เชื่อว่าภาพที่หลายคนจดจำได้จากการมาเที่ยวชมบริเวณ Tempozan Harbor Village ก็คือภาพชิงช้าสวรรค์อันใหญ่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางท้องฟ้า แม้ปัจจุบันชิงช้าสวรรค์เทมโปซานพี่เบิ้มของเราจะไม่ได้เป็นชิงช้าสวรรค์อันใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว แต่ผู้คนก็ยังคงแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนพี่เบิ้มของเราไม่ขาดสาย
สงครามการแย่งชิงตำแหน่ง ชิงช้าสวรรค์”ที่สุด”ของโลกเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 1893 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอ้างสิทธิ์ ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในงานเอกซ์โประดับโลกที่ชิคาโก โดยทำสถิติมีความสูงทั้งสิ้น 80.4 เมตร ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศแรกๆที่เข้าร่วมการชิงตำแหน่งระดับโลกในการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดนี้
วันที่ 12 กรกฏาคม 1997 เมืองโอซาก้าได้ประกาศตนขึ้นครองตำแหน่งเจ้าแห่งชิงช้าสวรรค์หนึ่งเดียวในโลก โดยชิงช้าสวรรค์เทมโปซาน (Tempozan Ferris Wheel) มีความสูงทั้งสิ้น 112.5 เมตร แต่ครองตำแหน่งได้เพียงราว 2 ปีเท่านั้นก็ถูกชิงเก้าอี้จากเพื่อนร่วมสัญชาติอย่าง Daikanransha แห่งโอไดบะ แต่อย่างไรก็ตาม Daikanransha ไม่ค่อยจะถูกจดจำในฐานะอันดับหนึ่งของโลกเท่าไร เนื่องจากในปลายปีเดียวกันนั้นเองก็ถูกแย่งตำแหน่งไปอย่างรวดเร็วจาก ดวงตาแห่งลอนดอนจากเมืองผู้ดี จึงเป็นเหตุผลให้"เทมโปซาน"ยังคงคุยโอ้อวดในฐานะ”อดีต” แชมป์โลกจากญี่ปุ่นได้อย่างภาคภูมิใจ
ชิงข้าสวรรค์เทมโปซานใช้เวลาวนหนึ่งรอบ 17 นาที ผู้ชมจะได้เห็นทัศนียภาพมุมสูงของบริเวณท่าเรือของเมืองโอซาก้า และภาพอาคารพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชื่อดังอย่างไคยุคัง กระเช้าที่เปิดให้บริการมีทั้งแบบธรรมดา และแบบโปร่งใส ถ้าใครต้องการท้าทายก็ขอให้ลองนั่งแบบใสดู ข้อเสียอย่างเดียวก็คืออาจจะต้องรอนานกว่ากระเช้าธรรมดาเล็กน้อย ในยามค่ำคืนสีไฟสว่างสดใสของชิงช้าสวรรค์ยักษ์ใหญ่อันนี้จะคงหมุนเวียนเปลี่ยนไปมา ระหว่าง ส้ม เขียว และน้ำเงิน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันรุ่งขึ้นว่าจะเป็นอย่างไร
ลานกว้างบริเวณที่ตั้งชิงช้าสวรรค์เทมโปซานแห่งนี้มักจะมีกลุ่มนักแสดงอิสระมาแสดงความสามารถบ่อยๆ ซึ่งหาดูได้ไม่ยากนักในวันหยุดสุดสัปดาห์ นับว่าเรียกแขกและเสียงฮือฮาจากผู้คนที่ผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี แม้ปัจจุบันชิงช้าสวรรค์เทมโปซานพี่เบิ้มของเราจะไม่ได้เป็นชิงช้าสวรร์อันใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว แต่ก็ยังถือว่าคงความเก๋าดึงดูดผู้คนให้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนกันอยู่เสมอๆ เก๋าไม่เก๋าไม่รู้ แต่ยังคงแปะป้ายว่า "The World Tallest Ferris Wheel" อยู่เลย