ใครมาเดินเล่นที่ปอดแห่งกรุงโตเกียวอย่างสวนอูเอโนะ ถ้าหันไปเจอรถไฟเครื่องจักรไอน้ำ หรือเจ้าวาฬสีน้ำเงินตัวยักษ์กำลังว่ายไปมาอยู่กลางอากาศ แสดงว่าคุณได้พาตัวเองมาอยู่หน้า "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" (National Museum of Nature and Science) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บางคนได้ยินคำว่าพิพิธภัณฑ์แล้วอาจจะส่ายหน้าไม่สนใจ แต่บอกเลยว่าเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สนุกกว่าที่คุณคิดแน่นอน ลองแวะชมสักครั้งหนึ่งอาจติดใจอยากกลับมาอีกหลายๆรอบก็เป็นได้
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้คนญี่ปุ่นเรียกสั้นๆว่า "คาฮากุ"(Kahaku) จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านวิทยาศาสตร์และธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น พื้นที่ทั้งหมดใหญ่พอๆกับโตเกียวโดมเลยทีเดียว การเดินทางสามารถนั่งรถไฟใต้ดิน metro หรือ Keisei มาก็ได้ แต่ที่ใกล้ที่สุดคงจะเป็นรถไฟของ JR โดยจากสถานี JR Ueno ให้เดินออกทาง Ueno Koen Exit เดินเข้าสวนอูเอโนะมา ตรงมาตามทางแล้วเลี้ยวขวาตรงพิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกก็จะถึง "คาฮากุ" แห่งนี้แล้ว ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 600 เยน สำหรับเด็กเล็กจนถึงมัธยมปลายเข้าชมฟรี
ตัวพิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ โซนแรกคือ Japan Gallery ที่ซึ่งเราจะพบกับ "Futabasaurus" ไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ที่เคยมีชีวิตอยู่ในเกาะญี่ปุ่นแห่งนี้ แม้แต่สุนัขแสนซื่อสัตย์แห่งย่านชิบุย่าอย่างเจ้าสุนัข "Hachiko" ก็จะเจอเว่อร์ชั่นตัวเป็นขนได้ที่นี่เช่นกัน ส่วนโซนที่2 คือโซนของ Global Gallery ที่นี่เราจะได้พบกับโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริงอย่าง T-rex และหลากหลายสิ่งมีชีวิตจากทั่วมุมโลก นอกจากนี้ยังมีบริเวณทดลองด้านฟิสิกส์ที่มีเครื่องไดนาโมให้คุณได้ลองกำลังแขนปั่นไฟฟ้าให้หลอดไฟสว่างอีกด้วย
อีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความตื่นตาให้กับผู้มาเยี่ยมชมทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่นั้นคือ "Theater 360" คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการชมภาพยนตร์จากจอภาพรอบทิศทางในห้องทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างความสมจริงทั้งภาพและเสียง ราวกับคุณกำลังล่องลอยไปกับเรื่องราวในภาพยนตร์ Theater 360 อยู่ตึกเดียวกับ Japan Gallery เดินตรงจากที่ซื้อตั๋วมาเล็กน้อยทางเข้าจะอยู่ด้านซ้ายมือ บอกได้คำเดียวว่า ห้ามพลาดจริงๆกับ Theater 360 ส่วนใครที่ติดใจอยากมาดูซ้ำก็ไม่ต้องกลัวเบื่อเพราะหนังจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกเดือน
สารภาพตามตรงว่าครั้งแรกที่ผมเองเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ก็เพียงเพื่อต้องการหลบลมหนาว แต่พอได้เข้ามาแล้วกลับได้ความเพลิดเพลินที่เหนือความคาดหมาย ในใจแอบอิจฉาเด็กญี่ปุ่นที่มีพิพิธภัณฑ์ดีๆให้ได้ชมกันฟรีๆ "คาฮากุ"แห่งนี้ ทำให้ความรู้กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์และน่าค้นหา และยังกระตุ้นจิตนาการให้ก้าวไปไกลเกินกว่าขอบเขตของความรู้ หรือบางทีนี่จะเป็นคำตอบของความก้าวหน้าในทุกๆด้านของประเทศเล็กๆที่ชื่อว่าญี่ปุ่นแห่งนี้
