นิทรรศการจำลองป้ายไฟนีออนกุลิโกะสัญลักษณ์คู่เมืองโอซาก้ามานานกว่า79ปี (เครดิตรูปภาพ: Suparkorn Netvijit)

นิทรรศการจำลองป้ายไฟกุลิโกะ

ชมป้ายไฟนีออนจำลองในย่านดงทงโบริสัญลักษณ์คู่โอซาก้า

นิทรรศการจำลองป้ายไฟนีออนกุลิโกะสัญลักษณ์คู่เมืองโอซาก้ามานานกว่า79ปี (เครดิตรูปภาพ: Suparkorn Netvijit)
Suparkorn Netvijit   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

สิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกรู้ว่าคุณได้มาเยือนโอซาก้าแล้ว คงมีเพียงสัญลักษณ์เดียวที่ทุกคนต่างมองหาที่จะไปถ่ายรูปกับ “ป้ายกุลิโกะ” นักวิ่งชูสองมือแห่งย่านดงทงโบริ (Dontonbori)

แต่คุณรู้หรือไม่ว่าป้ายกุลิโกะในปัจจุบันนี้กำลังจะถูกปรับโฉมใหม่อีกครั้งในรอบ 16 ปี และนี่ก็มิใช่การปลดป้ายไฟนีออนคุณลุงGlico Manครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 6 แล้วตลอดระยะเวลา 79 ปีที่ผ่านมา

ถึงตอนนี้คุณคงอยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าแล้วป้ายไฟนีออนสัญลักษณ์คู่เมืองโอซาก้าตั้งแต่ครั้งที่ 1 ถึงครั้งที่ 5 มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบกันที่นิทรรศการรวบรวมป้ายไฟนักวิ่งกุลิโกะจำลองที่ Ezaki Glico Memorial Hall ภายในบริษัท Ezaki Glico ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี Osaka เพียงแค่สถานีเดียวเท่านั้น

นิทรรศการนี้ถูกจัดขึ้นบริเวณชั้น 2 ของหอรวบรวมประวัติศาสตร์บริษัทกุลิโกะ เมื่อเดินเข้าไปด้านในสิ่งแรกที่จะเห็นคือบอร์ดขนาดใหญ่ที่บอกประวัติความเป็นมาของผู้ก่อตั้งบริษัทนามว่า Riichi Ezaki และมีวรรคทองที่เป็นปรัชญาการดำเนินงานกำกับไว้ว่า"สุขสันต์แห่งชีวิตที่สุดแห่งรสชาติ”

ความเป็นมาของบริษัท Ezaki Glico นั้นก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ.1919 ซึ่งคำว่า “กุลิโกะ” มาจากคำว่า Glycogen แต่คนญี่ปุ่นไม่สามารถออกเสียงคำนี้ได้ชัดเจนนัก จึงเปลี่ยนมาใช้คำว่ากุลิโกะเพื่อให้ออกเสียงเรียบง่ายและง่ายต่อการจดจำ

สารไกรโคเจนที่คุณริอิจิค้นพบได้มาจากเซลล์ในหอยนางรม และนำสารนี้มาใส่ในลูกอมเคลือบคาราเมลที่เมื่อทานเข้าไป 1 เม็ดจะให้สารอาหารเพียงพอต่อการวิ่งระยะทาง 300 เมตร นี่จึงเป็นที่มาของโลโก้นักวิ่งกำลังชูมือนั่นเอง

สำหรับป้ายไฟนีออนที่ดงทงโบรินั้น ในปัจจุบันถือเป็นป้ายรุ่นที่ 5 ที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์โอซาก้ามาช้านาน ถ้านับย้อนไปตั้งแต่ป้ายที่ 1 ที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1935 มีลักษณะเป็นหอคอยเหล็กสูงกว่า 30 เมตร มีไฟเปลี่ยนสีได้ แต่เมื่อเกิดสงครามทำให้ขาดแคลนเหล็กจึงต้องรื้อถอนและสร้างป้ายรุ่นที่ 2 ขึ้นในปีค.ศ.1955 ที่เน้นนักวิ่งชูสองมือขนาดใหญ่มองเห็นเด่นชัดมากขึ้น ต่อมาในปีค.ศ.1963 ได้เปลี่ยนป้ายไฟนีออนอีกครั้งแต่คราวนี้นักวิ่งมีไซต์เล็กลงและมีวงกลมสีเหลืองนวลล้อมรอบ ส่วนในครั้งที่ 4 เริ่มเปลี่ยนเมื่อค.ศ.1972 เป็นภาพนักวิ่งชูมืออยู่บนลู่วิ่งทางโค้ง และป้ายรุ่นที่ 5 รุ่นล่าสุดนี้ ถูกเริ่มใช้ในปีค.ศ.1998 ยังคงคอนเซปนักวิ่งชูมือขนาดใหญ่ตรงกลางแต่เพิ่มองค์ประกอบฉากหลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของโอซาก้า ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโอซาก้า เคียวเซราโดม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง และหอคอยทสึเทงคาคุ

แต่หากใครไปโอซาก้าตอนนี้คงถ่ายรูปกับป้ายรุ่นที่ 5 นี้ไม่ทันซะแล้ว เพราะป้ายเพิ่งปลดออกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา และป้ายใหม่รุ่นที่ 6 จะมาเยือนอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง

หากใครที่อยากจะมาชมป้ายกุลิโกะจำลองทั้ง 5 รุ่น สามารถมาเยี่ยมชมได้ที่ Ezaki Memorial Hall แห่งนี้ และไม่ได้มีเพียงป้ายเท่านั้น ที่นี่ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัทกุลิโกะ สาธิตการทำงานของเครื่องจักรในการผลิต ของเล่นที่เป็นของแถมในแต่ละยุคสมัย รวมทั้งยังมีวิดีทัศน์แนะนำบริษัทที่มีภาษาไทยรองรับอีกด้วย อ้อ! เมื่อชมเสร็จแล้วไกด์ประจำนิทรรศการจะนำลูกอมคาราเมลรุ่นพิเศษที่ผลิตเพื่อแจกผู้มาเยือนที่นี่เท่านั้นด้วย ใครอยากได้ของLimited Edition เช่นนี้ก็อย่าพลาดที่จะมากันนะคะ

ค่าเข้าชม ฟรี!

ช่วงเวลา เปิดให้ชมถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2014 เวลาทำการ 10.00-16.00 น. ถ้าจะไปชมในวันธรรมดาไม่ต้องจองล่วงหน้า แต่ถ้าไปวันเสาร์ ต้องโทรจองล่วงหน้าที่เบอร์ 06-6477-8257 และหยุดทุกวันอาทิตย์ค่ะ

การเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido ลงที่สถานี Tsukamoto และเดินต่ออีก 16 นาที หรือนั่งรถไฟ JR สาย Tozai ลงที่สถานี Mitejima และเดินต่ออีก 18 นาที

Suparkorn Netvijit

Suparkorn Netvijit @suparkorn.netvijit

Hi! I'm KiKi from Thailand :) I love traveling in Japan and eating sushi xoxoThank you for coming to my world and hope you enjoy!