จุดชมวิวของเมืองอาโอโมริส่วนมากถ้าไม่ใกล้กับสถานีก็จะอยู่ตามแนวสถานี ดังนั้น ผู้มาเที่ยวจึงควรพักอยู่ใกล้ๆกับสถานี
อิโระฮะ เรียวกังเป็นที่พักแบบญี่ปุ่นสมัยเก่า ดังนั้น ผมจึงต้องถอดรองเท้าแตะออกที่ทางเข้าและเดินเท้าเปล่า นอกจากนี้ ห้องของที่นี่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่มีพื้นทาทามิที่สบายและมีเตียงฟูกให้นอนตอนกลางคืนโดยจะยกออกในตอนกลางวัน (หรือวางทิ้งไว้ถ้าคิดว่าจะออกไปข้างนอกทั้งวัน) ห้องของผมออกจะเรียบง่ายโดยมีเพียงโทรทัศน์เล็กๆและที่แขวนเสื้อผ้าแต่ผมสามารถนอนบนฟูกได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งๆที่ที่นี่ใกล้กับสถานี ทำเลข้างถนนนี้ก็แทบจะไม่มีเสียงดังจากข้างนอกมารบกวน
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ใหญ่โตอะไรมีห้องมีกี่ห้องในแต่ละชั้นโดยมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวม นอกจากนี้ยังมีเครื่องขายของบนชั้นสามซึ่งขายเบียร์และเครื่องดื่มอัดลม มีที่จอดรถฟรีสองสามที่และเครื่องซักผ้าสำหรับแขก เครื่องนี้ทำงานได้ดีมากถึงขนาดที่ปั่นแห้งให้ผมยามที่ผมออกไปข้างนอก ที่นี่มีเวลาเคอร์ฟิวตอนห้าทุ่มด้วยซึ่งไม่เป็นปัญหาของผมแต่ว่ามันก็สำคัญสำหรับคนที่ออกไปเที่ยวตอนกลางคืน
ที่นี่มีสถานที่ให้ดูและทำระหว่างทางไปเรียวกัง เช่น เอ-แฟคตอรี่ ศาลเจ้า อูตู-จินจา ที่สงบสุขและ บ้านเนบูตะ วาราสเสะ จากสถานคุณสามารถเดินทางง่ายๆได้โดยใช้รถประจำทางไปยังวัด วัดเซอิริว-จิ ที่มีรูปปั้นพระนั่งที่น่าประทับใจ พิพิธภัณฑ์ศิลปะมูนากาตะ ชิโกะ หรือ พิพิธภัณฑ์ศิลป์อาโอโมริ และ สถานที่ทางโบราณคดี ซันไน-มารุยามะ ซึ่งที่หลังๆนั้นเดินได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินไปยังที่ช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ร้านยามราตรีซึ่งมีตึก อูก้า ด้วย
ราคาของที่นี่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลและระยะเวลาที่จองล่วงหน้า คุณจ่ายเงินไป 4,000 เยนต่อคืนในขณะที่ระหว่างดูจากการจอง ราคาอาจเขียนว่า 6,000 เยนต่อคืนต่อห้อง โดยที่เงิน 500 เยนที่เพิ่มขึ้นมารวมค่าอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นและอีก 1,500 เยนเป็นค่าอาหารค่ำที่มีส่วนผสมตามฤดูกาล
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่หรูหราที่สุดที่จะพักแต่ก็ให้ประสบการณ์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ดีในทำเลที่สู้ได้ยาก