กระจกสีสัน (เครดิตรูปภาพ: Miwa Kaneoya)

พิพิธภัณฑ์ Ghibli ในมิตากะ

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอนิเมชั่นญี่ปุ่นของฮายาโอะ มิยาซา

กระจกสีสัน (เครดิตรูปภาพ: Miwa Kaneoya)
Onlada Chollavorn   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

พิพิธภัณฑ์Ghibli เป็นเหมือนกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่สร้างสรรค์โดยนักวาดการ์ตูนชื่อดัง ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่นี่ตั้งอยู่ในมิตากะ โตเกียว เป็นที่นิยมมากเสียจนคุณต้องซื้อตั๋วแบบระบุวันที่และเวลา (ซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน) มีความต้องการซื้อตั๋วสูงมาก จากคนทุกอายุและชนชาติ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงต่างก็หวังจะได้เข้าชมโดยไม่เกี่ยงเรื่องดินฟ้าอากาศ

เมื่อมาถึง พื้นของทางเดินซึ่งนำไปสู่ทางเข้าให้ความรู้สึกนุ่มอยู่ใต้ฝ่าเท้า พอก้มลงไปมองดูก็เข้าใจว่าทำไมเป็นแบบนั้น เพราะพื้นปูด้วยแผ่นไม้รีไซเคิลนั่นเอง ไม่แปลกใจที่สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยให้กับกำลังใจในการทำงานของมิยาซากิอย่างเต็มที่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สะท้อนถึงสไตล์เพ้อฝันอันน่ามหัศจรรย์ในอนิเมะของเขาและทำให้มันดูโดดเด่นกว่าตึกอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่โดยรอบ สิ่งนี้ทำให้ฉันยิ้มออกมา พลันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเด็กน้อยล่องลอยอยู่ในโลกแห่งความฝันก่อนจะทันก้าวเท้าเข้าไปเสียอีก

ตอนนั้นฉันไปถึงก่อนเวลากำหนดเข้าชมนิดหน่อย เลยเดินเล่นรอบนอกตึกจนพนักงานอนุญาตให้ฉันเข้าไปด้านใน เจ้าโทโทโร่ขนาดตัวเท่าของจริงเสนอหน้าต้อนรับอยู่ที่ตรงทางเข้าแล้วก็เจ้าพวกมัคคุโระ-คุโรสุเกะที่เบียดกันอยู่ข้างในและจ้องมองออกมาจากหน้าต่างรูปวงกลมตรงบริเวณทางเข้า ตัวละครอื่น ๆ จากผลงานอนิเมะของมิยาซากิอีกจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่เป็นภาพวาดแนวปูนเปียกสีสันสวยงามบนกระจกสี

ตอนที่เข้ามา พวกเราทุกคนได้รับตั๋ว (ที่มีกรอบรูปแบบเป็นเอกลักษณ์อยู่ด้านใน) แผ่นพับ และตั๋วแยกสำหรับเข้าชมโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กในพิพิธภัณฑ์ที่ฉายอนิเมะขนาดสั้นซึ่งไม่ได้ออกสู่ตลาดที่ชื่อ Saturn Seat

ตอนที่กำลังเดินลงมาจากบันได ฉันสังเกตเห็นช่องรับแสงบนหลังคาในตึกไม้ที่สวยสง่า ออกแบบดูคล้ายกับต้นไม้ กับเพดานสูงที่ทำให้กลายเป็นห้องเดี่ยวและบันไดที่ดูดีและน่าสนใจ ฉันทันเห็นด้านในของห้องและทางเดิน ซึ่งมีบันไดขนาดเล็กอยู่ทั่วไปหมด

