บนยอดเนินในบริเวณป่าทึบของไทจิมิเป็นเส้นทางนำไปสู่วัดเอย์โฮจิ ทางเข้าของวัดเอย์โฮจินั้นอยู่ที่ตีนเขาและมีเสาปูนสองต้นสลักข้อมูลของที่นี่ไว้ แต่พวกเราอ่านไม่ออก และสิ่งที่ค่อนข้างผิดแปลกคือทางเข้าไปสู่ทางเดินที่เหมือนกับว่าใครที่ผ่านไปได้ก้าวออกจาก "โลกแห่งความเป็นจริง" เข้าสู่ทางเดินลาดลงที่ปูไว้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเริ่มชันมากในขาลงเขาที่เราเพิ่งขับรถยนต์ขึ้นมา! สัจธรรมปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งมีขึ้นย่อมมีลง เป็นอะไรที่แสนโหดร้าย ทางลงนั้นชันสุด คดเคียวลัดเลาะลงเนินยาวไปจนถึงทางเข้าสุดท้ายสู่บริเวณวัดวัดด้วยระยะทางราว 500-600 ฟุต ที่พื้นหุบเขานี้จะสามารถมองเห็นอาคารวัดด้านซ้ายมือที่ทั้งสวยอลังการและดูใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้เส้นทางกลายเป็นก้อนกรวดสภาพดีซึ่งลัดเลาะไปทางด้านซ้ายของวัด บริเวณนี้โดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่เหมือนทะเลสาบทางด้านหลังซึ่งมีน้ำตกเล็ก ๆ ไหลออกมาจากหน้าหินยักษ์ ไม่สามารถเห็นต้นทางของน้ำตกเพราะมันอยู่สูงขึ้นไปบนเนินหลังหก้อนหินที่ปรากฏอาคารและซู้มประตูของวัดมากมายให้เห็น และเราไม่ได้ขึ้นไปตรงนั้นเพราะไม่มีเวลา
ยิ่งเราเดินลึกเข้าไปในวัด ทางด้านขวามือเป็นที่ตั้งของอาคารเก่าแก่ที่เราไม่แน่ใจว่ามันเพราะอะไรกันนแน่ แต่จุดเด่นของบริเวณนี้คือกำปพงหินแผ่นใหญ่ที่ตั้งขึ้นรอบอาคารเหล่านี้เพื่อกันตัวเองออกจากนักท่องเที่ยวขี้สงสัย ทางซ้ายมือ อีกฟากของสะพานโค้งอันสวยงามเราได้รู้ว่าหลังกำแพงกั้นขนาดยักษ์นั้นคือวัดหลังเดิมที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 680 ปีก่อน และกำลังได้รับการบูรณะเพราะถูกไฟไหม้เสียหายหนัก ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดายเพราะไม่สามารถมองเข้าไปเห็นวัดได้จากมุมไหนทั้งนั้น และยังไม่สามารถเข้าไปใกล้ด้วยเพราะมีแผงกั้นอยู่ เราก็เลยไปทดแทนด้วยการเดินรอบด้านหน้าอาคารวัดที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ ซึ่งก้ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจเพราะมันเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง เมื่อกลับไปบยังบริเวณอาคารที่ถูกปิดชั่วคราว ก็มีอยู่อาคารอยู่หลังที่ไม่รู้ว่าเสียหายไปตามกาลเวลาหรือเพราะเปลวเพลิง ซึ่งถูกคลุมไว้ด้วยผ้าขนาดใหญ่ไม่ให้เห็นว่ามีรูปร่างเป้นอย่างไร
สามารถเดินไปยังถนนใกล้กับด้านหลังของวัดใหม่ได้ อาคารวัดใหม่เป็นทรงทันสมัยสามารถมองเห็นสำนักตั้งอยู่ตามแนวดินสสูงและกำแพงหินที่แยกบริเวณวัดออกจากแม่น้ำที่ไหลขนาบข้างที่ตั้งของวัด แม้จะมีข้อเสียที่ไม่สามารถเข้าชมบริเวณวัดหลังเก่า และไม่มีไกด์หรือแผ่นพับช่วยบอกข้อมูล แต่บรรยากาศที่ทั้งสงบและร่มรื่นนั้นก็เพียงพอแล้วที่บริเวณนี้ได้ถูกเลือกเพื่อสร้างวัดพุทธแห่งใหม่ขึ้น
