น่ารักเกินไป และใหญ่เกินไป! กระต่ายร่าเริงตัวยักษ์ซ่อนอยู่ในประตูศาลเจ้า (เครดิตรูปภาพ: Justin Velgus)

ศาลกระต่ายในเซนได

ชินโต พระพุทธเจ้า และกระต่ายจอมตลก

น่ารักเกินไป และใหญ่เกินไป! กระต่ายร่าเริงตัวยักษ์ซ่อนอยู่ในประตูศาลเจ้า (เครดิตรูปภาพ: Justin Velgus)
Thanaporn Thammabutr   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

คนที่ได้เดินทางหรืออาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นมานานบางครั้งจะคิดว่า "ถ้าเราได้เห็นศาลหรือวัดสักแห่งก็เหมือนกับเราได้เห็นพวกมันมาหมดแล้ว" แม้ว่าบางศาลเจ้าและวัดจะมีลักษณะร่วมที่เหมือนกัน แต่พวกมันก็มีส่วนพิเศษที่เพิ่มเสน่ห์เล็กๆ เข้าไป สำหรับฉัน ศาลเจ้าหรือวัดที่ดีที่สุดจะต้องมีสมดุลของสิ่งเหล่านี้: การเดินทางง่ายแต่ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย มีประวัติน่าสนใจ และมีเรื่องสนุกๆ ให้ดู ศาลเจ้ากระต่ายในเซนไดซึ่งมีคุณสมบัติตรงและเกินมาตรฐานของฉัน ได้กระโดดขึ้นมาเป็นสถานที่โปรดสุดของฉันไปแล้ว

สถานที่ที่ฉันเรียกว่าศาลเจ้ากระต่ายนั้นมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า จูโซซันโมะจูโบะซัทสึโด (鷲巣山文殊菩薩堂)  สถานที่อันมีเวทมนตร์นี้อยู่ห่างจากศาลเจ้าฮะชิมันชื่อดังด้วยการเดินเพียง 15 นาที แค่เดินย้อนแม่น้ำฮิโรเสะบนทางหลวงซะกุนะมิขึ้นมา จากนั้นก็มองหาบันไดที่นำไปสู่ต้นสนซีดาร์สูงตระหง่าน (ดูรูปประกอบ) เดินขึ้นไปแล้วคุณจะพบส่วนผสมของชินโต พระพุทธเจ้า และรูปปั้นกระต่ายตลกๆ เต็มไปหมด มีอะไรมากมายที่ศาลเจ้าแห่งนี้จนการเริ่มต้นอธิบายเป็นเรื่องยาก

ในปี 1603 ขุนนางผู้ก่อตั้งเซนไดคือ ดะเตะ มาซะมุเนะได้สร้างจูโซซันโมะจูโบะซัทสึโดขึ้น นี่คือสองปีหลังจากที่เขาได้สร้างปราสาทของเมืองขึ้น คุณจะเห็นส่วนผสมของวัดแบบพุทธและศาลเจ้าชินโตได้ที่นี่ มันเป็นยุคสมัยที่ไม่ซับซ้อนเท่าปัจจุบัน โดยศาสนาถูกมองว่ามีความคล้ายคลึงกันมากกว่าความต่าง ความคิดนี้เหมือนกันทั่วประเทศจนหลังจากยุคฟื้นฟูเมจิในปี 1868 ไม่นาน เมื่อมีกฏหมายบังคับให้ศาสนาแยกออกจากกัน อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้ว ที่นี่ไม่ใช่ทั้งศาลเจ้าและวัด มันคือสถานที่ที่มาบูชา หรืออย่างน้อยก็แสดงความขอบคุณและสำนึกในบุญคุณต่อวิญญาณของกระต่าย ทำไมล่ะ? แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ? เหตุผลที่แท้จริงก็คงเป็นเพราะดะเตะ มาซะมุเนะเกิดในปีกระต่าย ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ดังนั้น จึงมีรูปของกระต่ายมากมาย ทั้งรูปวาด พิมพ์ไม้ รูปปั้นที่บันไดขั้นที่สอง และกระต่ายยักษ์ที่พร้อมจะทำให้ผู้มาเยือนที่ไม่รู้ตัวซึ่งเดินผ่านประตูใหญ่แล้วชำเลืองไปทางขวาต้องตกใจกลัว! ลองส่องหลังคาบนอาคารศาลเจ้าหลักใกล้ๆ จากมุมที่พอเหมาะ แล้วคุณจะได้เห็นรูปประดับกระต่ายที่ยืนด้วยเท้าหน้า! น่าเสียดายที่ไม่มีกระต่ายจริงวิ่งไปมาอยู่ที่นี่...นอกซะจากว่าพวกมันจะซ่อนตัวตอนที่ฉันไปเยือน

