จังหวัดยามานาชิมีชื่อเล่นว่า"ราชาแห่งผลไม้" อาจเป็นเพราะดินดีและสภาพภูมิอากาศที่เป็นอุณหภูมิสูงของภูเขาที่ทำให้ผลไม้ที่นี่มีรสอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ
เช้าวันหนึ่งฉันตื่นเช้าเพื่อไปสวนนาคาโกมิซึ่งชื่อสวนมาจากชื่อของเจ้าของ คุณนาคาโกมิ ซัน ฉันมาโดยนั่งรถบัส 40 นาทีจากโรงแรมริโสะนาเระ ยัทสึกาตาเกะที่ฉันพักอยู่
คุณนาคาโกมิ ซัน ใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลา 8 ปีและตอนนี้เขาสอนภาษาอังกฤษอยูในกรุงโตเกียว เขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วและมีความกระตือรือร้นในการสอนเทคนิคการปลูกผลไม้ให้อร่อย แม้ว่าเขามีงานทำในโตเกียวแต่เขาก็ยังคงกลับมาดูสวนของเขาที่ยามานาชิทุกวันหยุดสุดสัปดาห์
เมื่อมาถึงสวนคุณนาคาโกมิ ซัน ให้ถุงเก็บผลไม้และจานกับมีดแก่เรา เขาบอกว่าเรามีเวลาอยู่ในสวนแอปเปิ้ล 30 นาทีและสวนลูกพลับอีก 30 นาที เก็บแล้วทานเท่าไรก็ได้ไม่อั้น
ก่อนจะเดินไปเก็บผลไม้ในสวน คุณนาคาโกมิ ซัน ขอโทษขอโพยเราเกี่ยวกับความเสียหายของสวนที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นที่ผ่านมาที่ทำให้ผลไม้ทั้งหลายช้ำ ภรรยาของเขายังอธิบายถึงวิธีเก็บและการเลือกผลไม้ที่หวานที่สุด สำหรับแอปเปิ้ล ต้องเลือกผลที่ผิวขรุขระ คุณนาคาโกมิ ซันพูดติดตลกว่า “เหมือนผู้ชายอย่าเลือกหล่อๆ” สำหรับลูกพลับ ให้เลือกผลที่มีสีเขียวจะดีที่สุด
ในสวนแอปเปิ้ล คุณนาคาโกมิ ซันตัดแอปเปิ้ลสายพันธุ์ที่แตกต่างกันให้เราชิม เราชิม 2 พันธุ์คือ แอปเปิ้ลพันธุ์ฟูจิและพันธุ์ชินเซอิไก สดและฉ่ำจริงๆ! เขายังเล่าให้เราฟังถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างสวนผลไม้ ในอเมริกาและในประเทศญี่ปุ่น สวนผลไม้ในอเมริกาจะทิ้งแอปเปิ้ลที่มีเนื้อสีเหลืองภายใน ขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นเจ้าของสวนผลไม้พยายามหาผลที่มีเนื้อสีเหลืองภายในเพราะมันหวานกว่า
ที่สวนลูกพลับฉันได้ลูกพลับที่ดูเหมือมะเขือเทศ เนื้อในมันฉ่ำมาก กัดทีน้ำกระจายลงพื้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะหวานได้ขนาดนี้ หวานซะจนฉันคันคอเลย! และมือของฉันเลอะน้ำลูกพลับทั้ง 2 ข้าง!
ถึงแม้ว่าตอนนี้ไม่ใช่หน้าพีช คุณนาคาโกมิ ซันพาเราไปดูต้นพีชและอธิบายวิธีการอันซับซ้อนที่คนญี่ปุ่นใช้ปลูกพีชให้เราฟัง เขาชี้ตาต้นไม้พร้อมอธิบายว่าเจ้าของสวนจะนำละอองไปผสมเกสรตัวเมียแต่ละดอกด้วยตนเอง ถ้าพวกเขาจะรอพึ่งพาผึ้งอย่างเดียว อาจเกิดขั้นตอนการผสมข้ามเกสรซึ่งนั่นจะทำให้นานกว่าผลผลิตจะออกและเมื่อออกมาก็จะได้ผลไม้น้อยมาก และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ลูกพีชญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่กว่าลูกพีชจีนและของญี่ปุ่นยังแพงกว่าอีกด้วย คุณนาคาโกมิ ซันบอกว่า “จากเทคนิคการทำฟาร์ม คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและสังคม” สาระสำคัญของคนญี่ปุ่นคือ การทุ่มเททำอะไรอย่างแท้จริง
ที่สวนผลไม้แห่งนี้มีอะไรให้ทำอยู่ตลอดทั้งปี ในเดือนเมษายนดอกของผลไม้ต่างๆจะเบ่งบาน ในเดือนมิถุนายนเชอร์รี่กำลังสุกพร้อมเก็บเก็บเกี่ยว ในเดือนสิงหาคม ลูกพีช, พลัม, องุ่นและลูกแพร์พร้อมเก็บเกี่ยวและในเดือนตุลาคมก็เป็นเวลาขององุ่น, แอปเปิ้ลและลูกพลับ คุณนาคาโกมิ ซันเป็นคนอบอุ่นและขี้เล่น เขามักจะคอยดูตามเพื่อให้มั่นใจว่าคุณสนุกไปกับการเรียนรู้ในเรื่องผลไม้และสวนผลไม้!