สายลมปะทะหน้า
ฉันพาตัวเองไปสู่โลกกว้าง
สองเท้าและสองล้อเคียงคู่กัน
ไม่มีสิ่งใดขวางกั้น ฉันและโลกรอบตัว
นี่แหละคือการเที่ยวชมเมืองกับจักรยาน ฉันเห็นด้วยกับคำคมที่ว่า "โลกดูต่างไปจากบนจักรยาน" (The World Looks Different from a Bicycle Seat) การเที่ยวชมเมืองกับจักรยานเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับสถานที่นั้นๆ อย่างลึกซึ้ง รับรู้ลักษณะของภูมิประเทศ สูดกลิ่นไอของท้องถิ่น ได้สัมผัสและเก็บรายละเอียดริมทาง บ้านเรือน และผู้คน การปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำสุมิดะ ให้ประสบการณ์ที่วิเศษสุด และจะอยู่ในความทรงจำของฉันไปอีกนานแสนนาน
ฉันเริ่มปั่นจักรยานที่สวนสุมิดะ สวนริมน้ำที่มีชื่อเสียงสำหรับชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ สวนสุมิดะอยู่ไม่ไกลจากวัดที่มีชื่อเสียงในอะสะกุสะ (Asakusa) วัดเซ็นโซะจิ (Sensoji) และยังเป็นจุดชมวิว สกายทรี (Sky Tree) ที่ดีที่สุดอีกด้วย ฉันมีเวลาเพลิดเพลินชมวิวกับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไม่กี่คน จนกระทั่งรถทัวร์คันใหญ่ๆ สองสามคันได้จอดถ่ายผู้โดยสาร ก็ถึงเวลาหลบหนี ฉันเริ่มปั่นจักรยานไปทางใต้ เลียบแม่น้ำสุมิดะ (Sumida) มุ่งหน้าสู่ทะเล
ฉันยังมองเห็นสกายทรีไปอีกระยะหนึ่ง และแล้วฉันก็เห็นตึกรูปร่างแปลกๆ เป็นตึกที่มีชื่อเสียงในเรื่องฟองเบียร์สีทอง (หรืออะไรก็ได้ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคุณเอง) ตึกเบียร์อาซาฮิ และตรงจุดนี้เองที่ฉันสามารถเก็บภาพสกายทรี ตึกเบียร์อาซาฮิ และแม่น้ำสุมิดะได้ในเฟรมเดียวกัน
ปั่นจักรยานไปอีกนิดหนึ่ง ฉันก็มาถึงท่าเรือที่คึกคักมากๆ เป็นท่าเรือสำหรับขึ้นเรือล่องชมแม่น้ำสุมิดะ อีกวิธีหนึ่งที่จะชมวิวแม่น้ำ สะพานอะซุมะ (Azuma) ที่อยู่ใกล้ท่าเรือ เป็นสะพานที่ดูโดดเด่นน่าสนใจ มีเสาไฟเก๋ๆ และทาสีแดงสดใส ที่จริงแล้ว สะพานข้ามแม่น้ำสุมิดะเกือบทุกสะพานดูโดดเด่นน่าสนใจ มีอยู่มากมายหลายสะพานและหลากสีด้วย มีทั้งสีแดง ฟ้า เขียว เหลืองและสีอื่น ๆ อีกมากมาย ฉันชอบถ่ายรูปสะพาน และรู้สึกว่าโชคดีจังที่ปั่นจักรยานเที่ยว ไม่ได้นั่งอยู่บนรถ อยากจะหยุดตรงไหนก็หยุดได้ นี่แหละข้อดีของการปั่นจักรยานเที่ยว มีอิสระ ได้เห็น ได้สัมผัสสถานที่นั้นๆ ตามใจตัวเอง ขณะที่ฉันปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำไป ฉันได้สัมผัสและเก็บรายละเอียด บ้านเรือน ผู้คน สายน้ำ ทุกสิ่งดูมีชีวิตชีวา
แล้วฉันก็ปั่นมาถึงระเบียงริมน้ำแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า สุมิดะกะวะ เทอเรซ (Sumidagawa Terrace) ได้หยุดชมภาพพิมพ์ที่ตั้งแสดงอยู่ที่นั้น เป็นภาพพิมพ์มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแม่น้ำสุมิดะ และผู้คนในสมัยเอโดะ ดีจริงๆ ที่ได้เห็นภาพของที่แห่งนี้ ว่าครั้งหนึ่งในอดีตนั้น เคยเป็นเช่นไร
ต่อจากนั้นฉันก็ปั่นมาถึงสะพานยะนะกิบะชิ (Yanagibashi) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำคันดะ (Kanda) ตรงช่วงที่แม่น้ำคันดะไหลลงสู่แม่น้ำสุมิดะพอดี ที่นี่จะมีกระท่อมไม้เก่าๆ พร้อมกับตึกทันสมัย มีเรือยะกะตะบุเนะ (Yakatabune) จอดอยู่หลายลำ ทำให้ดูน่าสนใจมาก เรือยะกะตะบุเนะเป็นเรือแบบญี่ปุ่นโบราณใช้สำหรับล่องเรือทานอาหารค่ำและชมวิวแม่น้ำ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะชมวิวแม่น้ำสุมิดะ
หลังจากนั้นฉันก็ข้ามฟากไปอีกฝั่งหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังสถานที่ปลายทางคือ สวนคิโยะสุมิ (Kiyosumi) ได้เวลาชมดอกวิสทีเรียที่งดงามของที่นั่น และฉันก็ยังได้ชมสะพานสีฟ้าสวยๆ อีกสะพาน สะพานคิโยะสุบะชิ (Kiyosubashi)
โอ้..ความสุขของการปั่นจักรยานเที่ยว ฉันคิดว่า คุณจะต้องชอบมันด้วย
ป.ล. ที่ญี่ปุ่นทุกหนทุกแห่งอนุญาติให้ปั่นจักรยานบนทางเท้า สนุก ปลอดภัย ไร้กังวลจริงๆ