เมื่อพูดถึงโตเกียว เราก็มักจะนึกถึงหมู่ตึกที่สูงเสียดฟ้า เทคโนโลยีที่นำสมัย และผู้คนแน่นเอี๊ยดบนรถไฟ แต่ทว่า ก็ยังมีบางสถานที่ที่ช่วยให้คุณได้หลบหนีออกมาจากความเร่งรีบและความวุ่นวายของป่าคอนกรีต หนึ่งในนั้นก็คือ ศาลเจ้าเมจิ หรือที่เรียกกันว่า เมจิจินงุ (Meiji Jingu) ศาลเจ้าเมจิเป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ดวงวิญญาณของ สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและพระจักพรรดินีโชเก็ง เดิมทีศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 แต่ไม่นานนักศาลเจ้าเมจิก็ต้องมีชะตากรรมอันแสนเศร้า เพราะได้ถูกทำลายลงในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากนั้นไม่นาน ศาลเจ้าเมจิก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ศาลเจ้าเมจินั้นรายล้อมไปด้วยป่าที่มีพื้นที่กว่า 700,000 ตารางเมตร มีต้นไม้ประมาณ 120,000 ต้น กว่า 365 ชนิดพันธุ์ ภาพของป่าในเมืองใหญ่นั้นเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความตรงข้ามกันระหว่างความเก่าและใหม่ของประเทศญี่ปุ่น หากคุณเดินออกจากหน้าประตูหลักของศาลเจ้าเมจิมา 5 นาที คุณก็จะพบว่าตัวเองกำลังเดินอยู่บนถนนทาเคชิตะซึ่งเป็นถนนที่จอแจและเป็นแหล่งของชาวพังค์
ช่วงเวลาที่คุณก้าวเข้าสู่ประตูโทริอิขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ตรงทางเข้า คุณก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งความสงบเงียบภายในบริเวณนั้น ลองก้าวเดินไปตามทางเดินที่ยาวและกว้างขวางเพื่อเข้าสู่ตัวศาลเจ้าดูสิ สิ่งนี้ก็จะมอบประสบการณ์อันแสนเพลิดเพลินให้แก่คุณ ซึ่งทั้ง2 อย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสามารถหาได้ง่ายๆในโตเกียว
ในระหว่างทางเดินนั้น ก่อนที่คุณจะพบกับศาลเจ้าเมจิก็ยังมีสิ่งที่จะดึงดูดความสนใจของคุณ หนึ่งในนั้นก็คือ สวนที่อยู่ภายในศาลเจ้า (เสียค่าเข้าชม 500 เยน) สถานที่แห่งนี้เป็นบ้านของผู้ทรงอิทธิพลของญี่ปุ่น และยังมี “บ่อน้ำคิโยมาสะ” หรือคุณอาจจะอยากเข้าชมคลังสมบัติ ที่ภายในได้จัดแสดงสิ่งของส่วนพระองค์ของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี และท้ายสุดคือการเข้าชมตึกพิพิธภัณฑ์ภาคผนวก เพราะที่นี่มักจะมีนิทรรศการต่างๆมาจัดแสดงอยู่เสมอ
การเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาชินโตตรงบริเวณหลัก ก็เป็นสิ่งที่แสนจะคุ้มค่าซึ่งจะช่วยให้คุณได้เข้าถึงกับจิตวิญญาณของตนเอง และคุณยังสามารถล้างมือและบ้วนปาก เพื่อชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะเข้าไปในศาลเจ้า ทัั้งยังสามารถหาซื้อเครื่องรางต่างๆให้กับตัวคุณเอง นอกจากนี้แล้ว คุณต้องไม่พลาดที่จะเขียนคำอธิฐานบนแผ่นไม้ห้าเหลี่ยม และนำไปติดบนบริเวณห้องโถงเพื่อให้มันเป็นจริงอีกด้วย
ศาลเจ้าเมจินั้นแสนจะน่าทึ่ง ไม่ว่าคุณจะมองสักกี่ครั้งก็ตาม โครงสร้างซึ่งสร้างจากไม้และทองแดงตั้งอยู่อย่างสงบบนพื้นหิน ราวกับจะรอให้คุณมาเยี่ยมเยือน ภายในศาลเจ้า มีที่ให้คุณขอพรโดยการปาเหรียญให้ลงในกล่องไม้ หลังจากนั้นก็ปรบมือเพื่ออธิฐาน ขอแนะนำให้ไปศาลเจ้าเมจิในวันอาทิตย์ เพราะมีโอกาสที่จะได้เห็นพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในที่นี้ด้วย
ทั้งบริเวณศาลเจ้า และพื้นที่หลักนั้นได้ให้ความรู้สึกถึงความสงบและศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่หาสัมผัสได้ยากในโตเกียว สถานที่แห่งนี้สามารถเข้าชมได้สะดวกและไม่เสียค่าเข้าซึ่งเหมาะกับทุกๆคน ไม่ว่าคุณจะต้องการจะพักจากความวุ่นวายในเมือง หรือต้องการจะสัมผัสความเก่าแก่ของญี่ปุ่น ผมมั่นใจว่า ที่ศาลเจ้าเมจิแห่งนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย