เมื่อไม่นานมานี้สวนสาธารณะคาไซ ริงไคได้รับความสนใจจากสื่อเมื่อเพนกวินฮัมโบลด์จากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโตเกียวของที่นั่นได้หลุดหนีออกไปยังอ่าวโตเกียว
นอกเหนือไปจากพาดหัวข่าวอันน่าประหลาดใจนี้แล้ว ทุกคนควรรู้ว่าสวนสาธารณะคาไซ ริงไคเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่และสงบที่สุดในโตเกียว เป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการหลบพักจากเมืองคอนกรีตสีเทา
ถ้าหากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ก็แทนที่จะเสียเงินเยอะไปกับการเที่ยวสปาแพง ๆ สู้หันกลับสู่ธรรมชาติเลยไม่ดีกว่าเหรอ? ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางเมืองโตเกียวและห่างจากโตเกียว ดิสนีย์ รีสอร์ตเพียงแค่ป้ายรถเดียว คาไซ ริงไค โคเอนเดินทางมาได้สะดวกมากโดยใช้เจอาร์เส้นเคอิโยะจากสถานีโตเกียวแค่ไม่ถึง 20 นาที
พื้นที่สีเขียวอันกว้างขวางท่ามกลางทัศนียภาพผืนทะเลของอ่าวโตเกียวแห่งนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมในช่วงสุดสัปดาห์ของเหล่านักปิคนิค คนเล่นว่าว นักดูนก ช่างภาพธรรมชาติ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่นี่แตกต่างไปจากสวนสาธารณะชื่อดังแห่งอื่นในโตเกียวตรงที่จะไม่มีความแออัดหรือวุ่นวายเลย และยังสามารถรักษาบรรยากาศที่สงบได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์
นอกจากจะได้รับการตั้งชื่อโดยสมาคมสวนสาธารณะแห่งมหานครโตเกียวว่าเป็น "ริมฝั่งที่พฤกษชาติ สายน้ำ และผู้คนมาบรรจบกัน" แล้วก็ยังได้คะแนนสถานที่ที่ครอบครัวมากินบาร์บีคิวด้วยกันมากที่สุด และสำหรับฉันนั้น ที่นี่เหมาะที่สุดแก่การมาชมดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิใต้ต้นพลัมและซากุระหรือไม่ก็มาบาร์บีคิวริมชายหาดในฤดูร้อนกับเพื่อนฝูง (แต่ที่นี่ห้ามลงเล่นน้ำ)
มีหลายจุดในสวนที่อนุญาตให้ทำบาร์บีคิวได้ แถมยังมีเตาย่างให้เช่าด้วยอีกต่างหาก แต่คุณต้องรีบจองล่วงหน้าให้ไวเพราะเป็นที่ต้องการสูงมาก หรืออีกวิธีหนึ่ง (ที่ฉันชอบทำ) คือเอาเตามาเองซะเลย! ถ้าคุณเตรียมเตาบาร์บีคิวมาเองก็สามารถเลือกได้ว่าจะตั้งที่ชายหาด (จะมีกระท่อมหลังคาสีขาวที่มีก็อกน้ำให้ล้างทรายกระจายอยู่รอบ ๆ ) หรืออาจจะลองหาทำเลบนพื้นหญ้าใกล้ชิงช้าสวรรค์เพื่อจะได้อยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้สีเขียว
ชิงช้าสวรรค์ "เพชรแกมบุปผา" อันสวยจับใจที่ได้ชื่อนี้เพราะความสว่างอันงดงามท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่เด่นมากของสวนสาธารณะ ชิงช้าสวรรค์นี้เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดแบบยังเปิดให้บริการอยู่ของญี่ปุ่นซึ่งจะให้คุณได้ชมวิวอันสวยสุดใจของอ่าวโตเกียว ของโตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (ถ้าคุณโชคดีพอ) ของภูเขาไฟฟูจิ และอื่น ๆ
ชิงช้าสวรรค์คิดค่าบริการคนละ 700 เยน และใช้เวลารอบละ 17 นาที ฉันโชคดีสุด ๆ ที่ทันเห็นพระอาทิตย์ตกดินส่องแสงอยู่เหนือขอบฟ้าของเมืองตอนที่ชิงช้าหมุนขึ้นมาถึงจุดสูงสุดพอดี ถ้าคุณกะจะขึ้นชิงช้าสวรรค์ช่วงหัวค่ำแล้วล่ะก็ฉันขอแนะนำให้ขึ้นช่วง 20:15 น. เพราะจะมีโอกาสได้เห็นดอกไม้ไฟจากดิสนีย์แลนด์ที่อยู่ใกล้ ๆ (เริ่มจุดกันตอน 20:30 น.) และแสงระยิบระยับจากสะพานสายรุ้งด้วย