เมจิ จินกุ (Meiji Jingu) เป็นศาลเจ้าชินโตใจกลางกรุงโตเกียว สร้างขึ้นในปี 1920 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่องค์จักรพรรดิเมจิ และพระมเหสี จักรพรรดินีโชะเก็น (Shoken) บนพื้นที่ที่ที่ทั้งสองพระองค์ชื่นชอบ และมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ เมื่อศาลเจ้าสร้างเสร็จสมบูรณ์ประชาชนชาวญี่ปุ่นได้ร่วมมือร่วมใจกัน บริจาคต้นไม้ 100,000 ต้น และร่วมมือกันปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างป่ากลางกรุง ทำให้มหานครโตเกียวมี 'ป่าศักดิ์สิทธิ์' อยู่ใจกลางเมือง
และหากคุณแวะมาชมศาลเจ้าเมจิ จินกุ ในช่วงเดือนมิถุนายน คุณก็ยังได้ชมนิทรรศการบอนไซและซุยเซะกิ ซึ่งเป็นศิลปะอันสวยงดงามของญี่ปุ่น นิทรรศการนี้เข้าชมได้ฟรี และจัดแสดงที่มุมอาคารหลักของศาลเจ้า ข้างๆ ตั่งเหล็กสำหรับแขวนแผ่นไม้อธิษฐานเอะมะ
คำว่า 'บอนไซ' (bonsai) นั้น มาจาก 'บอน' ที่แปลว่ากระถางที่มีรูปร่างคล้ายถาด ส่วน 'ไซ' แปลว่าปลูก ดังนั้นบอนไซมีความหมายว่าปลูกในถาด ประเพณีการปลูกบอนไซของญี่ปุ่นมีมานานกว่าพันปี และยังคงเป็นงานอดิเรกยอดนิยม บอนไซที่ดีควรจะแสดงต้นไม้ที่เหมือนต้นจริง มีใบเล็ก ลำต้นเรียวและมีกิ่งก้านสมดุล บอนไซเป็นศิลปะที่เคียงคู่กับ 'ซุยเซะกิ' (Suiseki)
'ซุยเซะกิ' (Suiseki) ซึ่งมาจากคำว่า ซุย แปลว่า น้ำ และ เซะกิ แปลว่า ก้อนหิน ซุยเซะกิเป็นการชื่นชมหินที่มีรูปทรงงดงามเป็นพิเศษ โดยการจัดแสดงบนถาดไม้ บอนไซมักจะจัดแสดงพร้อมกับซุยเซะกิ
สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ศาลเจ้าเมจิ จินกุ คือสถานีฮาราจูกุ บนรถไฟสายเจอาร์ ยะมะโนะเตะ (JR Yamanote) และสถานี เมจิ จินกุ มะเอะ (Meiji-jingu-mae) บนรถไฟสาย ชิโยะดะ (Chiyoda) และ ฟุกุโตะชิน (Fukutoshin)