นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1919 ที่ริอิฉิ อีซากิ ได้ค้นพบสารมีประโยชน์อย่างไกลโคเจ้น (glycogen) ในหอยนางรม ช่วงเวลานั้นเองคือจุดกำเนิดของลูกอมคาราเมลเหนียบหนึบแสนอร่อยแบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า Glico ซึ่งแผลงมาจาก Glycogen ที่อาจเรียกยากนั่นเอง ลูกอมนี้ถูกคิดค้นและทดลองตลาดครั้งแรกในปี ค.ศ.1921 หลังจากนั้นหนึ่งปีให้หลัง ริอิฉิ อีซากิ ก็ได้พยายามอย่างมุ่งมั่นที่จะนำลูกอมสุดอร่อยนี้ขึ้นห้างและผลักดันสู่สินค้าพรีเมี่ยมเพื่อให้ขนมนั้นเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนในที่สุดความสำเร็จของอีซากินั้นก็เป็นผล Glico Caramel ได้รับอนุญาติให้วางจำหน่ายที่ห้าง Mitsukoshi Department Storeชื่อดังของโอซาก้า ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1922 และวันนั้นเองก็คือวันแห่งการก่อตั้งบริษัท Ezaki Glico Co., Ltd.
ผมกำลังยืนดูภาพกูลิโกะแมนครึ่งตัวที่มีขนาดใหญ่ราวตึก 2 ชั้น ซึ่งมันเป็นด่านแรกที่จะต้อนรับเราสู่ Ezaki Glico Memorail Hall (江崎記念館) หอประวัติแห่งความทรงจำของอีซากิตลอดจนเรื่องราวอันทรงคุณค่าของกูลิโกะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ... กูลิโกะแมนซึ่งกำลังชูมือสองข้างอันเป็นเอกลักษณ์อยู่นั้นสวมชุดลายทางขาวดำอันเป็นชุดเบสบอลของทีม Hanshin Tigers อันเลื่องชื่อแห่ง จ.เฮียวโกะ ซึ่งทางกูลิโกะก็เป็นสปอนเซอร์ให้ทีมนี้ด้วย โดยกูลิโกะแมนในชุดเบสบอลนี้เป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษโดยมันเคยถูกนำขึ้นไปติดตั้งที่ป้ายนีออนชื่อดังแห่งโดตนโบริในปี ค.ศ.2003 เช่นเดียวกับกูลิโกะแมนสวมชุดนักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นที่เคยนำไปติดตั้งในช่วงฟุตบอลโลกที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วมในปี ค.ศ.2002 นั้นเอง
เจ้าหน้าที่ใจดีของพิพิธภัณฑ์กำลังนำผมขึ้นสู่พิพิธภัณฑ์กูลิโกะบนชั้น 2 ... ก่อนอื่นต้องบอกว่าพิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ภายในบริษัท Ezaki Glico Co., Ltd. ที่เขตนิชิโยโดกาว่า (Nishi Yodogawa) ชานเมืองโอซาก้า การมาชมนั้นควรนัดหมายล่วงหน้าก่อน (มีเวลาทัวร์โดยเฉพาะ / บรรยายภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) สำหรับผู้ที่ไม่ได้นัดหมายล่วงหน้าก็อาจสามารถเข้าชมได้เช่นกัน หากวันนั้นมีกลุ่มที่นัดหมายไว้ล่วงหน้า หรือกรณีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่สะดวกที่จะรองรับในตอนนั้นคุณก็อาจพลาดการเข้าชมได้ เพราะการเข้าไปชมด้านในนั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลเท่านั้น คุณไม่สามรถเดินชมได้อย่างอิสระด้วยตัวเอง
ด้านบนชั้น 2 ของอาคาร Ezaki Glico Memorail Hall (江崎記念館) นั้นจากที่ดูด้วยสายตามีพื้นที่ไม่กว้างนัก แต่ทว่าเราก็สามารถเห็นหลากหลายเรื่องราวอันน่าสนใจที่บรรจุอยู่ในพื้นที่นี้ได้ทันทีเมื่อแรกเห็นเช่นกัน หอเกียรติคุณแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและสดุดีแด่ริอิฉิ อีซากิ (Ri-ichi Ezaki) ผู้ก่อตั้งบริษัท รวมไปถึงเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของการก่อตั้ง Ezaki Glico Co., Ltd. อีกด้วย
พื้นที่แรกที่เจ้าหน้าที่พาไปชมนั้นก็คือนิทรรศการป้ายไฟนีออนกูลิโกะแมน (Glico Man Billboard) อันเลื่องชื่อนั่นเอง บริเวณนี้จะจัดแสดงป้ายแบบจำลองเหมือนจริงที่ย่อส่วนมาในสเกล 1 : 20 พร้อมภาพถ่ายในอดีตของป้ายไฟนีออนกูลิโกะแมนแต่ละอันตั้งแต่ป้ายรุ่นแรกจนถึงป้ายรุ่นที่ 5 ซึ่งป้ายรุ่นแรกสุดนั้นเป็นรูปคล้ายปรอทขนาดใหญ่ที่มีสัญลักษณ์กูลิโกะแมนอยู่ด้านบน มีความสูง 33 เมตร ป้ายนี้ถูกติดตั้งครั้งแรกที่โดตนโบริเมื่อปี ค.ศ.1935 ซึ่งแต่ละป้ายมีกำหนดการการติดตั้งในแต่ละปีดังนี้
- ป้ายไฟรุ่นที่ 1 เริ่มติดตั้งเมื่อปี ค.ศ.1935
- ป้ายไฟรุ่นที่ 2 เริ่มติดตั้งเมื่อปี ค.ศ.1955
- ป้ายไฟรุ่นที่ 3 เริ่มติดตั้งเมื่อปี ค.ศ.1963
- ป้ายไฟรุ่นที่ 4 เริ่มติดตั้งเมื่อปี ค.ศ.1972
- ป้ายไฟรุ่นที่ 5 เริ่มติดตั้งเมื่อปี ค.ศ.1998
- ป้ายไฟรุ่นที่ 6 เริ่มติดตั้งเมื่อปี ค.ศ.2014
หลังจากที่ได้ชมนิทรรศการป้ายไฟนีออนกูลิโกะแมน (Glico Man Billboard) แล้วเจ้าหน้าที่จะพาเราไปรู้จักกับประวัติของริอิฉิ อีซากิ (Ri-ichi Ezaki) ผ่านภาพยนตร์สั้นๆ ตลอดจนนิทรรศการที่ทำให้เราได้เห็นอัตตะชีวประวัติของการต่อสู้ของบุคคลสำคัญตั้งแต่เด็กจนเสียชีวิต นอกจากภาพถ่ายในอดีตและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับริอิฉิ อีซากิ (Ri-ichi Ezaki) และกูลิโกะแล้ว หนึ่งในสมบัติล้ำค่าชิ้นสำคัญที่จัดแสดงอยู่ที่นี่ก็คือเครื่องผลิต Glico Caramel เครื่องแรกที่อีซากิเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นเอง และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นอันสำคัญที่ก่อให้เกิดการบันทึกประวัติมาจนถึงทุกวันนี้
มาถึงโซนที่ผมหยุดยืนดูอยู่นานที่สุด และสร้างรอยยิ้มให้ผมได้มากที่สุด (และน่าจะเหมือนกับใครอีกหลายๆ คน) ... โซนนี้ก็คือมุมจัดแสดงของเล่นของกูลิโกะที่เป็นของแถมขวัญใจเด็กๆ มากับกล่องขนม Glico Caramel นั่นเอง เด็กในรุ่นปัจจุบันที่มาดูโซนนี้อาจจะไม่ตื่นเต้นอะไรมากนัก แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นเด็กตัวโตนั้นต่างก็อมยิ้มกันทุกคนเลยทีเดียว เพราะของเล่นทุกชิ้นนั้นเรียกความทรงจำอันทรงคุณค่าในอดีตได้เป็นอย่างดีทีเดียว ของเล่นอันเป็นของแถมของกูลิโกะนี้กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่สร้างความผูกพันระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม ของเล่นกว่า 4,000 ชิ้น นั้นถูกจัดแสดงไว้ในตู้กระจกอย่างดี ตั้งแต่ชิ้นแรกจนถึงชิ้นล่าสุดในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ของเล่นกระดาษ ของเล่นโลหะ ของเล่นพลาสติก ยันของเล่นไม้ ซึ่งพอเห็นภาพรวมแล้วเราก็จะเห็นพัฒนาการของความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีนิทรรศการน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน อาทิ Poky กล่องแรกที่ออกวางจำหน่าย ไปจนถึงรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลกต่างๆ ที่ทาง Ezaki Glico Co., Ltd. ได้รับ การจัดแสดงเครื่องจำหน่ายขนมอัตโนมัติของกูลิโกะ (Glico Vending Machine with Built-in Movie) ในยุคอดีตที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1931 พัฒนาการของโลโก้กูลิโกะรวมถึงกูลิโกะแมนจากเริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงโซนการตลาดที่จัดแสดงเส้นทางการโฆษณาผลิตภัณฑ์กูลิโกะในญี่ปุ่น ตลอดจนฉายโฆษณาทีวีของกูลิโกะเวอร์ชั่นล่าสุดจากทั่วโลก ซึ่งก็รวมถึงโฆษณากูลิโกะของประเทศไทยด้วย
ปัจจุบันนั้น Ezaki Glico Go., Ltd. ขยายบริษัทและตลาดขนมหวานไปทั่วโลก มีขนมขบเคี้ยวที่คนไทยและคนทั่วโลกรู้จักตามมาอีกมากมายอย่าง Pocky, Pretz, Collon เป็นต้น ... ถึงแม้ Ezaki Glico Memorail Hall (江崎記念館) จะเป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กนั้น แต่มันก็สามารถฉุดให้เราอมยิ้มกับอดีตและปัจจุบันได้ในเวลาเดียวกัน และสามารถสร้างความประทับใจให้กับเราได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ก่อนจะลากลับ เจ้าหน้าที่หยิบกล่องขนมสี่เหลี่ยมจตุรัสสีแดงสดที่มีโลโก้กูลิโกะแมนอยู่ตรงกลางอย่างเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญมันมาพร้อมของเล่นไม้ชิ้นเล็กๆ ซึ่งเป็นของแถมคู่กับขนมนี้ แน่นอนว่ามันสามารถฉีกยิ้มผมให้กว้างขึ้นไปอีกก่อนที่จะลากลับออกไป ... ขนมนี้เป็นของที่ระลึกที่แจกฟรีให้กับผู้มาเยือนทุกคน ซึ่งมันก็คือลูกอม Glico Caramel รสชาติดั้งเดิมแบบในอดีตที่ปั๊มเป็นรูปหัวใจ และนี่ก็คือลูกอมแบบแรกและแบบดั้งเดิมที่ Ezaki Glico Co., Ltd. ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์และให้ได้ขึ้นวางจำหน่ายครั้งแรกในห้าง Mitsukoshi Department Store เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1922 นั่นเอง
---------------------------------------------------------------
Ezaki Glico Memorail Hall (江崎記念館)
+ ที่ตั้ง : 4-6-5 Utajima, Nishi Yodogawa Ward, Osaka City, Osaka.
+ เวลาให้บริการ : จ.-ศ. > รอบบริการ 13.30, 14.30, 15.30 (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) / ควรนัดหมายจองรอบทัวร์ล่วงหน้า
+ ติดต่อ : 06-6477-8352 / เว็บไซต์ : www.glico.co.jp/en
+ วิธีเดินทาง : JR West > เริ่มต้นที่สถานี Osaka Station นั่งรถไฟสาย JR Kobe Line หรือ JR Takarazuka Line ลงสถานี Tsukamoto แล้วเดินต่ออีกราว 15 นาที