คนญี่ปุ่น หรือชาวต่างชาติที่อยู่ญี่ปุ่นมานาน มีความหลงไหลในดอกซากุระ (หรือ cherry blossom) เป็นพิเศษ การผลิบานของดอกซากุระสื่อถึงการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิและการสิ้นสุดลงของฤดูหนาว ทุกสื่อ เช่น รายการข่าวในทีวี หนังสือพิมพ์ Facebook และ websites คอยรายงานการติดตามการผลิบานพร้อมทำนายวันที่ซากุระจะบานในเขตต่างๆ
ในญี่ปุ่นมีซากุระมากกว่า 100 พันธุ์ ซากุระบานส่วนใหญ่จะมี 5 กลีบ แต่ก็มีบางพันธุ์ที่มีกลีบถึง 20 กลีบ พวกนี้อยู่ในสายพันธุ์ yaezakura นอกจากนี้ซากุระยังมีหลายสีตั้งแต่ขาวไปจนถึงสีชมพูหลากหลายความเข้ม แล้วยังมีบางพันธุ์ที่เป็นสีเหลืองด้วย ซากุระที่พบเยอะที่สุดในโตเกียวคือ Somei Yoshino พันธุ์นี้มี 5 กลีบและมีสีชมพูที่อ่อนมาก ในบางพื้นที่ของโตเกียวหรือบริเวณอื่นๆของญี่ปุ่นจะมีซากุระพันธุ์กิ่งย้อยที่เหมือน willow trees พวกนั้นเรียกว่า Shidarezakura ซึ่งมักจะบานก่อนพันธุ์อื่น แล้วก็ยังมีซากุระที่เหมือนหญ้ามอสเรียกว่า Shibazakura ที่เป็นเหมือนสนามหญ้าซากุระบาน หนึ่งในที่ที่มีหญ้าสีชมพูที่สวยงามที่สุดที่โดยปกติจะบานต้นเดือนพฤษภาคมคือที่ Hitsujiyama Park ที่ Chichibu ในเขต Saitama
หลายคนเคยได้ยินคำว่า งานสังสรรค์ "o-hanami" (การชมดอกไม้) ที่กลุ่มเพื่อน เพื่อนร่วมงาน และครอบครัวมานั่งใต้ต้นซากุระ โดยปกติจะนั่งบนผ้าใบสีฟ้าที่เต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่เพียงพอสำหรับการฆ่าเวลาเป็นชั่วโมงไปกับการพูดคุยและ ในบางขณะ เหลือบขึ้นไปมองดอกซากุระบาน
อย่างไรก็ตาม อย่างที่คุณเห็นได้ในรูปภาพพวกนี้ หลายคนรอจนซากุระบานเต็มที่ไม่ไหว ในโตเกียวปี 2557 นี้ ซากุระน่าจะบานเต็มที่ในสุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม และรูปพวกนี้ถูกถ่ายหนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านั้น จะเห็นได้ว่ามีต้นที่มีดอกซากุระบานอยู่แค่ไม่กี่ต้นใน Wadabori Park ตามแม่น้ำ Zempukuji ที่ Suginami-ku ในขณะที่ส่วนใหญ่แต่ละต้นจะมีแค่ดอกอ่อนสีม่วงและเขียวที่พร้อมจะผลิบานในไม่ช้า
สวนนี้เป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดที่หนึ่งในโตเกียว มีต้นซากุระเก่าแก่ยืนเรียงกันตามทางเดินเหมือนอุโมงค์ซากุระเหนือแม่น้ำยาวเป็นกิโลตอนที่ดอกซากุระบานเต็มที่ เริ่มเดินจากศาลเจ้า Omiya Hachiman ที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Nishi-Eifuku บนสาย Inokashira ไม่ไกล แวะเข้าศาลเจ้าหลังจากที่ชำระล้างมือและปากโดยอย่าลืมสังเกตต้นแปะก๊วยยักษ์ที่อยู่ตรงประตู (ผู้ชายอยู่ทางขวาและผู้หญิงอยู่ทางซ้ายเมื่อเดินเข้า) ศาลเจ้าจะอยู่ข้างหน้าเลย ใช้เวลาสักครู่เดินชมพื้นที่ ทางซ้ายของวิหารเป็นอาคารยาวที่มี o-mikoshi (ศาลเจ้าที่เคลื่อนย้ายได้) ที่ใช้ในพิธีกรรมประจำปี ออกจากศาลเจ้าทางทางด้านขวาของวิหาร แวะดูการซ้อมยิงธนูสักนิด (การยิงธนูแบบญี่ปุ่น) แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายเพื่อออกประตูเล็กๆหลังเดินผ่านบริเวณซ้อมยิงธนู เดินตามทางเดินไปตามแม่น้ำ ข้ามสะพาน แล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปตามอัธยาศัย หยุดปิคนิคก็ได้ถ้าเจอจุดที่น่านั่ง แล้วเดินกลับอีกฝั่งของแม่น้ำ ระวังจักรยานด้วย ทางเดินแถวนี้พลุกพล่านมาก!