ปราสาทกาสีดำเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเมืองคุมาโมโตะ น่าเสียดายที่หลังจากชมปราสาทและเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นเสร็จแล้วพวกเขาก็กลับทันทีโดยไม่สนใจอะไรไปมากกว่านี้ หากมีใครอยากจะสำรวจแหล่งท่องเที่ยวให้ลึกกว่านี้ ลองไปบริเวณรอบๆปราสาทเพื่อชมบ้านซามูไรที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างเดิมๆที่สุดในจังหวัด บ้านซามูไรนี้เคยเป็นบ้านของตระกูลโฮโสะกาว่า
เพียงออกมาจากบริเวณปราสาทคุมาโมโตะ(เดินทางไปโดยรสบัสวน) คุณจะพบบ้านซามูไรของตระกูลโฮโสะกาว่าเป็นตัวอย่างอันรุ่งเรืองของสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะ แต่เดิมมันถูกสร้างขึ้นในปี 1648โดย โอกิทากะ โฮโสะกาว่า น้องเล็กในครอบครัวซามูไรที่มีอิทธิพลมากที่สุดในคุมาโมโตะ หลังจากการคืนสู่ราชบัลลังก์ของจักรพรรดิเมจิ เมื่อกองทัพจักรวรรดิใช้ปราสาทคุมาโมโตะเป็นกองบัญชาการ จึงมีการไล่ที่ครอบครัวซามูไรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ตระกูลโฮโสะกาว่าย้ายไปอยู่ที่บ้านพักบนเนินเขาอย่างถาวรพร้อมทั้งขยายอาณาบริเวณบ้านและสวน
ความงามของบ้านปรากฏให้เห็นชัดเจนตั้งแต่รูปแบบกรวดที่ห้อมล้อมทางเดินเข้าจนถึงต้นเมเปิ้ลที่เปลี่ยนเป็นสีส้มตอนปลายเดือนพฤศจิกายน ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมในการถ่ายภาพแต่งงานหรือโอกาสสำคัญอื่นๆ ฉันโชคดีที่ได้ถ่ายรูปเจ้าสาวในชุดกิโมโนเต็มรูปแบบ
ก่อนเข้าในตัวบ้านต้องถอดรองเท้า ข้างในส่วนใหญ่มีพรมปูทางเดินแต่บริเวณพื้นเปลือยค่อนข้างเย็นในหน้าหนาวดังนั้นอย่าลืมใส่ถุงเท้ามาล่ะ! ห้องส่วนใหญ่มีกำแพงเปิดได้ที่สามารถมองเห็นวิวสวนกว้าง ทางเดินภายในบ้านจะนำทางคุณไปห้องชา, ศาลาเดี่ยวและห้องครัว ภายในห้องพักแสดงสมบัติจากตระกูลโฮโสะกาว่า อย่างชุดเปลือกหอยทาสีสันสวยงามจากเกมส์จับคู่สมัยเอโดะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ไก อะวะเสะ เกมส์กระดานที่มีหินสีดำและสีขาว, เฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามในช่วงเวลานั้นและเครื่องปั้นดินเผาต่างๆที่ใช้สำหรับพิธีชงชาไม่มีคำอธิบายใดๆสำหรับของตกแต่งแต่พนักงานด้านหน้าจะพยายามตอบคำถามคุณอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีร้านชาตั้งอยู่ตรงริมๆบ้านอีกด้วย เวลาเปิดให้บริการของร้านดูจำกัดมากกว่าตัวบ้านหลักแต่มันคุ้มค่าที่ได้เดินชมสวนขนาดเล็ก หากนั่งใต้ต้นเมเปิ้ลสีแครอทในฤดูใบไม้ร่วงและนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยจะรู้ว่ามันง่ายถ้าจะจินตนาการถึงเมืองแสนวุ่นวายที่อยู่อีกโลกหนึ่งที่ห่างออกไป