ในเมืองมัตซุยามะมีมหาวิทยาลัยสองแห่ง คือ มหาวิทยาลัยฮิเมะ และมหาวิทยาลัยมัตซุยามะ เมื่อเรียนนักศึกษาจะหิวและกระหายน้ำมาก แต่พวกเขาไม่ได้มีเงินมากพอที่จะใช้จ่าย โชคดีที่บาร์ยืน คุไค อยู่ไม่ไกลเพียงแค่ไปตามถนน ก็จะสามารถดื่มไวน์และรับประทานอาหารได้ในราคาที่ย่อมเยา ลองคิดดูสิ นักท่องเที่ยวหลายคนคงมีงบประมาณที่จำกัดเหมืนนักศึกษากลุ่มนี้
บาร์ยืน คุไค ตั้งอยู่ติดถนน เปิดให้บริการบริเวณชั้นล่างของอาคารธรรมดา บริเวณหน้าร้านมีป้ายระบุที่น่าสนใจตั้งอยู่ และมีหน้าต่างสำหรับการให้บริการสั่งอาหารไปทางที่อื่น ภายในเคาน์เตอร์มีม้านั่งเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย
อาหารจานหลักของร้านคุไคคือแซนวิช ที่มักพูดแบบขำๆว่า rapu sand ในภาษาญี่ปุ่น แซนวิชที่จำหน่ายในร้านจะมีหลายขนาดและมีไส้บรรจุอยู่ข้างใน โดยแซนวิชแต่ละอันถูกม้วนด้วยมือด้วยความระมัดระวัง เครื่องเคียงต่างๆรวมถึงของทอด ไม่ว่าจะเป็น ชีสแท่งทอด, เมล็ดถั่วแระญี่ปุ่นอบ, นักเก็ตไก่, ปลาหมึกและอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารเย็นสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยการเลือกทานขนมขบเคี้ยวทอด ต่อด้วยแซนวิชห่อขนาดพอเหมาะและจบลงด้วย ... อะไรสักอย่าง เมื่อฉันไปมีเมนูบางอย่างใช้เป็นข้อบังคับในช่วงฤดูหนาวได้อย่างน่าสนใจ เช่น โอเด้ง, เนื้อสัตว์ต่างๆที่เสริฟในหม้ออุ่นๆ, ปลาอบ และผักในซุปถั่วเหลือง อีกสิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจก็คือซุปแกงกะหรี่ทำจากถั่วเหลือง และมีไส้กรอกสมุนไพรชิ้นใหญ่อยู่ในจานนั้น เมื่อพวกเราได้อาหารทั้งหมดแล้ว พ่อครัวจะนำเสนอเมนูให้พวกเราเลือกว่าจะรับ ราเม็งหรืออุด้งต้มในน้ำซุปสูตรเด็ด อาหารเซ็ตนี้ราคาเพียง 1500 เยน เท่านั้น
คุไค เป็นบาร์ที่จัดสินค้าในร้านได้ค่อนข้างดี แม้ว่าร้านมีขนาดเล็ก แต่สามารถสรรหาขวดเบียร์จากต่างประเทศได้อย่างน่าสนใจ เช่นเดียวกับการผลิตสาเกในประเทศ เย็นวันนั้นผมเริ่มต้นด้วยการผสมน้ำองุ่น และโชจู ที่ผลิตจากองุ่นมัตซุยามะ, ดื่มเบียร์ฮาร์ทแลนด์, เบียร์ Kronenbourg 1664 Blanc ของฝรั่งเศสซึ่งปรุงรสด้วยมะนาว และสาเกที่ยังไม่ได้ต้มอีกหลายแก้ว ผมต้องประหลาดใจเมื่อถูกเรียกเก็บเงินเพียง 3,500 เยน สำหรับเย็นวันนี้
เจ้าของร้านคุไคจะพูดภาษาญี่ปุ่นและจีน แต่จะไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่ยังคงมีภาษาอังกฤษบนเมนู ดังนั้นการสั่งอาหารจึงเป็นเรื่องง่าย
คุไคมีชื่อเรียกอีกชื่อคือ โกโบ เดชิ ซึ่งเป็นชื่อของผู้ก่อตั้งที่เดินทางมาจากชิโกกุ ถ้านอ่านอีกวิธี ก็จะมีความหมายว่า "ลองชิม?"