เมื่อพูดถึงเรื่องโตมาในชิบูย่า ใคร ๆ ก็คงจะพากันคิดถึงสถานีรถบัสและรถไฟขนาดยักษ์ กับตึก 109 ทรงกระบอกที่สูงตะหง่าน และความวุ่นวายทั้งหลายแหล่ที่ทางข้ามชิบูย่า เป็นดั่ง "เมืองหลวง" อย่างไม่เป็นทางการของโตเกียวในหมู่ชาวเมือง ชาวต่างประเทศ และนักท่องเที่ยว และเมื่อคุณได้เดินทั่วชิบูย่า คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันนั้นมักจะเกี่ยวพันกับความเคลื่อนไหวในท้องถนนอันวุ่นวายเหล่านี้เสมอ
แต่จากการที่ผมเติบโตที่นี่ และได้กลับไปอีกครั้งในฐานะผู้ใหญ่ ที่นี่ก็มีอะไรมากกว่าเสียงและไฟนีออนในความวุ่นวายอันเป็นระเบียบนี้ เดินไม่ถึงห้านาทีคุณจะได้พบกับสถานที่อันเงียบสงบที่สุดของโตเกียว ที่ชาวบ้านเรียกว่าโชโตะ หรือเรียกได้ว่าเป็น "เบเวอรี่ ฮิลส์แห่งญี่ปุ่น" เมืองในเมืองเล็ก ๆ อันน่าอยู่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของเซน ซึ่งเป็นแหล่งหลบพักจากทั้งบริเวณที่แสนวุ่นวายโดยรอบ และหลบจากโลกทั้งใบ
คุณเองก็สามารถสัมผัสสิ่งนี้ได้จากสวนสาธารณะโชโตะ แม้จะหาได้ไม่ยากบนแผนที่ แต่ด้วยขนาดและรูปร่างที่ธรรมดา ๆ นั้นก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจอะไรมากนัก เป็นเพียงจุดเขียวเล็ก ๆ ท่ามกลางเขาวงกตถนน ก่อนจะกลายเป็นที่อยู่อาศัย ที่ดินนี้เคยเป็นของราชวงศ์ โชโตะยังคงเป็นสถานที่สำหรับบ้านและครอบครัว ปราศจากตึกระฟ้าและการออกแบบสมัยใหม่ สวนสาธารณะโชโตะเองก็เป็นศูนย์กลางอย่างไม่เป็นทางการเหมือนกับชิบูย่าเช่นกัน
ในฤดูใบไม้ผลิจะพบกับสวนสาะารณะโชโตะที่เต็มไปด้วยคู่รักวัยรุ่นและดอกซากุระ ส่วนในฤดูร้อนจะพบเด็กทุกวัย และเมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ต้นไม้ก็จะเปราะและโกร๋น และถ้าหากพบหิมะตกเบา ๆ ในฤดูหนาว รับรองว่าต้องสนุกแน่ถ้าคุณแวะมาประทับรอยเท้าทั่วสระเป็นคนแรก
สวนสาธารณะโชโตะไม่ได้เป็นเพียงสถานที่อุปมาของโตเกียวเ่านั้น แต่เป็นกับทั้งญี่ปุ่น มันช่างสงบ ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม และตั้งอยู่ท่ามกลางโลกที่หมุนไปไวที่คลั่งไคล้อนาคต จะเคยมากี่รอบก็แล้วแต่ ให้มาที่ชิบูย่าถ้านคุณอยากจะพัก กินขนม เครื่องดื่ม พบเพื่อน หรือทำทั้งสามอย่าง และมาพบกับความสงบกลางมหานครโตเกียว