ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของลานรูปปั้นช่วงเทศกาลตริสต์มาส

ลานรูปปั้นฮาจิโกะ

จุดนัดพบที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในโตเกียว

ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของลานรูปปั้นช่วงเทศกาลตริสต์มาส
Ngamjit Chaimongkol   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

ลานรูปปั้นฮาจิโกะหรือฮาจิโกะสแควร์ (บางครั้งก็เรียกว่าฮาจิโกะพลาซ่า) เป็นจุดนัดพบที่รู้จักกันดีที่สุดและมีผู้คนพลุกพล่านที่สุดในโตเกียว ลานรูปปั้นฮาจิโกะได้รับการขนานนามเพื่อเป็นเกียรติแก่รูปปั้นชื่อดังของเจ้าฮาจิโกะ สุนัขผู้ภักดี (忠犬ハチ公) ลานแห่งนี้มีห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟสองแห่งและทางข้ามย่านชิบูย่าเป็นรั้วล้อมรอบ ซึ่งทางข้ามนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นทางข้ามที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุดในโลก

มีผู้คนคับคั่งบริเวณลานรูปปั้นแห่งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้จะไม่มีม้านั่งยาวให้นั่งและมีเพียงแค่รั้วซี่กรงโลหะให้พิงเพียงเล็กน้อย ที่แห่งนี้ก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดสังเกตผู้คนที่สัญจรไปมาได้ดีที่สุดและเป็นจุดนัดพบที่เป็นที่นิยมมาก คนส่วนใหญ่ซึ่งรวมถึงคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างก็พุ่งความสนใจไปที่รูปปั้นสุนัขพันธุ์อะคิตะผิวสีน้ำตาลที่มีชื่อว่า ฮาจิ หรือ ฮาจิโกะ (บางครั้งก็เรียก ชูเก็น ฮาจิโกะ หรือฮาจิโกะยอดกตัญญู ) ราวกับว่าถูกดึงดูด รูปปั้นฮาจิโกะแต่เดิมสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1934 เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าฮาจิโกะที่ไปรอศาสตราจารย์อุเอโนะ ฮิเดะซะบุโร เจ้านายของมันทุกวันที่สถานีชิบูย่าหลังเลิกงาน ในปี ค.ศ.1925 ศาสตราจารย์อุเอโนะได้เสียชีวิตและไม่ได้กลับไปที่สถานีรถไฟอีก ถึงกระนั้นเจ้าฮาจิโกะก็ยังคงเฝ้ารอเจ้านายของมันที่เดิมเวลาเดิมทุกวันและรอต่อเนื่องอย่างนี้เป็นเวลาถึง 9 ปีจนกระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้าย

เรื่องความจงรักภักดีของเจ้าฮาจิโกะนั้นได้รับความสนใจและเป็นที่เลื่องลือมาก หลังจากที่รูปปั้นได้ปรากฏแก่สายตาผู้คนเจ้าฮาจิโกะก็ตายเนื่องจากโรคมะเร็งและการติดเชื้อพยาธิที่ระบบน้ำเหลืองในปีต่อมา แม้เจ้าฮาจิโกะจะหมดลมหายใจไปแล้วแต่เรื่องความจงรักภักดีของมันก็ยังคงได้รับการเล่าขานอย่างต่อเนื่องและในแต่ละวันจะมีผู้สัญจรผ่านรูปปั้นสุนัขสีน้ำตาลที่สถานีชิบูย่ากว่า 2.4 ล้านคน

บริเวณลานรูปปั้นยังมีลักษณะเด่นอื่นๆอีกนอกจากเจ้าฮาจิโกะ เช่น ทางทิศใต้มีป้อมตำรวจย่านชิบูย่าที่เป็นป้อมหลักอยู่ติดกับทางออกฮาจิโกะของสถานีรถไฟเจอาร์ชิบูย่า ตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือคือทางข้ามที่ขึ้นชื่อเนื่องจากมีผู้คนชุลมุนดังที่ประจักษ์ได้แจ่มชัดในภาพยนตร์หลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นคือเรื่อง หลง เหงา รัก (Lost In Translation) นอกจากนี่้ที่สูบบุหรี่ก็อยู่ใกล้ลานรูปปั้นด้วย และเมื่อเดินไปถึงลานรูปปั้นคุณจะพบหัวรถไฟโบราณสายเซตากายะซึ่งสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ

รูปปั้นฮาจิโกะนี้มีชีวิตชีวาเกือบทุกชั่วโมงในทุกฤดู ถ้าคุณต้องการที่จะเยี่ยมชม "เทศกาลฮาจิโกะผู้ซื่อสัตย์" (Chuuken Hachiko Matsuri festival) ที่จัดขึ้นอย่างพิถีพิถันทุกๆฤดูใบไม้ผลิ ขอเชิญชวนให้มาเยี่ยมชมงานในวันที่ 8 เมษายนของทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองให้แก่สุนัขผู้ภักดีตัวนี้ ส่วนวันอื่นๆที่เหลือนั้นคุณอาจจะนั่งตรงราวลูกกรงบริเวณรูปปั้นและมองดูผู้คนสัญจรไปมา ถ้าเป็นช่วงกลางวันคุณอาจจะเดินดูรูปถ่ายที่พิพิธภัณฑ์ไปเรื่อยๆในแต่ละวัน เมื่อพูดถึงตำรวจที่อยู่ในป้อม นอกจากจะทำหน้าที่พิทักษ์ความสงบแล้ว พวกเขาต่างก็ยินดีที่จะชี้ทางให้คุณ (หนังสือพิมพ์เดอะเจแปนไทมส์ครั้งหนึ่งเคยรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำร้องขอเรื่องเส้นทางถึง 2000 คำร้องต่อหนึ่งเส้นทางต่อวันหรือทุกๆ 43 วินาที) บริเวณลานรูปปั้นนอกจากจะมีกระถางต้นไม้เรียงรายเป็นแถวหลังเจ้าฮาจิโกะเพื่อแสดงอาณาเขตของลานรูปปั้นแล้ว อุปกรณ์ติดตั้งอื่นๆก็อยู่บริเวณนี้ด้วย เช่น แผนที่ ในช่วงคริสต์มาสมักจะมีต้นคริสต์มาสที่เจ้าของธุรกิจเป็นสปอนเซอร์อยู่ท่ามกลางมวลดอกไม้ อย่างไรก็ตามมีข่าวลือว่าจะมีการปรับปรุงด้านทิศตะวันตกของสถานีเจอาร์ในปีหน้า และเนื่องจากการขยายพื้นที่สถานีรถไฟในอดีต รูปปั้นฮาจิโกะจึงอาจถูกเคลื่อนย้ายไปอีกที่หนึ่งซึ่งจะทำให้วิวทิวทัศน์ด้านหน้าของลานรูปปั้นเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ดังนั้นขอเชิญชวนให้ทุกท่านพกกล้องถ่ายรูปและซื้อกาแฟสตาร์บัคสักหนึ่งแก้วจากร้านสตาร์บัคฝั่งตรงข้ามแล้วมานั่งชมวิวที่ลานรูปปั้นนี้ ขอให้ท่านเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในโตเกียวในขณะที่รูปปั้นยังไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ท่านอาจจะเพลิดเพลินจากการอ่านข้อความบนแผ่นหินสลักที่อยู่ข้างหลังรูปปั้นเพื่อซึมซับความรู้จากประสบการณ์ให้เต็มที่ หรือถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น นัดเพื่อนของท่านมาพบกันที่ลานรูปปั้นฮาจิโกะนี่สิ

Ngamjit Chaimongkol

Ngamjit Chaimongkol @ngamjit.chaimongkol