มีคนกล่าวไว้ว่าขนาดชี้วัดคุณภาพไม่ได้แต่ในกรณีนี้ขนาดกับคุณภาพสามารถไปด้วยกันได้ สวนริตสึริงโกะเองขนาด 75 เฮกตาร์เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็น 1 ในสวนที่สวยที่สุดด้วยเช่นกัน สวนสร้างมานานกว่าร้อยปีโดย 3 ขุนนางศักดินา มันถูกออกแบบมาเพื่อให้วิวที่สวยงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น หิมะในฤดูหนาวตัดกับสะพานสีแดงที่ทะเลสาบในขณะที่ฤดูร้อนจะเห็นดอกไม้สีสันสดใสรอบเนินเขาและทางเดิน
เมื่อมองลงไปจากภูเขาชูอินจะเห็นสวนริตสึริงโกะเองแบ่งออกเป็นสวนทิศเหนือและสวนทิศใต้ เมื่อเข้ามาในประตูทิศตะวันออก ผมเดินไปทางทิศใต้ผ่านสนามหญ้าเล็กๆพร้อมฟังเพลงเบาๆกับ iPod ผมเดินรอบๆเพื่อชมวิวเล่นและผมก็มาถึงฟุยุโฮะเป็นที่แรก ว่ากันว่ามันเหมือนภูเขาไฟฟูจิขนาดเล็กหากมองข้ามมาจากด้านบนของทะเลสาบอีกฝั่ง ผมชอบเสน่ห์ของทะเลสาบ ทั้งชายฝั่งและเกาะที่มีต้นพรุน จากตรงนั้นผมข้ามลำธารที่มีปลาคาร์พกำลังเกาะกลุ่มอยู่รอบๆสะพานเหมือนคอยอาหารและข้ามไปยังสนามหญ้าเพื่อสำรวจริมทะเลสาบและทางเดินใกล้ๆ ที่นี่มีโรงน้ำชาอยู่ในดงล้อมรอบด้วยต้นไม้บางจุดก็สว่างไสวไปด้วยใบไม้สีส้มและสีแดง ผมไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงน่ะ ยิ่งทำให้สีของใบไม้และต้นไม้ตัดกันชัดเจน
ผมเดินมายังนันโกะ 2 ทะเลสาบในสวนทิศใต้ขนาดใหญ่ ที่นี่ผมเห็นอะไรสนุกๆนั่นคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวเล่นกันโดยใช้ไม้ค้ำถ่อเรือท้องแบน พวกเขาใส่หมวกรูปกรวยมันทำให้ผมคิดว่าถึงที่นี่จะเป็นสวนเก่าแก่แบบดั้งเดิมแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องมากันแบบสงบ อึมครึม เครียดๆเท่านั้นเรามาเฮฮาได้ มีช่องแคบและคลองเชื่อมต่อกับทะเลสาบและสระน้ำของสวนทิศใต้ทั้งหมดดังนั้นการนั่งเรือท้องแบนดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ทำให้เข้าไปใกล้เกาะได้มากที่สุด ที่เกาะมีต้นไม้และไม้พุ่มหลากหลาย บางต้นมีสีเขียว บางต้นมีสีเหมือนฤดูใบไม้ร่วง ผมสามารถมองกิจกรรมของพวกเขาได้จากเนินเขาฮิระอิโฮะ เนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวที่สมบูรณ์แบบของทะเลสาบกับสะพานด้านหน้าและโรงน้ำชาในฉากหลังได้ ที่โรงน้ำชาแห่งนี้คุณสามารถพักเหนื่อยนั่งดื่มชาเขียว มองวิวทะเลสาบดั่งที่ขุนนางผู้สร้างเหล่านั้นทำเมื่อร้อยปีที่ผ่านมาได้
สวนทิศเหนือเป็นศูนย์กลาง มีสนามหญ้ารอบๆ มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่หรือสระกันโอชิ ที่นี่น้ำไม่ได้สะท้อนให้เห็นเพียงแต่สีแดงและสีเขียวของต้นไม้และพุ่มไม้รอบทะเลสาบและชายฝั่งบนเกาะเท่านั้นแต่ยอดตึกสูงก็สะท้อนไปในน้ำด้วย ที่นี่ไม่มีเนินเขาแต่ที่บังแดดตรงทางเดินให้ทัศนียภาพที่น่าสนใจทั่วทั้งสระ นอกจากนี้ในสวนทิศเหนือผมยังได้ไปดูพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านและงานหัตถกรรมซานุกิที่แสดงเซรามิกท้องถิ่นและร้านขายของที่ระลึกใกล้ๆที่มีเครื่องประดับ, ขนมและหินสวยงาม พิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึกอยู่ในอาคารแบบดั้งเดิมที่ถูกอนุรักษ์ไว้ซึ่งเหมาะกับบรรยากาศของสวนจริงๆ
ผมเดินกลับไปทางเดิมอย่างช้าๆและมักหยุดชมวิวบ่อยๆ ผมบอกตรงๆว่าผมสามารถชมสวนได้นานสุดถึง 3 ชั่วโมงโดยไม่เหนื่อยเลยและเมื่อเห็นภาพทิวทัศน์มากขึ้น มันทำใจยากนะที่จะต้องมาอยู่ในบรรยากาศอย่างนี้แค่ครึ่งวัน