นาริตะเอ็กเพรส Narita Express (N'EX) รถไฟด่วนพิเศษ
สนามบินนานาชาตินาริตะอยู่ห่างจากเมืองโตเกียวประมาณ 60 กิโลเมตรเป็นสนามบินที่อยู่ไกลตัวเมืองมาก การเดินทางเข้าสู่โตเกียวมีทั้งรถไฟฟ้า รถบัสและรถแท๊กซี่ให้บริการ ซึ่งท่ารถหรือจุดขึ้นรถทุกประเภทจะอยู่ภายในบริเวณหรืออาคารของสนามบิน (ภายใน Terminal) การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางด้วยรถบัสและรถแท๊กซี่ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ขึ้นกับสภาพการจราจร ถ้าไปเที่ยวเองไม่ง้อทัวร์ การเดินทางที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น "รถไฟ" ที่เดินทางระหว่างเมืองโตเกียวกับสนามบินนานาชาตินาริตะ ซึ่งรถไฟที่ใช้เดินทางไปกลับสนามบินนานาชาตินาริตะก็มีให้บริการ 2 บริษัท (ดูเฉพาะขบวนรถด่วน) คือ
- N'EX หรือ Narita Express ของบริษัท JR East
- Narita Sky Access ของบริษัท Keisei
รถไฟขบวน Narita Express หรือที่เรียกโดยย่อว่า N'EX อ่านแบบสำเนียงญี่ปุ่นก็ “นะริตะ เอคซึปุเระสึ” (ลองอ่านลองพูดแล้วรู้สึก ลิ้นพันกันอย่างบอกไม่ถูก) เป็นรถไฟด่วนพิเศษ (limited express) ที่ให้บริการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2534 โดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (JR East) รถไฟขบวน Narita Express วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้บริการจากหลายๆ สถานีในโตเกียว ตัวรถไฟเป็นรถไฟฟ้าขบวน 6 ตู้รุ่น E259 ทุกขบวนจะเดินทางผ่านสถานีโตเกียว ซึ่งเป็นสถานีที่ขบวนรถจะเชื่อมต่อหรือแยกกันของขบวนที่มาจากโอฟุนะหรือโยะโกะฮะมะ กับขบวนที่มาจากชินจุกุ อิเคะบุคุโระ หรือโอมิยะ กลายเป็นขบวนเดียวกัน เดินทางต่อไปจนถึงสนามบินนานาชาตินะริตะ (ผ่านทาง Sōbu Main Line และ สายนะริตะ) และมีบริการเดินทางออกจากสนามบินนานาชาตินาริตะวันละประมาณ 30 ขบวน คิดเป็นทุกครึ่งชั่วโมงต่อ 1 ขบวน ขบวนแรกเริ่มให้บริการเวลา 7.30 น. ขบวนสุดท้ายเวลา 21.40 น.
รถไฟขบวน Narita Express มีให้บริการ 2 แบบ คือ รถไฟตู้ธรรมดา ที่นั่งจะเป็นเบาะหุ้มผ้าดำขอบแดง กับ รถไฟตู้ Green Car รถที่นั่งชั้น 1 หรือ First Class จะมีสัญลักษณ์ รูปกลีบดอกโคลเวอร์ (clover ) สีเขียว 4 แฉก พร้อมข้อความกำกับด้านล่างว่า Green Car ที่นั่งจะเป็นเบาะหนังแท้สีดำ (ค่าตั๋วราคาแพงกว่า)
การบริการที่น่าสนใจของรถไฟขบวน Narita Express
- มีที่วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ด้านท้ายของขบวนรถ พร้อมสายกุญแจสำหรับคล้องกระเป๋า ที่สามารถล็อกรหัสตัวเลข มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่บริเวณที่เก็บกระเป๋าเพื่อเป็นการป้องกันขโมยหรือคนที่จะแอบมาเปิดกระเป๋า
- ใต้ที่นั่งก็มีที่ว่าง ขนาดความสูง 25 เซนติเมตรสามารถวางกระเป๋าได้อีก
- ช่องว่างระหว่างที่นั่งแต่ละแถว มีระยะ 102 เซนติเมตร สำหรับรถไฟตู้ธรรมดา และ 116 เซนติเมตรสำหรับรถไฟตู้ Green Cars รถที่นั่งชั้น 1 หรือ First Class ทำให้นั่งสบายขยับลุกนั่งยืดขาสะดวก ไม่อึดอัดหรือจะไว้วางกระเป๋าใบใหญ่ก็ได้
- มีปลั๊กไฟให้เสียบชาร์ตอุปกรณ์ไฟฟ้าระหว่างการเดินทาง อยู่ตรงบริเวณปลายของพนักแขนข้างที่นั่ง เป็นไฟ 110V ปลั๊กชนิดหัวแบน
- มีจอ LCD แสดงข้อมูลการเดินรถ 4 ภาษา ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลี รายงานข้อมูลการเดินทาง สภาวะอากาศ สาระน่ารู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงโฆษณา
- การวิ่งของรถไฟที่วิ่งได้ราบเรียบนิ่งไร้แรงสั่นสะเทือนใดๆ ทำให้นั่งสบายแถมไร้ซึ่งเสียงรบกวนจากภายนอกตัวรถ ถ้าในขบวนรถไม่มีใครคุยกัน ก็จะเงียบสงบเหมาะแก่การหลับพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
- โซนหรือพื้นที่สำหรับคนพิการที่ใช้รถเข็น ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งบนขบวนรถ รวมถึงมีห้องน้ำขนาดใหญ่สำหรับผู้พิการนั่งรถเข็นด้วย