The Beef House GYUS.

รีวิว
เครดิตรูปภาพ: The Beef House GYUS.

The Beef House GYUS specialises in all things beef. Based in the Shonan region, GYUS focuses on selecting the freshest and top-quality beef and horumon (innards), then cooking them with utmost care and dedication. Enjoy several varieties of top-class beef, including local Shonan wagyu, Miyazaki beef and Kagoshima black beef. Try from a range of styles, including hamburg steak, beef steak and yakiniku courses. GYUS also has full Halal certification.

ข้อมูล

ที่อยู่

2F Hayashi Building, 576 Fujisawa, Kanagawa, Japan 〒251-0052 (ทิศทาง)

เวลาเปิดทำการ

Closed today

เวลาเปิดทำการ

วันจันทร์ ปิดทำการ
วันอังคาร ปิดทำการ
วันพุธ 12:00 - 14:00, 18:00 - 23:00
วันพฤหัสบดี 12:00 - 14:00, 18:00 - 23:00
วันศุกร์ 12:00 - 14:00, 18:00 - 23:00
วันเสาร์ 12:00 - 14:00, 18:00 - 23:00
วันอาทิตย์ 12:00 - 14:00
Holidays 12:00 - 14:00, 18:00 - 23:00

หมายเลขโทรศัพท์

0466-29-1129

Language support

  • English

Dietary

  • Halal

Payment Method

  • ยินดีรับบัตรเครดิต

Dining Options

  • Lunch
  • Dinner
  • Takeout

บทความที่เกี่ยวข้อง

สำรวจพื้นที่ใกล้เคียง

โรงเตี๊ยมไทเซน-คาคุของตามาคูระ

โรงเตี๊ยมไทเซน-คาคุของตามาคูระ

Tomoko Kamishima

ไทเซน-คาคุเป้นโรงเตี๊ยมอายุ 100 ปี และอยุ่ติด ๆ กับวัดฮาเสะ คันนอนเลย บริการของที่นี่จะเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจของคุณที่คามาคูระ

คานากาว่า 3.8k
โกคัน

โกคัน

ที่โกคัน ภูมิใจนำเสนออาหารสไตล์เกาหลีที่ดีที่สุดในย่านโชนัน เมนูความอร่อยแบบฉบับเกาหลีแท้ๆที่ต้องลิ้มลอง คือ แดกแกลบี บิบิมบับ หรือกิมจิโฮมเมด

คานากาว่า ห่าง 3.6 กิโลเมตร
Bills Shichirigahama

Bills Shichirigahama

Bills is run by Bill Granger, an internationally renowned Australian chef, who is particularly well known for his brunches.

คานากาว่า ห่าง 4.5 กิโลเมตร
คิ-โทะ-โทะคิ

คิ-โทะ-โทะคิ

ใช้ผลิตภัณฑ์ปลอดจากสัตว์ ข้าวกล้อง และผักสดที่มาจากท้องถิ่น ที่คิ-โทะ-โทะคิ รังสรรค์อาหารมังสวิรัติชั้นเยี่ยมที่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังดูเพลินอีกด้วย มาลองชุดอาหารและเครื่องดื่มหมัก 17 ชนิดพร้อมของหวานและชาสมุนไพร หรือกาแฟหลังอาหารกันเถอะ

คานากาว่า ห่าง 5 กิโลเมตร
Sasuke Inari Shrine

Sasuke Inari Shrine

Sasuke Inari Shrine is a Shinto shrine in Kamakura and the site of the Hidden Village of Kamakura. It is located very near the Zeniarai Benzaiten Ugafuku Shrine. [Wikipedia]

คานากาว่า ห่าง 5 กิโลเมตร
Kotoku-in

Kotoku-in

Kotoku-in is the more common name for Taiizan Kotoku-in Shojosen-ji in Kamakura, Kanagawa Prefecture. This Jodo-shu Buddhist temple is known for its Daibutsu, or great Buddha, which is one of the most famous icons of Japan. The statue, commonly known as the Kamakura Daibutsu (Big Buddha of Kamakura), is a colossal copper image of the Amitabha Buddha. The Buddha, which was declared a national treasure by the Japanese government, is about 11.3 meters high and weighs about 121 tons. The Kotoku-in belongs to the Jodo sect, a traditional Buddhist sect founded by the priest Honen (1133-1212) who was a follower of Amitabha. According to the Jodo sect's belief system, all people are equal and one only has to sing the "Nenbutsu" to receive the protection of Amitabha and to be reborn in one's "pure land".

