ความสนุกอย่างหนึ่งของการเที่ยวแบบ Backpacker ก็คือ "การลองผิดลองถูก" ลองกินลองเที่ยวแบบไม่ต้องสนใจว่าจะสนุกหรืออร่อยหรือไม่ ดูเหมือนผมและผองเพื่อนจะยังมีโชคแห่งการเริ่มต้นกับมื้อแรกที่แดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ "ร้านจังเคนคามาตะ"หรือ "ร้านเนื้อคามาตะ"(ที่เราตั้งชื่อกันเอง) กลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ระดับคิดถึงแล้วน้ำลายสอที่ตราตรึงล้ินของพวกเราไปอีกนาน
เวลาราวเที่ยงคืนหลังจากที่พวกเราเช็คอินที่โรงแรมพร้อมเก็บกระเป๋าเรียบร้อย แม้ร่างกายจะอิดโรยจากเที่ยวบินLow cost อันแสนทรหด แต่หัวใจมันกลับสดใสซาบซ่ายิ่งกว่าสไปร์ทผสมยาม้า(ว่าเข้านั้น จริงๆคือหิว!) พวกเราจึงปรบเท้ากันเดินออกจากโรงแรมเพื่อไปค้นหาประสบการณ์ที่แสนหอมหวาน(บอกว่าหาของกินก็ได้!!)
เราพบร้านอาหารแบบโลค่อลร้านนี้ใกล้ๆกับโรงแรม ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ หน้ากว้างหนึ่งห้องแถว หน้าร้านมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นกำลังนั่งกินดื่มกันชิลล์ๆ เรายืนอยู่หน้าร้านให้พอขวยเขินได้พักหนึ่งก่อนที่กลุ่มนักกินเจ้าบ้านต้องยอมลุกขึ้นหลีกทางให้กะเหรี่ยงสี่คนเข้าไปในร้าน (ก็บอกแล้วร้านมันเล็ก อย่าลืมกล่าวคำว่า โกเมนนะไซ พร้อมทำหน้าสำนึกผิดพองาม แต่ถ้าทำอะไรผิดเค้าด่ามา ให้ออกตัวไปเลยว่าเป็นคนไต้หวัน เฮ้ย!พอ! เข้าเรื่อง!)
ร้านเล็กๆนี้มาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ "จังเคนคามาตะ" เดาจากเวลาที่พวกเราเข้าร้าน คาดว่าร้านนี้ไม่น่าเปิดก่อนบ่ายสี่โมงส่วนเวลาปิดยืนยันว่าเกินตีหนึ่งครึ่งแน่นอน พนักงานในร้านมีเพียงหนึ่งคนซึ่งควบ 3 ตำแหน่ง แม่ครัว เด็กเสิร์ฟ และแคชเชียร์ เมนูในร้านมีภาษาอังกฤษเบาบางแต่มีรูปประกอบ ร้านนี้มีความโดดเด่นที่ราคาคือทุกเมนูราคาจะเท่ากันที่ 290 เยน บวกvat ปัดเศษแล้วเท่ากับจานละ 305 เยน หลังจากสื่อสารด้วยภาษาใบ้พองามได้เมนูหยั่งความอร่อยกันมาก่อน 4 จาน
อาจจะด้วยความหิวทำให้ทุกจานรสชาติอยู่ในระดับทำให้น้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้ม แต่ที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของผองเพื่อนทั้งสี่คือ เจ้า"เนื้อคามาตะ" เนื้อคัตซึทอดกึ่งดิบหั่นพอดีคำวางบนใบบัว (ตลก!) ใบอะไรซักอย่าง สัมผัสของความกรอบนอกนุ่มใน รสชาติเนื้ออันเข้มข้น มองตากันก็รู้ใจผลัดกันสั่งเนื้อคามาตะออกมาเรื่อยๆ ปิดยอดที่ 6 จานแบบพออิ่มไม่จุก ยืนยันว่าอร่อยจริงไม่ใช่เพราะความหิวแล้ว
หากใครต้องการลองชิมเนื้อคามาตะrecommend โดยแก๊งกะเหรี่ยงของผม นั่งรถไฟJR มาลงสถานี Kamata ออกจากสถานีมองไปทางซ้ายเดินเข้าไปในซอย เข้าซอยแล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกแรกเดินตามทางเรื่อยๆจะเจอร้านเนื้อคามาตะเทพร้านนี้ที่ด้านขวามือ
ไปๆมาๆมื้อนี้กลายเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดในทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ เพราะมื้ออื่นไม่อร่อยอีกเลย(สัส!) จริงๆอร่อยแบบน้ำลายกระเซ็นทุกมื้อ แต่เหนือกว่าความอร่อยของอาหารคือความตื่นเต้นและความสดใสในการได้ลองกิน ลองไป ลองหลงนี่แหละครับ ประเทศนี้ยังมีอะไรให้คุณมามั่วอีกเยอะ อยากจะลองมั่วตามรอยพวกเราก็ได้ไม่ว่ากัน.... เนื้อคามาตะ เนื้อคามาตะ ฮุยเล ฮุยเล ฮิ้วๆๆ
