต่อไปเป็นเส้นตรงผ่านหินปูต่างๆเพื่อไปยังสะพานหินโค้งใต้น้ำ พื้นผิวใต้น้ำนั้นเป็นหิน และมีทัศนวิสัยไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ทว่าจุดเด่นก็คือสะพานหินโค้งต่างๆใต้น้ำที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของภูเขาไฟนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำมากมาย อาทิ ปลาผีเสื้อ ปลาปากนกแก้ว ทากทะเล และหอยเม่น
จุดดำน้ำนาซุมาโดะ คืออีกหนึ่งจุดดำน้ำยอดนิยม เนื่องจากปลายูเซ็น (ปลาผีเสื้อเกราะเหล็ก) ที่สามารถพบได้ที่เกาะ
ฮาชิโจจิมะและพื้นที่ทางใต้ของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อยและเริ่มดำน้ำ คุณจะพบว่าสิ่งที่รอคอยหลังเส้นทางที่ยากลำบากนั้นคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณจะได้พบกับแนวหินขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า อุมะโนเนะ ซึ่งมีสะพานหินโค้งอยู่ตรงกลาง หากคุณดำน้ำลอดสะพานหินนี้ และเลี้ยวไปทางซ้ายคุณจะพบกับปลาหมึกยักษ์ ทากทะเล และปลาไหลมอเรย์ แต่สิ่งที่สนุกที่สุดก็คือการสำรวจรอยแตกและกำแพงต่างๆที่มีอายุกว่าหลายร้อยปี ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลากระรอกลายแดงและปลาสิงโต นอกจากนี้ยังมีปลาแลอมหัวค้อนและปลาฉลามหางยาวที่คุณสามารถพบได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนอีกด้วย
จุดดำน้ำยาเอะเนะ ทางชายฝั่งตะวันตกนั้นมีคลื่นที่สงบกว่าจุดดำน้ำอื่นๆ ส่วนที่เป็นบริเวณน้ำตื้นของจุดดำน้ำนี้มีเสาหินปูน และก้อนหินขนาดใหญ่ให้ดำน้ำชมความงาม ส่วนในบริเวณน้ำลึกนั้นมีคลื่นน้ำที่แรงกว่า ใต้พื้นบริเวณนี้เป็นทรายที่ระดับความลึก 6 – 7 เมตร และถัดไปจะมีหินปูนต่างๆ (ที่คุณสามารถพบกุ้งมังกรได้ในเวลากลางคืน) และโขดหินมากมายที่ระดับความลึก 12 เมตร จุดเด่นของที่นี่ไม่ใช่ปะการัง แต่เป็นก้อนหินขนาดใหญ่มากมายที่สูงชัน และเป็นที่อาศัยของปลาผีเสื้อและปลาที่มีฟันแหลมคม หากเลี้ยวไปทางขวาของแนวโขดหิน คุณจะพบกับรังปลาการ์ตูนมากมาย ถัดจากจุดนี้ไปที่ระดับความลึกลงไปอีก
7 – 8 เมตร คุณจะสามารถพบกับบรรดาเต่าทะเลได้อีกด้วย
ในการเดินทางไปยังเกาะฮาชิโจจิมะนั้น สามารถเดินทางได้จากท่าเรือทาเคะชิบะในเมืองฮะมะมะสึ ตั๋วสำหรับที่นั่งและพื้นสำหรับนอนในช่วงสัดสัปดาห์และวันหยุดราชการจะมีราคาสูง ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกตั๋วที่ถูกที่สุด (ราคาประมาณ
10,000 เยน) ที่มีถุงนอนและแผ่นปูรองสำหรับนอนที่ดาดฟ้าเรือ คุณควรที่จะติดต่อโรงเรียนสอนดำน้ำและวางแผนก่อนการเดินทาง แพคเกจทัวร์ส่วนใหญ่จะมีที่พักเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่น (มินชูคุ) และมีราคาตั๋วขึ้นเรือเฟอร์รี่แตกต่างกันไป หนึ่งในสถานที่น่าสนใจของเกาะฮาชิโจจิมะคือ บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนหลังจากการดำน้ำ ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะไม่ใช่จุดมุ่งหมายยอดนิยมของเหล่านักดำน้ำและมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ทะเลของประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความหลายหลายทางทัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโลกใต้น้ำของประเทศญี่ปุ่นจะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นในอนาคต