ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่นคุณอยากพบสัตว์?

“ทานุกิ หรือ จิ้งจอกแรคคูณ”( Tanuki , Japanese Raccoon Dog,狸, タヌキ, たぬき)และ กระรอกบิน (ezo momonga) เป็นสัตว์อันดับต้นที่ฉันคิดถึงเมื่อกล่าวถึงประเทศญี่ปุ่น  เมื่อค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่พบว่ามีสัตว์อื่นที่น่าสนใจและเป็นสัตว์หายากในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลายชนิด ทั้งรูปร่างที่แปลกตา  หรือแบบสวยงาม  เช่น “วูปาลูปา” (wooper looper) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำแนวซาลาแมนเดอร์หรือกบ, "อูฐแกะ-อัลปากา” , “ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ของญี่ปุ่น-โอซันโชโอ”, “คลีโอเน่, งูดิน , หมีล้างมือ (Araiguma),กระรอกHokkaido red squirrel, หนู (Ezo Naki Usagi), พังพอน(Iizuna) เมื่อโอกาสที่ฉันสามารถเลือกพบเพียงสัตว์ชนิดเดียว ฉันขอโอกาสพบ”ทานุกิ” สัตว์ที่พบได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะคิดว่า“ทะนุกิ”ไม่มีความสวยงาม หน้าตาไม่น่ารักจึงไม่ต้องการสัมผัส , ลึกลับและน่ากลัว ในตอนที่ฉันเป็นเด็กนั้นสนใจในหนังสือการ์ตูนและภาพยนตร์การ์ตูนทำให้รู้สึกคุ้นเคยกับรูปลักษณ์ของ “ทานุกิ” สัตว์ตัวน้อยที่มีขอบตาดำอย่างหมีแพนด้า และมีหางสลับลายดำ หรือเทาดำ ภาพที่คุ้นตาคือตัวการ์ตูนยอดนิยมโดเรมอนโมโหและโวยวายว่า “ฉันเป็นแมวนะ ไม่ใช่ทะนุกิสักหน่อย” ดังก้องขึ้นมาและทำให้ฉันหัวเราะได้ตลอดพร้อมทั้งคิดว่า “ทะนุกิ” มันแย่ขนาดนั้นหรือ นอกจากนี้ สื่อเหล่านั้นยังสอดแทรกความเชื่อว่า “ทานุกิ” เป็นปีศาจหรือเทพเจ้า ที่สามารถแปลงร่างเป็นคนได้ด้วยการแปะใบไม้ที่หน้าผาก เนื้อหาบางเรื่องบอกเล่าว่า “ทานุกิ” ชอบก่อกวน กลั่นแกล้งหรือหลอกมนุษย์เพื่อให้ตกใจหรือเพื่อได้กินเหล้าสาเก แต่มีหลายเรื่องอีกเช่นกันที่กล่าวว่า “ทานุกิ” เป็นผู้ช่วยเหลือมนุษย์มี่ตกอยู่ในอันตราย เช่น หลงป่า , ติดพายุหิมะ โดยนำทางออกมาที่ปลอดภัย หรือให้ความอบอุ่นเมื่อหนาวเหน็บ ในสารคดีเผยแพร่ว่าเมืองชิงะระกิ อำเภอโคกะ จังหวัดชิงะ ในประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งเดียวที่ผลิตรูปปั้นดินเผาทานุกิโดยเรียกว่า “ชิงะระกิยะกิ”   และตั้งรูปปั้นดินเผารูปทะนุกิที่มีเอกลักษณ์พิเศษ “ยืนสองขา พุงป่อง สวมหมวกฟาง มือข้างหนึ่งถือขวดเหล้าสาเก และมืออีกข้างถือถุงเงินที่ยังไม่ได้ใช้” ประดับตามสถานที่ต่างๆนั้น มีความหมายว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและถือเป็นเครื่องรางนำโชคอีกด้วย ความฝันเป็นสิ่งที่ดีเป็นความหวังและแสงสว่างให้กับมนุษย์ แต่การได้สัมผัสกับความเป็นจริงนั้นย่อมทำให้ฉันรู้และเข้าใจมากกว่าจินตนาการ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ฉันสามารถสัมผัส ”ทะนุกิ”ได้โดยไม่ต้องกังวลกับอันตรายที่จะเกิดขึ้น นอกจากมีประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ “ทะนุกิ”ตัวจริงแล้ว อาจจะได้ความรู้เพิ่มเติมเกียวกับการสร้างรูปปั้นทะนุกิอีกด้วย แล้วคุณอยากมาลองสัมผัส”ทะนุกิ”ด้วยกันหรือไม่คะ