หนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเยี่ยมชมโกะยะซานคือ ในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อชมโมะมิจิ (ใบเมเปิ้ล) (เครดิตรูปภาพ: Allison Morris)

โกะยะซานศูนย์กลางพุทธศาสนา Shingon

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

หนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเยี่ยมชมโกะยะซานคือ ในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อชมโมะมิจิ (ใบเมเปิ้ล) (เครดิตรูปภาพ: Allison Morris)
Suwannee Payne   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางไปยังพื้นที่คันไซ (Kansai) และรักวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ทางศาสนาของญี่ปุ่น โกะยะซาน (Koyasan) คือสถานที่ที่ควรใส่ไว้แผนการการเดินทางของคุณ

โกะยะซานเป็นเมืองภูเขาเล็กๆ ตั้งอยู่ในภาคเหนือของภูมิภาควะกะยะมะ (Wakayama) เป็นที่ตั้งของพุทธศาสนานิกาย Shingon ก่อตั้งขึ้นในปี 816 โดย Kukai (มีสมญานามว่า Kobo Daishi หลังจากนิพพาน) ท่าน Kukai เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อศึกษาพุทธศาสนาในปี 804 ท่านได้เรียนรู้หลักธรรมขั้นสูงของพุทธศาสนาจาก อาจารย์ Hui-kuo หลังจากการตายของอาจารย์ Hui-kuo สองปีต่อมาท่าน Kukai ได้กลับมายังประเทศญี่ปุ่น และในปี 816 ราชสำนักญี่ปุ่นได้อนุญาตให้ท่าน Kukai ก่อตั้งสำหนักสงฆ์ขึ้นในสถานที่ที่ห่างไกลจากโลกภายนอก ในปัจจุบันนี้คือภูมิภาควะกะยะมะ ท่านได้สั่งสอนพุทธศาสนานิกาย Shingon จนกระทั่งนิพพานในปี 835

การเข้าถึงโกะยะซานมีเพียงสองหนทางเท่านั้น รถบัส/รถส่วนตัว หรือเคเบิ้ลคาร์ มีถนนที่คดเคี้ยวไปมาเพียงหนึ่งสายสำหรับขึ้นหรือลงภูเขา ซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้ขับขี่ที่กล้าหาญ ส่วนคนอื่นๆ ต้องใช้เคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งจะมีออกสม่ำเสมอ จากสถานี Gokurakubashi ไปยังสถานี Koyasan ใช้เวลาประมาณห้านาที ระหว่างทางจะมีทิวทัศน์สวยๆ ให้คุณได้ชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวของโมะมิจิ (ใบเมเปิ้ล) ในฤดูใบไม้ร่วง จากสถานี Koyasan จะมีรถบัสพานักท่องเที่ยวเข้าไปในเมือง และหยุดที่ทุกสถานที่สำคัญๆ

โกะยะซานมีสถานที่มากมายให้ชมได้ในช่วงเวลาสองวัน แต่ถ้าคุณมีเวลาจำกัด รายชื่อสถานที่ที่ควรแวะชมของคุณควรจะมีวัด Kongobuji หมู่วัด Danjo Garan และสุสานโอะคุโนะอิน (Okunoin)

วัด Kongobuji เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนานิกาย Shingon สิ่งก่อสร้างในปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1863 แต่ประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้สืบสาวไปยาวนานถึงศตวรรษที่ 9 วัด Kongobuji มีเนื้อที่ทั้งหมด 160,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงอาคารหลัก อาคารทำสมาธิ หอระฆัง อาคารเก็บของ โรงน้ำชา และอาคารที่สำคัญอื่น ๆ เช่นอาคาร Okuden วัด Kongobuji ยังมีสวนหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สวน Banryutei ซึ่งมีขนาดยาว 2,349 ตารางเมตร หินต่างๆ ถูกวางโครงร่างเป็นรูปมังกรสองตัว (ตัวผู้และตัวเมีย) เพื่อปกป้องอาคาร Okuden มังกรทั้งสองตัวสร้างจากหินแกรนิตของชิโกะกุ (Shikoku) 140 ก้อน และทรายที่นำมาจากเกียวโต

หมู่วัด Danjo Garan เป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์และศาสนาที่สำคัญที่สุดของโกะยะซาน มีอาคารทางศาสนาและอนุสรณ์สถานมากมาย สิ่งก่อสร้างที่สวยที่สุดในหมู่วัด Danjo Garan คือ ไดโตะ (มหาเจดีย์) ที่ออกแบบโดยท่าน Kukai เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่วัด Danjo Garan การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 816 และเสร็จสมบูรณ์ประมาณปี 889 มหาเจดีย์ที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้ ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1937 ซึ่งสูง 160 ฟุต ภายในหมู่วัด Danjo Garan ยังมีอาคารมิเอะโดะ (Portrait Hall) ซึ่งคาดคะเนกันว่าเป็นที่พำนักของท่าน Kukai ขณะที่ท่านอาศัยอยู่ที่นี่ ภายในอาคารมิเอะโดะ มีภาพวาดของท่าน Kukai ที่เป็นภาพวาดภาพเดียวที่วาดโดยเจ้าชาย Shinnyo ซึ่งเป็นลูกศิษย์และทายาทผู้สืบตำแหน่งต่อจากท่าน อาคารมิเอะโดะไม่เปิดให้เข้าชม ยกเว้นในวันที่ 21 มีนาคมวันครบรอบการนิพพานของท่าน Kukai

ท้ายสุดคือ สุสานโอะคุโนะอิน (Okunoin) เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีหลุมฝังศพกว่า 200,000 หลุม ตั้งแต่ขุนนางศักดินาไปจนถึงชาวไร่ชาวนา สุดปลายของสุสานคือ สุสานหลุมฝังศพของท่าน Kukai ซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานกว่าพันปี เป็นจุดสุดท้ายของผู้แสวงบุญบนเส้นทาง Kumono Kodo และเป็นสถานที่ที่ดีที่จะจบวันของคุณที่โกะยะซาน

Suwannee Payne

Suwannee Payne @suwannee.payne

I am a Thai woman who has spent half of her life in beautiful Ottawa, capital city of Canada. I enjoy crafting, gardening, photography, bicycle touring and my new found love blogging. You can visit my blog (In Thai) at here It is a beautiful site. The name Ban Suanporpeang means 'Humble little...