พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัย Tohoku นับเป็นสถานที่มีชื่อเสียงในฐานะที่เก็บสมบัติธรรมชาติของโลก และมันไม่ต่างจากที่เล่าลือ งานแสดงที่ยิ่งใหญ่บวกกับสิ่งพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ไม่ทำให้ผมผิดหวัง และทำให้การเยี่ยมชมครั้งนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ นอกจาก Sendai จะเป็นที่รู็จักในนาม ''เมืองแห่งต้นไม้'' แล้ว เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงด้านการศึกษาอีกด้วย เนื่องจากมีสิ่งอำนวยที่เน้นไปด้านการเรียนมากมาย พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวก็ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย Tohoku และแสดงผลงานจากมหาวิทยาลัยนอกเหนือจากผลงานของตัวเองที่ได้จากการค้นคว้าทางโบราณคดี
เมื่อผมเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ผมต้องย่างก้าวกลับมาอีกครั้ง ผมหวังจะได้เห็นก้อนหินและผมก็ได้เห็น ครามจริงผมมาที่บ่อยครั้งเพราะมันตั้งอยู่ในเส้นทางของ Loople City Tour Bus พอดี และผมหวังให้มีอะไรแตกต่างออกไป แม้ว่าที่ผมพบจะเป็นหินแต่ว่าพวกมันสวยงามมาก หินที่สวยงามเหล่านั้นทำให้ผมนึกอยากเริ่มสะสมหินขึ้นมาเลย สีม่วง ส้ม และชมพูวาวระยับบนชั้นแสดง ถัดไปไม่ไกลเป็นฟอสซิลของพืชและภาพวาดของสัตว์หรือสิ่งที่เคยมีชีวิตกว่าร้อย พันหรือกระทั่งล้านปีก่อน ฟอสซิลส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดีเยี่ยมจนสามารถมองเห็นลวดลายได้อย่างชัดเจน กระดูกส่วนใหญ่ถูกค้นพบ บางส่วนที่หายไปยังทำให้เห็นรูปร่างไดโนเสาร์อยู่ หัวกระโหลกมนุษย์โบราณ และยังมีกระดูกปลาวาฬขนาดใหญ่แขวนอยู่เหนือส่วนจัดแสดงชั้นหนึ่งทั้งหมด ทำให้อาจรู้สึกทึ่งหรือกลัวขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะมอง มีพระพุทธเล็กๆ ของทิเบต คอลเลคชั่นผีเสื้อ และสิ่งปลูกสร้างของวัดโชว์อยู่รอบๆ พิพิธภัณฑ์ เครื่องมือบางชิ้นอธิบายการทำงานอย่างต่อเนื่องของมหาวิยาลัยเกี่ยวกับการค้นพบอารยธรรมของมนุษย์สมัยก่อน
มีเครื่องหมายภาษาญี่ปุ่นในทุกๆ ชิ้น และมีเครื่องหมายภาษาอังกฤษในงานส่วนใหญ่ หรือคุณจะพกหนังสือแนะนำภาษาอังกฤษที่ขอได้จากที่จำหน่ายตั๋ว ซึ่งคงเป็นประโยชน์มากสำหรับนักวิจัย ราคาไม่เกิน 200 เยน ค่าตั๋วเข้าชมก็สมเหตุสมผลสำหรับการได้เห็นผลงานหายากเหล่านี้