นักท่องเที่ยวที่มีแผนการมาเยี่ยมชมมหานครของประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายวัน หลังจากเยี่ยมชมสถานที่หลากหลายที่โตเกียวจัดสรรไว้รอท่า ตั้งแต่ วัดและศาลเจ้า อันจุเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ไปจนถึง สวนใหญ่-เล็กอันงดงาม สวนสนุกสุดเหวี่ยง พิพิธภ์ณฑ์ ตลาด และแหล่งชอปปิ้ง ในบางครั้งจะเกิดอาการเบื่อเมืองขึ้น ต้องการพักจากตึกระฟ้า ความคึกคักวุ่นวายของเมือง ฉันขอแนะนำสถานที่แห่งหนึ่ง ที่จะนำคุณใกล้ชิดกับธรรมชาติ และไม่ไกลจากโตเกียว เที่ยวไป-กลับวันเดียวก็ไปได้ ง่ายจริงๆ
ภูเขาทะคะโอะ (Mt. Takao) ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของคนญี่ปุ่นมาแต่โบราณกาล และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในปัจจุบัน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของใจกลางโตเกียว นอกจากการเดินป่าบนเส้นทางขึ้นภูเขา ผ่านแมกไม้ ป่าสน วัดและศาลเจ้าอันงดงามแล้ว ภูเขาทะคะโอะยังมีจุดชมวิวเหนือกรุงโตเกียว และจุดชมวิวเทือกเขาสลับซับซ้อนของเทือกเขาแอปล์ญี่ปุ่น สวนลิงและสวนพฤษศาสตร์พรรณไม้ป่า (Monkey Park and the Wild Plant Garden) นอกจากนี้ภูเขาทะคะโอะยังเป็นจุดชมดอกซากุระในต้นฤดูใบไม้ผลิ และชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
เช้าของวันท้องฟ้าแจ่มใส ฉันกับน้องชายได้เดินทาง มุ่งหน้าไปยังสถานีทะคะโอะซานกุชิ (Takaosanguchi) ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของรถไฟสายเคโอะ (Keio) และเป็นสถานีที่ตั้งอยู่ติดกับเชิงเขาทะคะโอะ เดินจากสถานีทะคะโอะซานกุชิไปนิดเดียว เราก็พบกับสถานี Cable car และ Chair Lift ทั้งสองอย่างจะช่วยย่นระยะทางขึ้นเขาไปครึ่งหนึ่ง แต่คุณก็จะพลาดโอกาสชมธรรมชาติอันสวยงามไปครึ่งหนึ่งเช่นกัน!
เราเลือกเดินขึ้นเขา บนเส้นทางสาย 1 ซึ่งเป็นเส้นทางที่เดินง่ายที่สุด ทางเดินปูด้วยหินไปตลอดสาย เดินขึ้นเนินสบายๆ ผ่านป่าทึบที่มีต้นไม้สูงใหญ่หลายคนโอบ ต้นสนญี่ปุ่นหรือต้นซุกิบางต้นมีรากโผล่ขึ้นมาเหนือดิน คนญี่ปุ่นจึงให้ชื่อว่า'ทะคะโอะ-ซุกิ' (Tako-sugi) หรือต้นสนปลาหมึกยักษ์ เข้าใจเรียกจริงๆ! เมื่อเดินขึ้นไปจนถึงสถานี Cable car บนเขา เราก็พบกับลานกว้างซึ่งเป็นจุดชมวิวเหนือเมืองโตเกียว แถวนี้จะเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านน้ำชา เดินเลยไปอีกหน่อย ก็จะพบกับสวนลิงและสวนพฤษศาสตร์พรรณไม้ป่า (Monkey Park and the Wild Plant Garden) ซึ่งคิดค่าเข้าชมคนละ 420 เยน
เมื่อเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ เราก็มาถึงบันไดหิน ที่ทอดตัวสูงขึ้นสู่วัดยะคุโอะอิน (Yakuoin) สองข้างทางเรียงรายไปด้วยโคมไฟญี่ปุ่น สีแดงของโคมไฟตัดกับสีเขียวของใบไม้อย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมีรูปแกะสลักหินตั้งแสดงอยู่มากมาย ซึ่งรวมทั้งรูปปั้นหินของเท็งงุ (tengu) เทพผู้พิทักษ์ภูเขาและป่าไม้
เดินขึ้นเขาผ่านเขตวัดยะคุโอะอิน ปีนบันไดอีกสองสามช่วง เราก็มาถึงเนินกว้าง ซึ่งมีระเบียงชมวิวอยู่หลายแห่ง และแน่นอนต้องมีป้ายหินบ่งบอกว่า เราได้มาถึงจุดสูงสุดของภูเขาทะคะโอะ ซึ่งมีความสูง 599 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล วิวบนนี้สวยมากๆ เทือกเขาสลับซับซ้อนไปไกลสุดสายตา งามอย่างนี้ต้องมีเซลฟี่กันหน่อยนึง
จากนั้นก็ถึงเวลาลงเขา คุณสามารถเลือกเดินลงบนเส้นทางสายอื่น แต่เราเลือกกลับทางเดิม เพราะเป็นเส้นทางที่สวยมาก อีกทั้งยังสะดวกสบายกว่าด้วย เราจบทริปด้วยการแวะเติมพลังด้วยอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ พื้นที่รอบๆ สถานีทะคะโอะซานกุชิ (Takaosanguchi) มีร้านอาหารน่านั่งอยู่มากมาย เดินดุ่มเข้าร้านไหนก็ไม่ผิดหวัง เพราะมีความหิวเป็นทุนเดิม