ชื่องานเทศกาล Fuji Rock อาจจะทำให้ใครๆหลายๆคนสับสนได้หากว่าไม่รู้ความเป็นมามาก่อน เทศกาลนี้จัดขึ้นที่สกีรีสอร์ทนาเอบะ เมืองยูซาว่า ซึ่งอยู่ในอำเภอนิงาตะ ถึงแม้ว่านาเอบะจะอยู่ในเมืองยูซาว่าก็จริง แต่มันก็ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองมากอยู่ทีเดียว (ถ้าเดินทางโดยรถประจำทางใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง) แต่ถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศของงานเทศกาลดนตรีที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่รักในเสียงดนตรีด้วยแล้วล่ะก็ มันถือเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามากๆเลยทีเดียว
งานเทศกาลดนตรี Fuji Rock ได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 16 ปีเมื่อเดือน กรกฎาคม ในปี 2012 โดยงานเทศกาลดนตรีนี้จัดขึ้นที่เนินลาดชันบนภูเขาไฟฟูจิ เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 1997 งานในครั้งนั้นวง Red Hot Chilli Peppers ต้องลงจากเวทีก่อนเพราะพายุใต้ฝุ่น ซึ่งภายหลังจากจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นงานเทศกาลดนตรีนี้จึงย้ายไปจัดที่นาเอบะแทน ในช่วงเทศกาลคุณอาจจะพบกับสภาพอากาศที่ย่ำแย่ได้ เป็นการดีที่ควรจะเตรียมเสื้อผ้าอุปกรณ์ที่ช่วยให้ความอบอุ่นและอุปกรณ์ที่ป้องกันน้ำได้เผื่อไว้ (ไม่อนุญาตให้นำร่มเข้าไปในงาน)
งานทศกาลดนตรีนี้ถือเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกถึงแม้ว่างานนี้จะต้องพบเจอกับคู่แข่งงานเทศกาลดนตรีฤดูร้อนใหญ่ๆในญี่ปุ่น แต่งานเทศกาลนี้ก็ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ คุณจะได้พบเจอทุกๆสิ่งที่คุณคาดหวังจะได้รับจากงานเทศกาลดนตรีใหญ่ๆได้ที่นี่
ถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศงานดนตรีอย่างเต็มเหนี่ยวละก็ คุณจำเป็นที่จะต้องมองหาที่พักสำหรับค้างคืน ภายในงานเทศกาลจะมีพื้นที่ไว้ให้สำหรับกางเต็นท์ ซึ่งหลายพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเนินลาดชัดดังนั้นคุณต้องอาศัยความรวดเร็วบวกกับความสามารถอีกนิดหน่อยในการหาตำแหน่งดีๆเพื่อกางเต็นท์ (มีคนจำนวนมากที่ทิ้งเต็นท์ไว้ที่งานไม่นำกลับไปด้วย ผู้จัดงานก็จะนำเต็นท์ที่เหลือๆไว้ไปกองรวมกันในวันทำความสะอาด) ถ้าหากว่าคุณไม่ชอบความคิดนี้ ที่นาเอบะยังมีอีกหลายสถานที่ให้คุณเลือกไปพัก (คุณสามารถเดินจากที่พักมาที่งานเทศกาลได้) หรือคุณอาจจะเลือกพักที่ยูซาว่าก็ได้ (สามารถเดินทางมางานได้โดยรถประจำทางโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ทางงานเทศกาลจะจัดให้คนดูได้เข้าภายในงานและชมคอนเสิร์ตฟรีในวันพฤหัสบดีเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้คนดู หลังจากนั้นในวันศุกร์,เสาร์ และอาทิตย์คุณจะต้องเสียค่าบัตรเพื่อเข้าชม ในวันนั้นวงดนตรีชื่อดังทั้งหลายจะขึ้นเล่น ภายในงานนั้นกว้างมากๆ มีทั้งหมด 10 เวทีและบริเวณที่แตกต่างกันไป อาจจะทำให้เกิดปัญหาที่ว่าต้องรีบย้ายจากเวทีหนึ่งกลางโชว์เพื่อเสี่ยงที่จะไปให้ทันอีกวงที่อยู่คนละเวทีที่ซึ่งไม่รู้ว่าเล่นดีไหม อีกหนึ่งประสบการณ์ความสนุกอย่างหนึ่งที่คุณจะได้รับก็คือการได้ฟังวงที่คุณไม่เคยฟังมาก่อน กรณีนี้อาจจะเรียกได้ว่าอยู่ถูกที่ ถูกเวลา คุณอาจจะบังเอิญเดินผ่านเวทีนั้นในขณะที่กำลังจะเดินไปที่อื่นพอดี, ทำตามคำแนะนำจากเพื่อนใหม่ หรืออาจจะพักเหนื่อยอยู่บริเวณเดิมหลังจากกระโดดโลดเต้นจนลืมโลก ที่งานเทศกาลดนตรีนี้มีดนตรีทุกประเภท ทุกอารมณ์ให้คุณได้เลือกฟัง ที่คุณต้องทำก็เพียงแค่เดินไปให้ทั่วงานและหาแนวที่ใช่ซะ
บรรยากาศฉากหลังรอบงานเทศกาลนี้เป็นอะไรที่สวยงามมากๆ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและป่าไม้เขียวขจี งานเทศกาลนี้พยายามอย่างมากที่จะไม่ทำร้ายธรรมชาติด้วยการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเริ่มมีการใช้การรีไซเคิลและทางงานเทศกาลยังมีการพิจารณาถึงผลกระทบต่อระบบนิเทศในท้องจากกลุ่มคนที่มาสังสรรค์กันจำนวนมากที่งานเทศกาลดนตรีนี้อีกด้วย
บรรยากาศของงานนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานตลอดทั้งงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาสาสมัคร วงดนตรี และแน่นอนที่สุดคือ คนดู งานเทศกาลดนตรีนี้ได้ทำให้ภูเขาที่เฉื่อยชา เงียบสงบกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยกลุ่มคนที่ออกมาสังสรรค์กัน บ้างก็นอนหลับที่สถานีขณะที่รอรถไฟ ทุกๆคนในงานดูเหนื่อยล้าแต่ก็ยังคงยิ้มกันอย่างสนุกสนาน มันเป็นสุดสัปดาห์ที่สนุกสุดยอดๆมากๆ ได้เจอเพื่อนใหม่, เต้น, กิน, ต่อคิว, เดิน, นอน(บ้างนิดหน่อย), เต้นอีกหน่อย, ฟังดนตรีเจ๋งๆ มันอาจจะเปียกไปบ้าง อาจจะเลอะโคลน แต่ไม่มีสิ่งไหนที่จะมาทำให้ทุกคนหดหู่และหมดสนุกไปได้