ทั้งตึกมีอยู่สามชั้นรวมชั้นใต้ดินด้วย คาเฟ่และร้านอาหารกลางแจ้งตั้งอยู่บนชั้นสอง และถึงแม้จะเป็นเวลาบ่ายสองโมง แต่คนก็ยังแน่นอยู่ดี ฉันได้ยินเสียงคนคุยกันหลายภาษา นั่นเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าแฟนคลับของมิยาซากิจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมารวมตัวกันที่พิพิธภัณฑ์แทบไม่เว้นวันจริง ๆ ที่ชั้นบนสุดนี้ก็ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นจุดที่มีคนอยู่แน่นที่สุดในพิพิธภัณฑ์ มีตั้งแต่ของที่ระลึกเล็ก ๆ อย่างพวงกุญแจ ไปจนอะไรที่แพงกว่าอย่างตุ๊กตาที่เหล่าโอตาคุของมิยาซากิจะต้องฟิน เรียกได้ว่ามีทุกอย่างสำหรับทุกคนจริง ๆ

ชั้นใต้ดินนั้นจะเป็นเหมือนกับห้องสมุด ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของการ์ตูนและอนิเมชั่นของมิยาซากิเอาไว้ รวมทั้งแบบจำลองตัวละครของมิยาซากิจำนวนมาก เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้ก็เหมือนกับหลุดเข้าสู่ภาพลวงตา อย่างกับโลกแฟนตาเซียชิ้นเอกของดิสนีย์ที่อนิเมชั่นคือเวทย์มนตร์ คุณจะอิ่มตาอิ่มใจไปกับการแสดงอนิเมะที่มีตัวละครที่คล้ายกับในเรื่องโทโทโร่เพื่อนรัก สถานที่ราวกับโลกแห่งความฝันนี้คือส่วนที่ฉันประทับใจมากที่สุดในพิพิธภัณฑ์

ไฮไลต์ของชั้นหนึ่งคือการจำลองการทำงานของสตูดิโอGhibli เมื่อมองไปรอบ ๆ จะรู้สึกเหมือนว่ามีเหล่าผู้วิเศษรายล้อมอยู่รอบ ๆ และคอยจับตาดูเหล่านักผลิตการ์ตูนที่ทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด ทั้งเครื่องมือ ข้อมูล และสิ่งของอื่น ๆ อีกมากมายวางกระจายอยู่ทั่วทั้งห้อง ซึ่งถูกจัดไว้ให้ดูเหมือนกับว่ามันเพิ่งถูกวางหลังจากผ่านวันทำงานอันสุดโหดมาเมื่อวานนี้เอง

มีภาพผลงานต้นฉบับโดยมิยาซากิเองอยู่ตามกำแพง เช่น มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม ซึ่งแฟน ๆ ของมิยาซากิต้องห้ามพลาด แล้วก็ยังมีพวกอุปกรณ์ที่ทำให้เราได้รู้ถึงกระบวนการผลิตอนิเมชั่น ทั้งฉากหลัง การวาด และการเคลื่อนไหว! หุ่นจำลองของเจ้าแคทบัสอยู่ตรงกลางของบริเวณที่คล้ายกับจะเป็นโอเอซิสของเหล่าเด็ก ๆ พอได้เห็นแล้วก็นึกถึงสมัยยังเป็นเด็กขึ้นมาทันที ตอนนั้นที่ฉันได้ดูโทโทโร่ก็ฝันอยากขึ้นไปบนรถบัสคันนั้นบ้าง อีกยี่สิบปีต่อมาความฝันของฉันก็ได้กลายเป็นจริงในที่สุด

พิพิธภัณฑ์Ghibli เป็นเหมือนกับหีบสมบัติ สถานที่ซึ่งความศรัทธาไม่เคยหลับใหลและช่วยหล่อเลี้ยงจินตนาการของเด็ก ๆ ลองมาที่นี่ดูเพื่อย้อนเอาความรู้สึกในวัยเด็กวันนั้นกลับมาอีกครั้งเมื่อชีวิตวัยผู้ใหญ่เริ่มจะอยู่ยากเกินรับไหว

น่าเสียดายที่ด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องบันทึกความทรงจำโดยไม่พึ่งพาเทคโนโลยีใด ๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ghibli Museum

Onlada Chollavorn

Onlada Chollavorn @onlada.chollavorn

My name is Onlada. I am passionate about creative thinking and digital technology. My motto is “The price of success is hard work, dedication to the job at hand, and the determination that whether we win or lose, we have applied the best of ourselves to the task at hand.”