บางคนเปรียบเปรยเมืองคามาคุระว่าเป็นอยุธยาของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากคามาคุระเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน มีวัดเก่าแก่มากมาย เปี่ยมไปด้วยกลิ่นไอของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่มีความสัมพันธ์กับศาสนาพุทธ นอกจากนี้สถานที่ตั้งของเมืองนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงปัจจุบันอย่างโตเกียว ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับจังหวัดอยุธยาเสียจริง และด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เองทำให้เมืองนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศหลั่งไหลกันมาเที่ยวชมไม่ขาดสาย และคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแวะมาซีมซับกลิ่นไอประวัติศาสตร์เก่าแก่โดยไม่ได้ไปเยี่ยมชม "วัดพระใหญ่ไดบุตซึ" วัดชื่อดังแห่งเมืองคามาคุระ
การเดินทางจากโตเกียวไปยังวัดพระใหญ่ก็แสนจะง่ายดายสามารถเดินทางโดยรถไฟของบริษัท JR ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงลงที่สถานี Kamakura ต่อจากนั้นนั่ง Local train สายEnoden ไปลงที่สถานี Hase ค่าตั๋วเดินทาง 190 เยนเท่านั้น และจากสถานี Hase ต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ 10 นาที ถ้าเดินไม่ถูกถามคนแถวนั้นก็น่าจะสื่อสารบอกทางกันได้ไม่ยาก ส่วนวันที่ผมไปนั้น เห็นกลุ่มเด็กนักเรียนญี่ปุ่นมาทัศนศึกษากันเต็มไปหมดเลยแอบเดินตามกลุ่มเด็กไป คงจะมีซักกลุ่มที่ไปวัดพระใหญ่แน่นอน(ฮา) เมืองคามาคุระมีตรอกซอกซอยค่อนข้างเยอะ แต่ทุกๆแยกจะมีทางม้าลายสำหรับคนเดินเท้า รถยนต์ก็เคารพกฎจราจร เรียกได้ว่าความปลอดภัยดีมากเลยทีเดียว
มาถึงหน้าวัดแล้วให้ซื้อบัตรเข้าชมกันก่อนในราคา 190 เยน หลังจากนั้นบริเวณทางเข้าจะมีบ่อน้ำสำหรับชำระร่างกายและจิตใจให้สะอาดก่อนเข้าวัด เดินกันมาเหนื่อยๆแวะเอาน้ำเย็นล้างไม้ล้างมือลูบหน้าลูบคอก็สดชื่นดีเหมือนกัน พอเดินเข้าไปด้านในภาพแรกที่สัมผัสคือ พระอมิตาพุทธเนียวไร ที่สร้างจากสำริดขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางวัด ซึ่งก่อนหน้านี้พระใหญ่ไดบุตซึไม่ได้ตั้งอยู่กลางแจ้งโล้นๆแบบนี้ แต่ด้วยภัยธรรมชาติได้ทำลายตัวโบถส์และสิ่งก่อสร้างออกไป มองไปแล้วภาพของพระใหญ่ไดบุตซึที่โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้ช่างสอดคล้องกับความเชื่อที่ว่า พระใหญ่องค์นี้เองที่ช่วยปกป้องดูแลแผ่นดินแห่งนี้ให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง
เชื่อว่าใครก็ตามที่ได้มาเยือนที่นี้คงจะซึมซับถึงประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และงดงามของประเทศญี่ปุ่นได้ไม่มากก็น้อย ห่างจะเมืองหลวงอันแสนวุ่นวายไม่ไกลยังมีประติมากรรมเก่าแก่ผสานความงามกับธรรมชาติรอให้คุณมาเยี่ยมชมอยู่