มีศาลเจ้าเล็กๆ มากมายและสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาอยู่รอบๆ บริเวณศาลเจ้าแห่งนี้ ที่เห็นได้ชัดคือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 33 รูปที่ขนาบขอบของขั้นบันไดตั้งแต่ชั้นบนสุดไปจนถึงศาลเจ้าหลัก เจ้าแม่กวนอิมคือเทพเจ้าแห่งความเมตตา กล่าวกันว่าสามารถแปลงร่างได้ถึง 33 รูป นี่คือส่วนที่สร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในศตวรรษที่สี่ของประวัติศาสตร์ของศาลเจ้ากระต่ายแห่งนี้ รูปปั้นถูกสร้างขึ้นในปี 2003 เพื่อฉลองการครบรอบ 400 ปีของศาลเจ้าแห่งนี้ ฉันประหลาดใจว่าทำไมรูปปั้นเหล่านี้จึงใส่ผ้ากันเปื้อนสีขาว โดยปกติแล้วจะมีแต่รูปปั้นจิโซ่ที่สวมผ้ากันเปื้อนและมักจะเป็นสีแดงเสมอ บางทีการใช้สีขาวอาจเพื่อให้เข้ากับธีมกระต่ายหรือเปล่านะ?

เมื่อได้หาข้อมูลเพิ่ม ฉันเลยได้รู้ว่านี่คือหนึ่งในสถานที่แสวงบุญในเซนไดตามราศีเกิด 12 ราศีของจีน ที่จริง ฉันได้ไปเยือนสถานที่อื่นๆ ที่มีวิญญาณสัตว์อื่นบ้างแล้วโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น มังกร ม้า และลิง ตอนนั้นฉันไม่รู้ถึงความสำคัญของพวกมันเลย รูปปั้นสัตว์ในสถานที่อื่นๆ ดูเหมือนเป็นแค่ของที่เพิ่มเข้ากับวัดเสียเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ศาลเจ้ากระต่ายดูจะมีอะไรให้ดูมากที่สุดหากตัดสินด้วยสัตว์ที่เป็นตัวแทนของมัน และด้วยประวัติที่น่าสนใจของมัน ฉันจึงขอแนะนำสถานที่นี้มากกว่าที่อื่นๆ ศาลเจ้ากระต่ายถ่ายรูปสนุก ผู้คนไม่เยอะ และเต็มไปด้วยปริศนา หวังว่าหลังจากได้อ่านความลับบางอย่างของมันแล้ว คุณจะยิ่งสนุกที่ได้ไปเยือนมันนะ

กำลังมองหาการเทร็กผจญภัยเพื่อแสวงบุญเพิ่มเติมในเซนไดอยู่หรือเปล่า? ลองสถานที่แสวงบุญเจ้าแม่กวนอิม 33  รูป หรือเทพนำโชคทั้งเจ็ดดูสิ

Thanaporn Thammabutr

Thanaporn Thammabutr @thanaporn.thammabutr

Laidback. Love meeting new people, learning new things, going to new places be it uncharted territories or what. Indie music fan who loves going to gigs, concerts and festivals both in Thailand and in other countries.