วันนี้หลังเลิกงานในย่านฮากาตะ เซ็นเซย์จองร้านนาเบะไว้ให้พวกเรา พวกเรารีบเดินจ้ำอ้าวฝ่าสายฝนไปตามถนนหนทางของฮากาตะที่กว้างใหญ่ พอเดินพ้นแม่น้ำไปแล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอกับถนนโคคุไต (Kokutai-Doro) ระหว่างทางมียะไต(ร้านอาหารแผงลอย) และบาร์อยู่ตลอดทาง ร้านที่เซนเซย์พาพวกเราไปกินชื่อว่า "ราคุเทนจิ" (Rakutenti) เป็นนาเบะหรือหม้อไฟตำรับฟุกุโอกะที่เน้นผักเป็นหลัก นอกจากนี้ก็มีเนื้อและเครื่องในหมู เต้าหู้ และตบท้ายด้วยเส้นจัมปง
ในร้านแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าที่มาเป็นหมู่คณะ ฉะนั้นทางที่ดีควรจะติดต่อจองที่นั่งไว้ก่อน การนั่งเบียดเสียดล้อมวงโต๊ะอาหารญี่ปุ่นบนเสื่อทาทามิแม้จะทำให้เหน็บชาไปบ้างในบางขณะ แต่ความใกล้ชิดและความครึกครื้นก็ทำให้บรรยากาศในห้องแคบ ๆ อบอุ่นดี ที่สำคัญการได้ซดน้ำซุปร้อน ๆ หลังจากที่เพิ่งเดินฝ่าสายฝนพรำมา แถมมีเบียร์ไว้จิบแกล้ม มันช่างเป็นอะไรที่วิเศษยิ่งนัก
สำหรับรสชาติของนาเบะร้านนี้ น้ำซุปจะหวานผักเป็นพิเศษ ใครอยากกินเผ็ดหน่อยก็ให้เติมพริกแห้งลงไป เพื่อนคนญี่ปุ่นบอกเราว่าเวลาจะกิน ช่วงแรก ๆ ให้ตักผักกินก่อน ส่วนพวกเนื้อหมูหรือเครืองในหมูนั้น ถ้าสีของมันยังแดง ๆ อยู่อย่าเพิ่งกิน ต้องรอให้แน่ใจว่าสุกก่อน (คนญี่ปุุ่นเขาจะห่วงเรื่องอนามัยมาก) ทางร้านจะทยอยนำของมาเสิร์ฟตามลำดับดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เราก็ค่อย ๆ ใส่กับลงไปทีละอย่าง เริ่มจากใส่ผักให้พูนเหมือนกองภูเขา จากนั้นก็ค่อย ๆ ใส่เนื้อ เครื่องใน และเต้าหู้ พอสุกได้ที่แล้วก็ตักแบ่งใส่ชามมากิน ส่วนใครที่ยังไม่อิ่มก็มีเส้นจัมปงไว้สำหรับเติมกินกับน้ำซุปหม้อท้าย ๆ ผู้เขียนรู้สึกว่ารสชาตินาเบะของที่นี่มีส่วนคล้ายกับหม้อไฟเกาหลีที่เคยกินมาตอนไปเที่ยวเมืองปูซานเมื่อหลายปีก่อน
อร่อยไม่อร่อย... เราก็ซดน้ำซุปแซ่บ ๆ เสียงดังซูด ๆ เสียจนเกลี้ยงเลยล่ะ ^ ^