ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ปกติเป็นคนไม่ชอบอยู่ hostel ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ และถ้าอยู่ก็จะเลือกอยู่ห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัวเพราะไม่ชอบการต้องใช้ห้องน้ำรวม แต่ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาอยู่ที่พักที่เขาเรียกแทนตัวเองว่า shared house ง่ายๆเลยคือ เหมือนเป็นบ้านขนาดใหญ่มาก ที่ทุกคนมาอยู่ร่วมกัน ก็ต้องขอบอกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตคนญี่ปุ่นในระดับนึงแบบไม่ปรุงแต่ง เนื่องจากมีบทความอื่นที่พูดเรื่อง shared house นี้อย่างละเอียดแล้ว เราขอเน้นเรื่องการกินอยู่ที่เราพยายามหาข้อมูลอยู่นานก่อนไปแต่หาไม่ได้นะคะ
ด้วยความที่เป็นบ้านที่ใหญ่มาก ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะและครบ มีเครื่องซักผ้าใช้ฟรีอยู่หลายจุด แต่ถ้าจะอบต้องหยอดเหรียญนะคะ มีสนามฟุตบอล มีครัวและห้องสมุดที่ใหญ่กว่าคอนโดเราทั้งห้องอีก มีสวนสำหรับคนสูบบุหรี่ มีห้องสังสรรค์ มีห้องน้ำหลายห้องอยู่ มีแม้แต่ salon ในเชิงที่ตั้งก็ แม้จะเดินจากสถานีไกลหน่อย (20 นาที) แต่แถวนี้มีร้านต่างๆครบ ที่สถานีรถไฟเองมี super ร้าน fast food มีแม้แต่ร้านขายเสื้อผ้า ระหว่างทางไปที่พักมีร้านสะดวกซื้อเกือบสิบ หน้าสถานีมีร้านราเม็งที่ค่อนข้างขึ้นชื่อด้วย แถวๆที่พักยังมีสวน edo tokyo architecture ที่มีการจัดงานอยู่เรื่อยๆ งานชงชา งาน ghibli มาถึงประเด็นสำคัญคือห้องอาบน้ำ ที่นี่จะมีสองแบบคือห้องน้ำรวมกับห้อง shower ที่มีคอกแยก โดยจะสลับอาทิตย์ระหว่างหญิงชายว่าใครต้องใช้ห้องไหน ยังดีนะที่ไอ้ห้องรวมมีคอก shower อยู่คอกนึงและเราออกเช้าจนไม่มีคนอาบกันเวลานั้น ถ้าต้องอยู่ช่วงต้องอาบรวมนี่นึกภาพไม่ออกจริงๆ
แต่ด้วยความเป็น shared house ก็มีกฏระเบียบหลายอย่าง ที่มองอีกแง่นึง ทำให้เรารู้การใช้ชีวิตคนญี่ปุ่นดีนะ อย่างแรกเลย มีกฏการแยกขยะที่เข้มงวดมาก แถมต้องซื้อถุงขยะมาเองให้ถูกแบบด้วยนะ ห้อง pantry ที่จะมีอยู่ทุกชั้นใช้ได้แค่ต้มน้ำเปล่าห้ามทำอาหาร อาหารให้มาใช้ห้องครัวทำ หลังใช้อะไรแล้วต้องล้างทำความสะอาดให้ดีแล้วเก็บให้เป็นระเบียบ ผ้าถ้าใช้แล้วให้ใส่ตะกร้าและหยิบผืนใหม่มาแขวนไว้แทน ไอ้พวกกฏระเบียบเหล่านี้เราขอย้ำหน่อยนะ เพราะแถวห้องพักเราคนไม่รักษาความสะอาดห้องน้ำเลย ทำให้เราต้องหนีไปใช้ห้องน้ำโซนอื่นตลอด คืออยู่ร่วมกันต้องคิดถึงคนอื่นให้มาก เราอาจสกปรกได้แต่เห็นใจคนอื่นเถอะนะ จริงๆเขามีทำความสะอาดนะ แต่แค่อาทิตย์ละครั้ง ที่นี่ต้องเอารองเท้าใช้ในบ้านมาเองเพราะห้ามใส่รองเท้าปกติในบ้านและไม่มีใครเดินเท้าเปล่ากัน
ขอพูดถึงตัวห้องบ้าง ตัวห้องเราเองก็กว้างใช้ได้ มีโต๊ะ ตู้เย็น เตียง ตู้เสื้อผ้า และที่เปิดกระเป๋าได้อย่างน้อยสองใบสบายๆ เสียแต่มีแต่สาย LAN ไม่มี wifi อ้อที่นี่มีชั้นที่มีแต่ผู้หญิงด้วยนะ ห้ามผู้ชายเข้าตอนดึก
โดยรวม ถ้าอยากหาที่พักกึ่ง hostel ในราคาย่อมเยาว์ เราว่าเขาเป็นทางเลือกที่ดีนะ ได้เรียนรู้วิถีญี่ปุ่นจริงๆด้วย เพราะเขาอยู่กันเหมือนบ้านจริงๆมากกว่าเป็นธุรกิจโรงแรม สังเกตได้ว่ามีคนญี่ปุ่นอยู่เยอะเหมือนกันด้วยนะ ไงลองดูนะคะ