เมื่อพูดถึงวัดชื่อดังในญี่ปุ่น ชื่อแรกที่เรานึกออกก็คือ วัดอาซากุสะ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า เซนโซจิ (Sensouji : 浅草寺) เป็นวัดพุทธในย่านอะสะกุสะ เขตไทโต จังหวัดโตเกียว เหตุที่คนทั่วไปรู้จักวัดเเห่งนี้เป็นอย่างดีเนื่องจากมีการก่อสร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 628 ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างวัดเพื่อจะบูชาเทพเจ้าคันนน (เทพเจ้าแห่งความเมตตาในแม่น้ำสุมิดะ) ซึ่งเมื่อสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.645 ก็มีประชาชนมากราบไหว้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเหล่าบรรดาโชกุนและซามูไร นอกจากนี้ในทุกๆปีวัดอาซากุสะยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลใหญ่ข้ามวันข้ามคืนในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิอีด้วย ดังนั้นวัดอาซากุสะจึงวัดพุทธโบราณที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว
โดยเมื่อมาถึงวัดอาซากุสะสิ่งแรกที่เราจะพบเจอคือ ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) หรือ "ประตูอสุนี" บนคานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่ซึ่งชาวต่างชาตินิยมถ่ายภาพกับโคมนี้เป็นที่ระลึกกัน เมื่อเข้ามาในบริเวณวัดจะเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงลานกลางแจ้ง โดยความเชื่อว่าถ้าได้รับควันจากกระถางธูปนี้ติดตัวมาจะมีความโชคดี และส่วนในศาลเจ้าใกล้ๆกันจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งไว้สำหรับชำระล้างร่างกายก่อนเข้าไปสักการบูชาเทพเจ้าภายในอาคาร
ซึ่งการมาเยี่ยมชมวัดอาซากุสะในครั้งนี้เราจะพบเจอสองสิ่งที่น่าสนใจคือ 1.การจัดวางสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์อย่างเช่นตัววัด ศาลา ที่จัดร่วมกับธรรมชาติอย่างต้นไม้ หิน ดิน แม่น้ำได้อย่างสวยงาม แม้สองสิ่งจะไม่ได้เกิดขึ้นมาพร้อมกัน แต่ชาวญี่ปุ่นก็เลือกที่จะให้สองสิ่งนี้อยู่ร่วมกันเสมอ 2.การพบนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากไม่ว่าจะไปทางไหนของวัดก็จะเจอสำเนียงคุ้นหูอย่างภาษไทยบ้านเราที่เป็นมิตรและใจดีสอนการไหว้แบบชาวญี่ปุ่นด้วยการโยนเหรียญที่มีรูลงในกล่อง แล้วตบมือ 2 แปะ และอธิษฐาน ซึ่งถือว่าเป็นความประทับใจเล็กๆของฉันต่อคนไทยบ้านเราก็ว่าได้ และนอกจากการมากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดอาซากุสะแล้วยังมีสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรพลาดก็คือการเดินถนนนากามิเสะ ซึ่งเป็นถนนที่มีของที่ระลึก ขนม และของฝากขึ้นชื่อมากมายให้เราได้จับจ่ายซื่อของตลอดสองฟากของถนน
ดังนั้นวัดอาซากุสะจึงนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเหมาะแก่การเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้เจอสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ปลุกสร้างได้อย่างสวยงามตั้งตระหง่านคู่กับต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นแล้ว ยังสามารถเดินซื่อของฝากและรับประทานขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอีกด้วย เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาวต่างชาติอย่างคนไทยจึงต้องมาเยือนวัดแห่งนี้สักครั้งหนึ่งเมื่อมีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น