ในญี่ปุ่นมีพิพิธภัณฑ์และแกลอรี่มากมายหลากหลายให้คุณได้เลือกเข้าชมตามความชอบส่วนตัว แต่สำหรับคนที่หลงใหลและสนใจในเรื่องของแฟชั่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ขอแนะนำให้แวะมาใช้เวลาสักชั่วโมงที่ Kobe Fashion Museum ใจกลางเกาะ Island Center ในโกเบ
Kobe Fashion Museum เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในญี่ปุ่นมีมีความจำเพาะเจาะจงกับเรื่อง 'แฟชั่น' อย่างเต็มรูปแบบ และยังเป็นพิพิธภัณฑ์ทางแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย
ภายในส่วนจัดแสดง จะมีนิทรรศการถาวรที่มีผลงานทางแฟชั่นจากหลากหลายยุคสมัยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แบ่งเป็นโซนต่างๆได้ ดังนี้
- Coronation of Nepoleon I, Emporor of Frech and Josephine the first empress เป็นส่วนแรกที่คุณจะได้พบกับเครื่องแต่งกายสุดหรูหราอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดในพิธีวมมงกุฎเนปโปเลียน กษัตริย์ของฝรั่งเศสและโจเซฟีน พระราชินีองค์แรก พร้อมอัลบั้มภาพและวิดีโอจำลองพิธีสำคัญนี้
- 18-19 Century Mode เครื่องแต่งกายของชนชั้นสูงในแถบยุโรป สำหรับช่วงเวลาพิธีการต่างๆ ทั้งชุดสำหรับงานกลางคืน ชุดดื่มชายามบ่าย ฯลฯ ส่วนมากจะเป็นเครื่องแต่งกายของประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษเป็นหลัก และเสริมด้วยประเทศใกล้เคียง เป็นยุคที่เสื้อผ้ามีความละเอียดละออในทุกรายละเอียด คุณจะต้องทึ่งไปกับการตัดเย็บที่ทำให้เครื่องแต่งกายของคนสมัยนั้นดูวิจิตรตระการตาทั้งหญิงและชาย
- 20-21 Century Mode ยุคถัดมาจากศตวรรษที่ 18-19 รายละเอียดที่เคยมีในยุคก่อนถูกลดทอนลงไป มีความหลากหลายของเนื้อผ้า วัสดุ และลูกเล่นที่ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น เป็นเสื้อผ้าที่ดูเท่าไหร่ก็ยังคงสวยงามคลาสสิคอยู่เสมอ
- Fashion a la carte โซนที่รวบรวมเสื้อผ้าชั้นคลาสสิคของเหล่าสุดยอดดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ดังต่างๆที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น Christian Dior, Givenchy, Channel, Balenciaga รวมถึงรองเท้าหรูหราดีไซน์สุดชิคของ Piere Cardin, Yves Saint Lauren, John Galiiano, Alexander Mcqueen หรือรวมถึงดีไซน์เนอร์ชื่อดังของญี่ปุ่นเอง ทั้งหมดเป็นผลงานที่งดงาม หรูหรา คลาสสิคเหนือกาลเวลา หาดูได้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ที่นี่รวบรวมไว้กว่า 40 ชุด อีกทั้งยังมีเครื่องประดับ โปสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับผลงานทางแฟชั่น แฟชั่นโชว์ของแต่ละแบรนด์ในช่วงเวลาต่างๆ ติดอยู่บริเวณกำแพงของห้องจัดแสดงอีกด้วย
- ส่วนสุดท้าย Folk Costumes เป็นโซนจัดแสดงเครื่องแต่งกายแบบพื้นบ้านที่รวบรวมมากจากประเทศต่างๆทั่วโลก ส่วนใหญ่จะเป็นของเหล่าชนเผ่าตามสถานที่ต่างๆอย่างอินโดนีเซีย ภูฏาน จีน และมีเครื่องแต่งกายของประเทศไทยอยู่ด้วยหนึ่งเซต เป็นชุดของชาวเขาซึ่งน่าภูมิใจที่ได้มาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
เรื่องของการจัดแสดง แสงไฟและพื้นที่ลำดับการเดินชมนั้น เรียกได้ว่าดีมาก เพราะสอดรับกับเหล่าเสื้อผ้าที่หุ่นสวมใส่และทำให้ดูโดดเด่นเลอค่าเหมาะสมกับการอยู่ในพิธภัณฑ์ชั้นนำ
อีกหนึ่งโซนที่เป็นส่วนที่ทำให้รู้สึกว่า Kobe Fashion Museum แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางแฟชั่นอย่างแท้จริง ก็คือ ห้องสมุด บนชั้น 3 ของตึกที่มีส่วนเป็นห้องสมุดแฟชั่น รวบรวมเอาทั้ง CD, DVD บันทึกการแสดงแฟชั่นจากทั่วทุกมุมโลก ภาพยนตร์ หนังสือ นิตยสารกว่า 28,000 เล่มที่แน่นไปด้วยข้อมูลทางแฟชั่นอย่างครบครัน หากคุณมีความชื่นชอบและสนใจก็สามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน และในชั้นนี้ยังเป็นที่ตั้งของ shop ขายของที่ระลึกของ Museum อีกด้วย
ค่าเข้าชมของที่นี่ คือ 500 เยนต่อคน แต่หากซื้อคู่กับบัตรเข้าชม Kobe Artist Museum ฝั่งตรงข้ามจะคุ้มค่ามากกว่าในราคาที่เพิ่มขึ้นเพียงนิดเดียว (บัตร Kansai Thru Pass สามารถลดค่าเข้าชมได้)
Kobe Fashion Museum อาจสร้างแรงบันดาลใจอย่างล้นเหลือ หรือความปลายปลื้มให้กับที่เรียนศิลปะหรือแฟชั่นโดยตรงมา แต่สำหรับคนทั่วไปที่สนใจ ขอรับรองว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็สามารถสร้างความประทับใจและความตื่นตาตื่นใจให้คุณได้ไม่แพ้พิพิธภัณฑ์ไหนๆ
การเดินทาง สามารถมาได้จากทั้งตัวโกเบเองและโอซาก้า ลงรถไฟที่สถานี Island Center จะมีป้ายบอกทางมา Kobe Fashion Museum ตรงมาจะเห็นตึกลักษณะเป็นโค้งกลมทางซ้ายมือเขียนชื่อพิพิธภัณฑ์อยู่ โดยจะปิดทุกวันพุธ