ในปี ค.ศ. 1979 ได้มีการจัดฉายซีรีส์อนิเมะเรื่อง หุ่นรบกันดั้ม เป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นตำนานของกันดั้มก็ได้เริ่มขึ้น ซีรีส์กันดั้มได้ขยายจักรวาลออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ มังกะ นวนิยาย วิดีโอเกมส์ หุ่นโมเดล และสินค้าภายใต้เทรดมาร์กกันดั้มต่างๆอีกมากมาย รวมมูลค่ามากกว่า ห้าหมื่นล้านเยน ในปีนี้ที่ซีรีส์กันดั้มมีอายุครบรอบ 35 ปี บริษัท นัมโกะ บันได และ ซันไรส์ ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างทั้ง อนิเมะชุดใหม่ และ โครงการวิดีโอเกมส์ต่างๆจาก จักรวาลของกันดั้ม จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมดสุดๆในการเกินทางไปเยี่ยมชมหุ่นรบยักษ์กันดั้ม และเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ กันดั้ม ฟรอนต์ โตเดียว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น
ในทางเข้าหลังของ Diver City Tokyo Plaza จะมีเจ้าหุ่นรบยักษ์ขนาดสมจริงรุ่น Gundam Real Grade RX-78-2 Ver. GFT. โดยกันดั้มตัวสูทตัวนี้มีนักบินประจำขับเคลื่อนเป็นตัวละครที่ชื่อว่า อามูโระ เรย์ ในช่วง ห้าโมงเย็น ถึง ห้าทุ่มของทุกวัน จะมีการเปิดไฟหุ่นรบตัวนี้ และมีไอน้ำพ่นออกมาจากทางอกของตัวหุ่นรบ และในเวลา ทุ่มครึ่ง สองทุ่มครึ่ง และสามทุ่มครึ่งของทุกวันจะมีการแสดงแสงสีเสียง และ การโชว์ทักษะของหุ่นยนตร์ โดยมีแบกดรอป แสงสีเสียง ขนาด105 X37 ฟุต ฉายไปที่ตัวตึก Diver City Tokyo เป็นเวลา 11 นาที การแสดงนี้มีชื่อว่า Gundum Stand at Jaburo
ส่วน พิพิธภันฑ์ Gundum Front Tokyo อยู่ที่ชั้นเจ็ด ภายในตึก Diver City Tokyo Plaza โดยมีการแบ่งเป็นโซนต่างๆเพื่อให้แฟนๆได้รับประสบการณ์ของจักรวาลกันดั้มได้อย่างจุใจ ในเรื่องของค่าเข้านั้นราคาจะอยู่ที่ 1000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ นักเรียนมัธยมปลาย และ นักศึกษามหาวิทยาลัย 800 เยน สำหรับ เด็กประถม และมัธยมต้น (สองอย่างนี้เป็นราคาจองล่วงหน้า ส่วนราคาหน้างานจะบวกสองร้อยเยน) ตั๋วนั้นสามารถซื้อได้ที่หน้างาน หรือสั่งจองผ่าน เว็บ Ticketpia และ จองผ่านร้านเซเว่นอีเลเว่น
โซนแรกจากทางเข้าคือ โดมจี โซนนี้จะฉายวิดีโอพิเศษ ที่ต้องใช้ตั๋วเข้าเพื่อเข้าไปข้างใน เพื่อที่จะไปยืนหรือเดินเกาะราวเหล็ก ตัวโดมนั้นมีความยาวประมาณ 16เมตร มีโปรเจคเตอร์ทั้งหมด หกตัว และลำโพง สิบสามตัว วิดีโอที่ฉายนั้น จะเกี่ยวกับเจ้า Real Gundam RX และ เรื่องราวของจักรวาลกันดั้ม และ ฉากต่อสู้ที่น่าประทับใจ ที่ตัดเอามาทำเป็น CG เจ๋งๆ เช่นการต่อสู้ระหว่าง RX-93 v Gandam และ Sazabi ที่บังคับโดย คู่แข่งของ อมูโระ ใน universe century ชาร์ แนะนำว่าให้เช็คเวลาการแสดงดีๆกันพลาด (ในหนึ่งชั่วโมงจะฉายสามรอบ ถ้าไม่ตรงรอบจะต้องรอจนกว่าจะฉายจนจบถึงได้ปล่อยออกมา และ ตั๋วหนึ่งใบเข้าได้ครึ่งเดียว)
โซนต่อมาคือ โซนถ่ายรูป (ที่เป็นโซนเสียตัง) ซึ่งมีโมเดลต่างๆให้ถ่ายรูปคู่กับนักบินคนโปรดในขนาดเท่าตัวจริง คิดดูว่าเจ๋งขนาดไหนที่ได้ถ่ายรูปกับหุ่นรบ และ โมเดลต่างๆจากซีรีส์กันดั้ม
ไฮไลท์ในการถ่ายรูปอีกอย่างของโซนนี้คือ เจ้ากันดั้มรุ่น Strike Freedom Gundam จากซีรีส์ Mobile Suit Gundam Seed Destinyขนาด1/1 ที่พุ่งทะลุออกมาจากพื้น โดยการเดินไปอยู่ใต้แขนของตัวหุ่น แล้วทางด้านซ้ายจะมีCore Fighter Ver. GFT จากซีรีส์ Mobile Suit Gundam หาไม่ยากเพราะการติดตั้งไฟ LED และ การทำรายละเอียดที่สุดยอดมาก
ท้ายสุดแต่ไม่สุดท้าย คือการจำลองสมรภูมิ Boaoa Qu จากกันดั้มภาคแรก ขนาด 10X15ฟุต ในตอน Mobile Suit Gundam’s final battle against the Principality of Zeon สมรภูมิที่จำลองมาจากการที่อุกาบาตสองลูกชนกัน จนป้อมปราการอวกาศมีรูปร่างคล้ายร่ม
ก่อนออกจากงาน อย่าลืมไปดูร้านขายของฝาก และGunpia Tokyo ที่เป็นนิทรรศการ จัดแสงหุ่นโมเดล มากกว่าพันตัว