หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการท่องเที่ยวมาทั้งวัน การได้เข้าที่พักนอนเอนกายเปิดแอร์เย็นๆ อาบน้ำชำระร่างกายสักหน่อยคงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเวลาเช่นนี้ และจะดีแค่ไหนถ้าในที่พักของเรามีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติให้ได้นั่งแช่ผ่อนคลายสบายๆ ที่นั้นคงเป็นสวรรค์บนดินของนักเดินทางอย่างพวกเราในเวลานี้อย่างแน่นอน
ฉะนั้นโรงแรมที่อยากจะแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางไปเยือนเมือง Kamikawa และกำลังมองหาที่พักที่สะดวกครบครันและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โรงแรม Taisetsu น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกที่หนึ่ง เหตุเพราะว่าโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาไดเซ็ตสึ (Daisetsuzan National Park) ซึ่งมีบ่อน้ำพุร้อนโซอุนเคียว (Sounkyo Onsen) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด และที่นี่ยังเป็นโรงแรมที่อยู่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มที่พักอื่นๆในโซอุนเคียว จึงทำให้มองเห็นทิวทัศน์ภูเขาและแม่น้ำเบื้องล่างได้ชัดเจน
โรงแรม Taisetsu เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวที่ภายนอกอาจดูธรรมดา แต่เมื่อเดินเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นจากการออกแบบภายในเสมือนเป็นอาคารญี่ปุ่นโบราณผสมยุโรปจากผนังอิฐก้อนที่เรียงต่อกันอย่างมีศิลปะ บริเวณล็อบบี้มีหุ่นหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ยืนคอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน พนักงานที่ฟรอนท์สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แม้อาจจะไม่คล่องแคล่วนัก แต่ก็สามารถเขียนอธิบายใส่กระดาษหรือกดเครื่องคิดเลขสื่อสารกันได้เข้าใจตรงกัน พื้นที่โถงตรงกลางมีอาณาเขตกว้างขวางโอ่โถง มีร้านค้าขายของสำหรับจับจ่ายซื้อสินค้าไว้บริการ และยังสามารถใช้ WIFI ได้ในบริเวณนี้
พอถึงช่วงค่ำจะเห็นบรรดาแขกที่เข้าพักสวมชุดยูกาตะพร้อมถือผ้าเช็ดตัวเดินขวักไขว่ เพื่อไปแช่ออนเซ็นที่มีให้เลือกถึง 3 บ่อด้วยกัน โดยทางโรงแรมจะมีแผ่นกระดาษสำหรับประทับตรา ถ้าใครแช่ครบทั้ง 3 บ่อก็สามารถนำกระดาษประทับตรานั้นมาแลกรับของที่ระลึกตอนเช็กเอาต์ได้ ความพิเศษของบ่อออนเซ็นที่นี่คือผู้เข้าพักสามารถเข้ามาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าใครอายไม่กล้ามาตอนคนเยอะๆก็สามารถแอบมาใช้ตอนดึกๆได้ จะได้บรรยากาศความเป็นส่วนตั๊วส่วนตัวเป็นที่สุด มีให้เลือกทั้งส่วน Indoor และ Outdoor แต่บ่อที่อยากแนะนำที่สุดคือบ่อ “Taisetsu no yu” ซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุด เป็นบ่อน้ำแร่ Open Air ที่สามารถนั่งแช่ออนเซ็นพร้อมชมวิวธรรมชาติบนที่สูงในมุมที่น้อยคนนักที่จะได้มาดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันสวยงามเช่นนี้ จนแทบไม่อยากจะลุกออกไปไหนเลย (แต่ถ้าอยู่นานเกินไปคงเป็นลมอยู่ในบ่อแน่ๆ) ส่วนอีกสองบ่อที่เหลือคือ “Tenka no yu” และ “Chinita no yu” เป็นบ่อ Indoor ภายในอาคารที่มีขนาดใหญ่รองรับแขกที่มาใช้บริการได้จำนวนมาก
