ความฝันของการเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นไปได้ และการเดินทางวันที่ 6 เริ่มต้นขึ้น จุดหมายปลายทางในเช้านี้ คือ มรดกโลกทางวัฒนธรรม “หมู่บ้านกัสโชซึคุริโอกิมาฉิ ชิราคาวาโกะ”ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
สถานีรถบัสประจำทาง Nohi Bus ทาคายามะ ถึงชิราคาวาโกะ อยู่ถัดจากสถานีรถไฟเพียงเล็กน้อย ราคาตั๋ว ไป-กลับ 4300 เยน หรือตั๋วขาเดียว ราคา 2,400 เยน การไปชิราคาวาโกะ ไปเช้า-เย็นกลับได้สบายๆ ใช้เวลาเดินทางไปถึงประมาณ 1 ชั่วโมง ณ จุดลานจอดรถ ไม่ห่างกันนักเป็นศูนย์ประชาสัมพันธ์ของที่นี่ รวมทั้งเป็นที่ซื้อตั๋วรถบัส มีเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้คำแนะนำและมีแผนที่หมู่บ้าน ภาษาไทยก็มีค่ะ อย่าลืม !อ่าน การขอความร่วมมือ เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ค่ะ พร้อมแล้วลุยกันเลย
ก่อนจะเดินเข้าสู่หมู่บ้าน เราจะต้องเดินผ่านสะพานเดะไอ ที่พาดผ่านแม่น้ำโช (Sho) หมู่บ้านนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขา และแม่น้ำ เป็นหมู่บ้านในหุบเขาก็ว่าได้
จุดเด่นของบ้าน ที่เรียกว่าบ้านแบบกัสโชสึคุริ มีอายุมากกว่า 250 ปี คำว่า "กัสโช" มีความหมายว่า พนมมือ ซึ่งเป็นการบ่งบอก ถึงลักษณะรูปแบบของบ้านที่มีหลังคา 60 องศา ซึ่งในเวลาที่ฝนตก หรือ หิมะตกลงมาก็จะไหลลงพื้นได้โดยง่าย เพื่อไม่ให้บ้านรองรับน้ำหนักมากเกินไป รวมถึงทิศทางของบ้าน จะหันไปทางทิศเดียวกัน เพื่อรับลมเย็นในฤดูร้อน และอบอุ่นในฤดูหนาว นับถือความสามารถของคนโบราณจริงๆ ค่ะ
ตลอดเส้นทางมีทางระบายน้ำที่มีน้ำใสจนเห็นตัวปลาบอกได้ถึงการรักษาความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยมของผู้คนที่นี่ เข้าแวะบ้านตัวอย่างที่ชื่อว่า คันดะ (Kandahouse) ค่าเข้าไม่แพงนักอยู่ที่ 300 เยน บริเวณด้านล่าง เป็นห้องรับแขก เพื่อให้แขกที่เข้าชม นั่งจิบชา เดินไปที่ชั้น2 มีเครื่องมือทางการเกษตรแบบสมัยโบราณ ตั้งเรียงเป็นแนว และตู้โต๊ะ สมัยโบราณ แตกต่างกันในแต่ละชั้น ระดับความสูงแต่ละชั้นไม่สูงมากนัก แต่กลับมีลมเย็นโชยพัดผ่านเข้ามาในบ้านอย่างทั่วถึง อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจลึกๆ รับอากาศสดชื่น จากชั้น 3 ของบ้าน ก่อนเดินทางกลับ แวะซื้อและส่งโปสการ์ด เป็นที่ระลึกที่แสนประทับใจอีก 1 สถานที่