คานากาว่า ห่าง 5 กิโลเมตร
คามาคุระ ไดบุซึ

คามาคุระ ไดบุซึ

คุณรู้หรือไม่ว่าสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการภาพถ่ายที่ระลึกของนักท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นคือที่ไหน? และคุณรู้หรือไม่ว่ารูปปั้นรูปแรกที่ได้รับการถ่ายภาพ และแนะนำให้นักเดินทางชาวต่างชาติได้รู้จักคือารูปปั้นอะไร? คำตอบสำหรับคำถามทั้งสองนี้จะเหมือนกัน คือ คามาคุระ ไดบุซึ คามาคุระ ไดบุซึ เป็นรูปปั้นบรอนซ์ที่สร้างขึ้นในกลางศตวรรษที่ 13 (760 ปีก่อน) พระพุทธรูปที่นั่งสมาธิกลางแจ้งมาเป็นเวลากว่า 500 ปี หลังจากการสูญเสียวิหารที่สร้างครอบองค์พระเดิม เมื่อคุณมาเยี่ยมชม คุณอาจเห็นพระพุทธรูปนั่งกลางสายฝน หรือเหงื่อออกภายใต้ดวงอาทิตย์ หรือเพียงแค่เพลิดเพลินไปกับฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น เมื่อใดก็ตามที่คุณมาเยี่ยมชม การแสดงออกทางใบหน้าของพระพุทธรูปจะสัมผัสหัวใจของคุณ คามาคุระ ไดบุซึได้รับการอนุรักษ์ไว้ ไม่มีการบูรณะตั้งแต่พระพุทธรูปถูกสร้างขึ้น ในขณะที่บริเวณรอบๆ ได้มีการสร้างขึ้นใหม่ ประวัติศาสตร์ เริ่มต้นที่ศตวรรษที่ 13 รัฐบาลโชกุนคะมะกุระเริ่มครอบครองเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในขณะนั้นพุทธศาสนาแพร่หลายมาก ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างวัดขึ้นที่ทางเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตกของเมืองคามาคุระ เพื่อให้พุทธศาสนาคุ้มครอง ต่อมาพวกเขาต้องการสร้างสัญลักษณ์ของเมืองหลวงใหม่ และนั่นก็คือ พระพุทธรูปไดบุซึ จากบันทึกเก่าแก่ของ รัฐบาลโชกุนคะมะกุระ ‘อะซุมะ คะกะมิ’ (Azuma Kagami) การก่อสร้างพระพุทธรูปไดบุซึองค์แรก เริ่มขึ้นในปี 1238 และพิธีเฉลิมฉลองการสร้างเสร็จมีขึ้นในปี 1243 เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจากไม้ แต่ในปี 1252 การหล่อพระพุทธรูปไดบุซึองค์ที่สองได้มีขึ้น นั่นหมายความว่าพระพุทธรูปไดบุซึองค์ที่สองอายุเกือบ 760 ปี! รายละเอียดเกี่ยวกับก่อสร้าง ตอนนี้ฉันจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระพุทธรูปไดบุซึ คุณเห็นชิ้นส่วนของแผ่นทองที่แก้มขวาของพระพุทธรูปไดบุซึหรือไม่? เดิมทีพระพุทธรูปองค์นี้ปิดทองทั่วทั้งองค์ พระพุทธรูปไดบุซึที่นาราทำจากทองแดง แล้วชุบทอง แต่พระพุทธรูปไดบุซึของคามาคุระทำจากบรอนซ์ (ทองแดง 68.7% ดีบุก 9.3% และตะกั่ว 19.6%) ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะชุบทองโดยใช้เทคนิคของยุคนั้น แต่พวกเขาปิดทองบนพระพุทธรูปแทน รายละเอียดเกี่ยวกับตา ความยาวระหว่างมุมด้านในและด้านนอกของตามีขนาดประมาณหนึ่งเมตร หูมีขนาดสูง 1.95 เมตร และมีรูต่างหูขนาดใหญ่ (พระสิทธารถได้เจาะหูก่อนที่พระองค์จะออกบวช) และคุณสามารถเห็นสิ่งที่อยู่ใต้จมูกขององค์พระพุทธรูป ใช่แล้วพระพุทธรูปไดบุซึ มีหนวด! พระพุทธรูปไดบุซึสูง 11.387 เมตร สร้างขึ้นทีละขั้นตอน โดยการเทโลหะถึงสิบครั้ง เริ่มเทจากด้านล่างไปเรื่อยๆ จนถึงส่วนเศียรของพระพุทธรูป คุณสามารถเห็นรอยต่อของการเทแต่ละครั้ง เหมือนกับงานผ้าต่อไปทั่วพระกายของพระพุทธรูป (คล้ายวงแหวนของต้นไม้) มีรอยเชื่อมต่อมากมายภายในองค์พระพุทธรูป ที่เชื่อมต่อชิ้นบรอนซ์ให้เข้ากันอย่างหนาแน่น นอกจากนี้คุณยังอาจสังเกตเห็น หินหลายๆ ก้อนกระจัดกระจายอยู่รอบพระพุทธรูป พื้นผิวของหินเหล่านี้แบนราบ พวกเขาสันนิฐานกันว่า อาจจะเป็นหินรากฐานของอาคารซึ่งเคยเป็นวิหารที่สร้างครอบองค์พระพุทธรูปไดบุซึ วิหารได้ถูกทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายๆ ครั้ง แล้วในที่สุดก็พวกเขาตัดสินใจให้องค์พระประทับอยู่กลางแจ้ง ภายใต้ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ จากบันทึกเกี่ยวกับพระพุทธรูปไดบุซึได้มีการบูรณะในปี 1335 (ไทเฮะกิ) และในปี 1369 (คามาคุระ ได-นิกกิ) และในหนังสือไบกะ มุจิงโซะ (Baika Mujinzo) ได้กล่าวว่าเอาไว้ว่าพระพุทธรูปไดบุซึไม่มีวิหารครอบตั้งแต่ปี 1486 ดังนั้นนักวิชาการส่วนใหญ่จึงสันนิษฐานกันว่า วิหารครอบองค์พระพุทธรูปไดบุซึ ได้ถูกทำลายตั้งแต่ปี 1369 แต่บางคนเชื่อกันว่าคลื่นสึนามิในปี 1498 ได้ทำลายวิหารครอบองค์พระพุทธรูปไดบุซึ แต่ก็ไม่มีหลักฐาน จากการขุดวิจัยในปี 2000 แสดงให้เห็นว่าไม่มีการสร้างอาคารใด ๆ หลังจากปี 1369 เรื่องราวของพระพุทธรูปไดบุซึในปัจจุบัน นี่เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ เมื่อ 40 ปีมาแล้ว ครอบครัวหนึ่งมาจากสหรัฐอเมริกา มาที่คามาคุระ เพื่อชมพระพุทธรูปไดบุซึ ในขณะนั้นเด็กคนหนึ่งของครอบครัวไม่ชื่นชมกับพระพุทธรูปเท่าที่ควร แม้ว่าพ่อแม่ของเขาจะชื่นชมพระพุทธรูปอย่างลึกซึ้งก็ตาม สิ่งเดียวที่เด็กคนนั้นสนใจคือไอศครีมชาเขียวที่ขายในบริเวณใกล้เคียง หลายปีต่อมา มีการประชุมเอเปคที่จัดขึ้นในโยโกฮามาในปี 2010 ผู้แทนจากทุกประเทศทั่วโลกได้มาที่คะนะกะวะ และหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลง หนึ่งในผู้แทนของโลกนั้นกระตือรือร้นที่จะเข้าชมพระพุทธรูปไดบุซึ เขาอยากจะเห็นพระพุทธรูปไดบุซึอีกครั้ง และสัมผัสพระพุทธรูปไดบุซึจริงๆ เป็นครั้งแรก เขาคือเด็กคนนั้นที่เคยมาเยี่ยมชมพระพุทธรูปไดบุซึกับครอบครัว เมื่อ 40 ปีที่แล้ว และอร่อยไปกับไอศครีม ชื่อของเขาก็คือ คุณอาจจะเดาได้ว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ฉันคิดว่าเสน่ห์ของพระพุทธรูปไดบุซึที่คามาคุระ อยู่ที่การแสดงออกของสีพระพักต์ สีของพื้นผิวพระพุทธรูป และสภาวะแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดในหลายๆศตวรรษ แต่พระพุทธรูปไดบุซึ ได้แสดงให้เราเห็นถึงความล้ำลึกของสีพระพักต์อย่างต่อเนื่อง อนึ่ง ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวันเบาหวานโลก ทางวัดจะมีแสงไฟสีฟ้าฉายส่ององค์พระพุทธรูปไดบุซึ โปรดดูรายละเอียดได้ที่นี่ ถัดมา กรุณาอ่านเกี่ยวกับวิธีการหล่อพระพุทธรูปไดบุซึ และอะไรที่ปรากฏบนสีพระพักต์ของพระพุทธรูปไดบุซึ ในบทความสองบทความต่อไป ชุดบทความของพระพุทธรูปไดบุซึ พระพุทธรูปที่นั่งสมาธิกลางแจ้งมาเป็นเวลากว่า 500 ปี วิธีการหล่อพระพุทธรูปไดบุซึ 1. เทคนิคพิเศษในการหล่อรูปปั้นบรอนซ์ขนาดยักษ์ 2. ความหมายล้ำลึกของสีพระพักต์ของพระพุทธรูปไดบุซึ

คานากาว่า ห่าง 5 กิโลเมตร
เที่ยวสำรวจคานากาว่า