ส่วนห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 223 ห้องมีให้เลือกตามความต้องการทั้งแบบญี่ปุ่นแท้นอนฟูกบนพื้นเสื่อทาทามิ และแบบญี่ปุ่นผสมยุโรป หรือถ้าอยากอัพเกรดขึ้นอีกก็มีห้องเทียบเท่าห้องสวีทตามโรงแรมทั่วไปคือ “YUKI HOTARU” และ “YUKI HANA” โดยห้องพักแบบหลัง มีบ่อออนเซ็นส่วนตัวภายในห้องพัก มิหนำซ้ำยังสามารถชมวิวสวยๆจากหน้าต่างได้ชัดเจน เพราะหันหน้าออกไปทางแม่น้ำพอดี แถมพื้นที่ภายในห้องทั้งกว้างทั้งหรูหราจนเกินบรรยาย แต่ห้องพักอื่นๆอย่าเพิ่งน้อยใจไป ภายในทุกห้องของที่นี่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งทีวี อ่างอาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้นิรภัย ฯลฯ
เมื่อคุณเช็กอินมาถึงห้องเรียบร้อย จะมีพนักงานยกชาเขียวร้อนๆและขนมหวานแบบญี่ปุ่นมาบริการพร้อมผ้าร้อนให้คุณได้ซับเอาความเมื่อยล้าออกไปให้หมดสิ้น และจะเตรียมปูที่นอนให้ตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น ระหว่างที่พนักงานกำลังจัดที่นอน เราก็สามารถลงมาทานอาหารได้ที่ห้องอาหาร Mori-no-Shi และ Take-no-Shi ที่ให้บริการบุฟเฟต์อาหารค่ำทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก และอาหารจีน (แน่นอนว่ามีขาปูยักษ์ไว้ให้ทานได้ไม่อั้นอีกด้วย) นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารเช้าที่รวมอยู่ในราคาห้องพักแล้วเรียบร้อย ขอบอกเลยว่าวิวจากห้องอาหารเมื่อมองผ่านหน้าต่างบานใหญ่ช่างเป็นอาหารตาที่อิ่มเอมควบคู่กันกับอาหารคาวหวานของโรงแรมที่ลงตัวเข้ากันอย่างมาก
นอกจากการพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ภายในโรงแรมและบริเวณใกล้เคียงยังมีจุดสำหรับทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ อาทิเช่น ชมการแสดงระบำไอนุที่ฟรอนท์โรงแรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย, การเล่นบิงโกชิงของรางวัลตอนเวลา 20.00 น. (ราคาบิงโกใบละ 150 เยน) หรือจะนั่ง Rope way ซึ่งตั้งอยู่ติดกับหลังโรงแรมขึ้นไปชมความงามของธรรมชาติที่ความสูง 1,600 เมตรบนยอดเขาคุโระดะเกะ หรือปีนเขาขึ้นไปชมความงามของน้ำตกที่เกิดจากหิมะซึ่งละลายและไหลมาตามซอกเขาที่หุบเขาโมมิจิ ส่วนช่วงที่มีงานเทศกาลน้ำแข็ง “เฮียวบะคุ” หรือ SOUNKYO Ice Fall Festival ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม-สิ้นเดือนมีนาคม ทางโรงแรมก็มีรถบริการรับ-ส่งฟรีถึงสถานที่จัดงานอีกต่างหาก และในฤดูหนาวตอนกลางคืนก็สามารถชมความสวยงามของดอกไม้ไฟที่แสนงดงามตระการตาได้จากหน้าต่างในห้องพักได้อีกด้วย
ราคาห้องพักที่นี่แตกต่างตามขนาดของห้องที่เลือก โดยเรทเริ่มต้นอยู่ที่ 10,250 เยนต่อคนต่อคืน สามารถเดินทางมาได้โดยนั่งรถไฟ JR ลงที่สถานี Asahikawa จากนั้นต่อรถบัสจากหน้าสถานีไป Sounkyo และจะมีรถรับส่งของโรงแรมมารอรับถึงหน้าสถานีใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ถึงโรงแรมแห่งนี้แล้ว
นับได้ว่าโรงแรม Taisetsu สามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้เข้าพักได้อย่างครบครัน ใครที่มาฮอกไกโดครั้งหน้าลองเก็บข้อมูลโรงแรมแห่งนี้ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบของคุณดูสิคะ รับประกันว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน