บัตร JR East Pass คืออะไร ใช้ยังไงและไปที่ไหนในแถบตะวันออกของญี่ปุ่นได้บ้าง?
บทความนี้มีคำตอบสำหรับคุณ !
JR EAST PASS Flexible 5-Day Pass คือบัตรโดยสารรถไฟที่ให้สิทธิพิเศษในการขึ้นรถไฟ 3 แบบ ดังนี้
- Shinkansen (ชินคันเซน) รถไฟความเร็วสูงสุดในญี่ปุ่นที่เชื่อมระหว่างเมืองหลักต่างๆในแผ่นดินญี่ปุ่น นอกความเร็วที่จะทำให้คุณถึงที่หมายได้ในเวลารวดเร็วแล้ว ยังมีเก้าอี้นั่งที่สะดวกสบายกว้างขวาง ปรับพนักได้พร้อมมีโต๊ะสำหรับทานอาหารหรือใช้แล็บท็อป รวมถึงที่วางกระเป๋าสัมภาระ โดยมีรถไฟชินคันเซนทั้งหมด 5 สาย ที่แล่นผ่านพื้นที่ในส่วนตะวันออก คือสาย Tohoku, Akita, Yamagata, Joetsu และ Nagano
- Limited Express เป็นรถไฟสายที่เสริมมาจากชินคันเซน คือจอดในบางสถานีเล็กกว่าที่ชินคันเซนไม่หยุด แต่มีความเร็วและสะดวกสบายภายในไม่แพ้กัน โดยจะเชื่อมต่อจากพื้นที่ใจกลางเมืองไปยังชานเมือง อย่างเช่น รถไฟสาย Narita Express (N'EX) ที่จะพาคุณเข้าไปในตัวเมืองโตเกียวหรือกลับมาสู่สนามบินนานาชาตินาริตะ ด้วยความเร็ว 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือจะเป็นรถไฟสาย Super Azusa ที่เชื่อมต่อระหว่างสถานี Shinjuku ไปสู่สถานี Matsumoto ในภูมิภาคนางาโน่ภายในเวลา 2 ชั่วโมง 26 นาที
- Tokyo Metropolitan Area ก็คือรถไฟสายหลักในญี่ปุ่นที่วิ่งครอบคลุมพื้นที่สถานีหลักต่างๆ (JR) โดยรถไฟสองสายใหญ่ที่วิ่งทั่วโตเกียวก็คือ สาย Yamanote และ Chuo (Rapid Service) นอกจากนั้นก็ยังมีรถไฟ JR สายแยกแตกแขนงไปตามเส้นทางอื่นๆอีกที่คุณสามารถใช้บริการได้ทั้งหมด
โดยหากคุณเป็นผู้ครอบครองบัตรโดยสารรถไฟใบนี้ คุณจะสามารถจองที่นั่งแบบ Reserved Seat ได้ทั้งในรถไฟชินคันเซนและรถไฟแบบ Limited Express ล่วงหน้าได้เลยก่อนเดินทาง และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติมทั้งสิ้น (จองได้ที่ Ticket Office ทุกสถานี JR)
JR EAST PASS ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดและภูมิภาคใหญ่ต่างๆ อันได้แก่ สนามบินนาริตะ โตเกียว โอมิยะ (Omiya) ทาคาซากิ (Takasaki) อัทสึโนมิยะ (Utsunomiya) นิกโกะ (Nikko) คารูอิซาวะ (Karuizawa) นางาโน่ (Nagano) นิกะตะ (Nigata) เอชิโกะ-ยูซาวะ (Echigo-Yuzawa) โคริยามะ (Koriyama) ฟูกูชิวะ (Fukushiwa) โยเนซาว่า (Yonezawa) เซนได (Sendai) ยามากะตะ (Yamagata) ชินโจ (Shinjo) โมริโอกะ (Morioka) ฮาชิโนเฮ (Hachinohe) ชิชิโนเฮ-โทวาดะ (Shichinohe-Towada) และตอนบนสุดของภาคตะวันออกของญี่ปุ่นอย่างอาโอโมริ (Aomori)
และแน่นอนว่าสถานที่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเรื่องต่างๆแตกต่างกันไป มีเอกลักษณ์เฉพาะ ความสวยงามมหัศจรรย์ทั้งทางธรรมชาติ สิ่งก่อสร้าง วัฒนธรรม น้ำพุร้อน อาหารหรือเครื่องดื่มซึ่งน่าสนใจในทุกช่วงฤดู ทำให้คุณต้องวางแผนให้ดีว่า หากซื้อบัตร JR EAST PASS ที่สามารถใช้ได้ยืดหยุ่นในเวลา 5 วัน (ไม่ต้องใช้ติดต่อกัน แต่เมื่อซื้อมาแล้วบัตรจะนับวันที่ซื้อเป็นวันเริ่มต้น และจะหมดอายุภายในเวลา 14 วันนับตั้งแต่วันที่ซื้อ) คุณจะบริหารจัดการเรื่องของวัน สถานที่ และการเดินทางว่าไปที่ไหนอย่างไรบ้าง
ราคาของบัตร JR EAST PASS สำหรับผู้ใหญ่ ราคาอยู่ที่ 22,000 เยน และ 11,000 เยนสำหรับเด็ก สำหรับการนั่งชินคันเซน 1 ครั้ง นั้นมีราคาไม่ต่ำกว่า 6,500 เยนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหากใช้บัตรใบนี้ในการเดินทางข้ามเมืองแม้กระทั่งแบบไปกลับใน 1 วัน ก็ถือว่าคุ้มแล้ว ดังนั้น ไม่ต้องลังเลใจที่จะหาซื้อบัตร JR EAST PASS ใบนี้ไว้ในครอบครองหากคุณมีแพลนว่าจะเดินทางข้ามไปจังหวัดอื่นๆที่ได้กล่าวมาทั้งหมดในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น
วิธีการใช้บัตร
ปกติการใช้บัตรโดยสารรถไฟในญี่ปุ่นจะต้องใส่เข้าเครื่องตรวจตั๋วหน้าทางเข้าไปยังชานชลา แต่หากคุณถือบัตร JR EAST PASS ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น แค่เพียงเดินไปยังช่องริมสุดของทางเข้าชานชลาที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ และยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่ดูเท่านี้ ก็จะสามารถผ่านไปเข้าด้านในได้โดยไม่ต้องผ่านขัั้นตอนยุ่งยากใดๆ (ในครั้งแรกของแต่ละวันที่เริ่มใช้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ประทับสแตมป์วันที่ในช่องของบัตรเพื่อนับวันในการใช้)
หาซื้อบัตร JR EAST PASSได้จากที่ไหน?
คุณสามารถซื้อได้จาก 3 ช่องทาง คือ
- นอกประเทศญี่ปุ่น - สั่งซื้อได้กับเอเจนซี่ท่องเที่ยว (travel agent) ก่อนมาเยือนประเทศญี่ปุ่น และมารับ Pass ตัวจริงได้เมื่อเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นที่ Exchange Office บริเวณสถานีหรือสนามบินรอบ JR East area
- สั่งซื้อออนไลน์ - www.eastjapanrail.com
- ซื้อในประเทศญี่ปุ่น - มีจุดขาย (Sales Office) ในสถานี JR สนามบิน Narita และตลอดบริเวณในเส้นทางของ JR EAST โดยจะต้องนำพาสปอร์ตมาแสดงเวลาที่จะซื้อด้วย
หมายเหตุ : ผู้ที่จะใช้ JR EAST PASS ต้องเป็นผู้ที่ไม่ได้ถือพาสปอร์ตญี่ปุ่น เข้ามาท่องเที่ยวในรูปแบบชั่วคราวไม่เกิน 90 วัน (Temporary Visitor) และสามารถซื้อบัตรได้เพียงครั้งเดียวต่อการมาเยือนญี่ปุ่นหนึ่งครั้ง
