ฟุกุโอกะ--ด้วยความที่เป็นเมืองหลวงของเกาะคิวชูทำให้ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน ภาพขบวนรถไฟที่เต็มไปด้วยผู้คนดูน่าอึดอัดพบเห็นได้เป็นประจำ ผมออกเดินทางไปรอบเมือง เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ ศาลเจ้าชื่อดัง ห้างเอ้าท์เลท ฟุกุโอกะทาวเว่อร์ แวะชิมราเม็งชื่อดังหลายเจ้า ก็อร่อยดี, แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมประทับใจขนาดนั้น
ผมกับเพื่อนกางแผนที่หาร้านที่จะฝากท้องมื้อเย็นเอาไว้ เราตกลงว่าจะไปกินร้านยะไต ซึ่งเป็นร้านรถเข็นข้างทาง ยะไตมีทั่วญี่ปุ่น แต่ที่เด็ดที่สุดคือจังหวัดฟุกุโอกะ ผมวาดภาพเอาไว้เหมือนในละครญี่ปุ่น ชายวัยกลางคนในชุดทำงาน กินโอเด้ง ข้างหน้ามีชามเซรามิคที่วางไม้เสียบเปล่าพร้อมจอกสาเกอุ่น
ระหว่างทางกลับจากหอคอยฟุกุโอกะ ผมเจอสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังกลับจากการชมเบสบอลบนรถประจำทาง เราคุยกันด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น แต่ก็ยังพอสื่อสารกันได้ หลังจากแนะนำตัว ผมบอกไปว่ากำลังจะไปกินร้านยะไต พร้อมกับชี้ภาพร้านรถเข็นไม้จอดเรียงกันริมถนนในแผนที่ แสงผสมจากโคมไฟและโคมแดงทำให้รูปนั้นดูมีเสน่ห์มาก จู่ ๆ คุณมิยาซาว่ากับภรรยาก็พูดขึ้นมาว่า ในฐานะคนญี่ปุ่น ชาวเมืองฟุกุโอกะ เขาเป็นคนขออาสาพาไปกินร้านยะไตร้านโปรดเอง ผมกับเพื่อนหันหน้ากันมองอยู่พักหนึ่ง
แน่นอนพวกเรามีหรือจะปฏิเสธ
ร้านที่คุณมิยาซาว่าพามาเป็นร้านที่เหมือนในจินตนาการ หน้าร้านประดับด้วยโคมไฟสีแดง แสงไฟสีส้มที่ลอดออกมาจากป้ายผ้าหน้าร้าน ผสมกับเสียงพูดพูดคุยอื้ออึงทำให้รู้สึกเป็นกันเอง พวกเราเบียดตัวเองเข้าไปในร้านยะไตเล็ก ๆ ร้านนั้น
เจ้าของร้านเป็นคู่สามีภรรยาวัยกลางคน สามีดูทะมัดทะแมงง่วนอยู่กับการลวกเส้นราเม็งอยู่ด้านหลัง ภรรยาเป็นผู้หญิงร่างท้วมที่เวลายิ้มต้องยกมือมาป้องปากทุกครั้ง เป็นภาพที่ดูอบอุ่นหัวใจเอามาก ๆ
ค่าอาหารมื้อนั้นที่จริงค่อนข้างแพงเลยล่ะ น่าจะคนละพันกว่าเยน พวกเราหยิบธนบัตรขึ้นมา แต่คุณมิยาซาว่าก็ปรามเอาไว้ “ให้เด็กรุ่นลูกมาออกเงินแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” ว่าแล้วก็จ่ายเงินค่าอาหารทั้งหมดพร้อมกับยื่นนามบัตรมาให้ “ถ้ามาฟุกุโอกะอีกอย่าลืมมาหาพวกเราอีก”
ในความคิดของผม ร้านยะไตไม่ได้ขายแค่อาหาร ที่นี่เหมือนกับสถานที่พักผ่อนเติมพลังเสียมากกว่า รสชาติอาหารบางจานอาจจะถูกปาก บางจานอาจจะไม่ แต่นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่แตกต่าง ซุปราเม็งทงคัตสึในวันนั้นค่อนข้างเค็มเกินไปสำหรับผม แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่ารสชาติอาหารคือ ในเมืองใหญ่อย่างฟุกุโอกะยังมีสถานที่เล็ก ๆ ที่ซุกซ่อนความอบอุ่นอย่างร้านยะไตอยู่